แบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการ (Process Evaluation)
กิจกรรม | ระยะเวลา | เป้าหมาย/วิธีการ | ผลการดำเนินงาน | ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ||
กิจกรรมเฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก | 1 มี.ค. 2561 | 22 พ.ค. 2561 |
|
1.1ดำเนินการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเด็กอายุ 5- 12 ปี 1.2 บันทึกผลในสมุดทะเบียนเด็กและสมุดบันทึกสุขภาพเด็ก พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ 1.3 จัดทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม แยกเป็นรายเฉพาะ 1.4 จัดทำคู่มือเมนูอาหารแต่ละชนิด คุณประโยชน์ของอาหารแต่ละชนิดและโภชนาการสำหรับเด็ก |
|
กิจกรรมที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามภาวะทุพโภชนาการเด็ก โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำเอกสารสมุบันทึกสุขภาพนักเรียน โดยจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ทุกเดือน และทำทะเบียนเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และเด็กที่มีน้ำหนักน้อยหรือผอม และมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อติดตามเรื่องภาวะทุพโภชนาการและการได้รับประทานอาหารของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน และจัดทำคู่มือเมนูอาหารสำหรับเด็กวัยเรียน แจกให้ผู้ปกครองเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรมพบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21 |
|
กิจกรรมติดตามเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์, เกินเกณฑ์และกลุ่มเสี่ยงโดยภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ | 2 เม.ย. 2561 | 6 พ.ย. 2561 |
|
เยี่ยมบ้านและชั่งน้ำหนัก/วัดส่วนสูง เดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 3 เดือน พร้อมทั้งแนะนำผู้ปกครองให้ดำเนินการต่อเนื่อง |
|
กิจกรรมที่ 3 ติดตามเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินและผอมโดยภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กที่มีปัญหาด้านภาวะทุพโภชนาการ โดยโรงเรียนจัดกิจกรรมออกเยี่ยมบ้าน ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพและเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและจัดให้มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงเดือนละครั้ง ผลการติดตามพบว่า ก่อนดำเนินกิจกรรมนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการทั้งหมด มีจำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 38.52 หลังดำเนินกิจกรรม พบว่า นักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการ มีจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21 |
|
กิจกรรมให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง และแม่ครัว โรงเรียนบ้านปิใหญ่ | 23 เม.ย. 2561 | 7 ส.ค. 2561 |
|
อบรมให้ความรู้ เรื่อง
|
|
กิจกรรมที่ 2.1 ให้ความรู้เรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก 5-13 ปี แก่ครู ผู้ปกครอง แม่ครัวและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า คะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 81.04 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินรายข้อ พบว่า ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมและความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความสำคัญของอาหาร มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.63 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กวัยเรียน มีค่าเฉลี่ย 81.43 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มี่าเฉลี่ยต่ำสุด 77.05 |
|
กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ | 1 มิ.ย. 2561 | 21 ส.ค. 2561 |
|
4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน
- หนอนน้อยนับเลข
- หนอนน้อยเรียนรู้เลข
- ตารางกระโดด 9 ช่อง
- ตารางอีฉุด
- ตารางเรียนรู้ภาษาไทย
- ตารางเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
4.2 ออกกำลังกายตามความสนใจ
- ครูและเด็กนักเรียนร่วมกันออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทุกวัน เวลา 15.00-16.00 น. ตามชมรมต่างๆ ดังนี้
1. ชมรมวอลเล่ย์บอล
2. ชมรมแบตมินตัน
3. ชมรมฮูลาฮุป
4. ชมรมฟุตบอล
- แกนนำนักเรียนบันทึกผลการออกกำลังกายของแต่ละชมรม รายงานครูผู้รับผิดชอบ
- ครูผู้รับผิดชอบแต่ละชมรม ทดสอบสมรรถภาพร่างกายหรือประเมินความแข็งแรงของร่างกายของสมาชิกในชมรมทุก 3 เดือน
4.3เต้นแอโรบิกตอนเย็น
- รับสมัครสมาชิกการออกกำลังกานโดยการเต้นแอโรบิค
- อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิคจำนวน 5 วันๆละ 2 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิคทุกวัน โดยผู้ที่ผ่านการอบรมผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้นำในการเต้นแอโรบิค
- วัดความดันโลหิตและน้ำหนัก ส่วนสูง ก่อนดำเนินกิจกรรมและหลังดำเนินกิจกรรม อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเปรียบเทียบภาวะสุขภาพของสมาชิก
- สมาชิกที่ร่วมออกกำลังกายมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ผู้ดูแลระบบเรียกมาเพื่อให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
4.4 ส่งเสริมทันตสุขภาพ
- คัดเลือกแกนนำนักเรียนหรือสารวัตรนักเรียน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสุขภาพในช่องปากของนักเรียนเบื้องต้น รายงานครูผู้รับผิดชอบ
- อบรมให้ความรู้เรื่องทันตสุขภาพ สำหรับเด็กวัยเรียน หลักสูตร1 วัน
- รณรงค์ให้นักเรียนทุกคน แปรงฟันหลังอาหารทุกวัน
- บันทึกการแปรงฟันและตรวจสอบโดยแกนนำนักเรียน
- กรณีเจอนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปากไม่รุนแรง ครูผู้ดูแลเชิญผู้ปกครองมาให้คำปรึกษา แนะนำ |
|
กิจกรรมที่ 4 ส่งเสริมการออกกำลังกายและพัฒนาการ 4.1 สร้างลานตัวหนอนเพื่อการเรียนรู้ บริเวณ ถนนหน้าอาคารเรียน (สนาม BBL) โดยนักเรียนและผู้ปกครอง ผลการดำเนินงาน โรงเรียนมีลานตัวหนอนเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2 จุด คือ ถนนหน้าอาคารเรียน 1 และลานตัวหนอนหน้าอาคารเรียนอนุบาล โดยเด็กจะใช้ลานตัวหนอนในการเล่นออกกำลังกายในช่วงเวลาว่าง หรือตอนพักกลางวัน มาเล่นกิจกรรมการเรียนรู้บนลานตัวหนอนต่างๆ ส่งผลให้นักเรียนร้อยละ 80 มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา และรักการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น 4.2 กิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โรงเรียนจัดตั้งชมรมกีฬาเพื่อสุขภาพ มีชมรมวอลเลย์บอล ชมรมแบตมินตัน ชมรมฟุตบอล และชมรมฮูลาฮูป เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนหรือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มาออกกำลังกายก่อนกลับบ้าน จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายให้กับนักเรียนทุกคนได้ใช้อย่างพอเพียง จากการดำเนินงานตามโครงการที่กล่าวมาแล้ว ส่งผลให้เด็กและผู้ปกครองร้อยละ 80 มีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน รู้จักหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค อุบัติเหตุ ถัย และสิ่งเสพติด การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเลื่อนไหวตามวัย 4.3 กิจกรรมเต้นแอโรบิคเพื่อออกกำลังกายในตอนเย็น เพื่อให้นักเรียน ประชาชน มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ และเพื่อสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ผลการดำเนินการ ทางโรงเรียนเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงตอนเย็น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักและส่วนสูงตามวัย ลดปัญหาทุพโภชนาการ มีสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตนเอง การได้ออกกำลังกายบ่อยๆ ส่งผลให้เด็กมีทักษะในการเคลื่อนไหวตามวัย 4.4 กิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ ผลการดำเนินการเพื่อดูแลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้เรียนดูแลให้ผู้เรียนรักษาความสะอาดอนามัยส่วนตัว จัดกิจกรรมแปรงฟังหลังอาหารกลางวัน โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลละงู มาอบรมวิธีการดูแลสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กวัยเรียน สอนวิธีการแปรงฟัน การตรวจฟันเพื่อรักษาและตรวจสุขภาพฟัน พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรมมีค่าเฉลี่ย 83.80 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ วิธีการใช้สีย้อมฟัน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 90.00 รองลงมา คือความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ การสาธิตการแปรงฟันและฝึกการแปรงฟันที่ถูกวิธี มีค่าเฉลี่ย 84.14 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 81.61 |
|
กิจกรรมที่ 2.2 เสริมประสบการณ์ การประกอบอาหาร | 1 ส.ค. 2561 | 15 ส.ค. 2561 |
|
สอน/สาธิต การทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย เป็นการเพิ่มทักษะให้เด็กในการประกอบอาหาร ได้แก่ 1.ไข่แปรงร่าง 2.สลัดผัก/ผักโรล 3.ผักกร๊อบกรอบ 4.ซูชิแฟนซี 5.สมู๊ทตี้ผัก-ผลไม้ โดยการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ปกครอง เด็ก สำหรับกลุ่มเด็กที่มีปัญหาทุพโภชนาการ |
|
กิจกรรมที่ 2.2 เสริมประสบการณ์ การประกอบอาหาร กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ไข่แปลงร่าง" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.14 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อความรู้ประโยชน์ของไข่แปลงร่าง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 81.47 ส่วนความรู้ที่ไ้รับจากหัวข้อ ไข่แปลงร่าง คืออะไร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 79.58 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สลัดผัก/ผักโรล" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.30 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำสลัดผัก/ผักโรล มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.32 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรมและความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ผักกร๊อบกรอบ" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.43 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้และขั้นตอนการทำผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อเมนูผักกร๊อบกรอบ คืออะไร และความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของผักกร๊อบกรอบ มีค่าเฉลี่ย 81.68 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "ซูชิแฟนซี" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.96 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม และความรู้ ขั้นตอนการทำซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 82.74 รองลงมาคือ ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อประโยชน์ของซูชิแฟนซี มีค่าเฉลี่ย 82.36 ส่วนสถานที่ในการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.84 กิจกรรมสอน/สาธิตการทำอาหารเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับหนูน้อย "สมูทตี้ผัก-ผลไม้" พบว่าคะแนนความพึงพอใจในกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย 81.85 เมื่อพิจารณารายละเอียดของแบบประเมินความพึงพอใจรายข้อ พบว่า ความรู้ที่ได้รับจากหัวข้อ ประโยชน์ของสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 83.16 รองลงมาคือ ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมและความรู้และขั้นตอนการทำสมูทตี้ผัก-ผลไม้ มีค่าเฉลี่ย 82.74 ส่วนความเหมาะสมของอาหารว่างและเครื่องดื่ม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 80.63 |
|
กิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานกองทุนฯ | 3 ก.ย. 2561 | 6 พ.ย. 2561 |
|
จัดทำรูปเล่มรายงาน |
|
ได้จัดทำรูปเล่มรายงาน |
|