โครงการหมอครอบครัวเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลคนพิการในชุมชน
ชื่อโครงการ | โครงการหมอครอบครัวเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลคนพิการในชุมชน |
รหัสโครงการ | 61-L4150-1-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา |
วันที่อนุมัติ | 12 มีนาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 28 มีนาคม 2561 - 7 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 28 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางนูรฮายาตี ซามะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสาวธัญลักษณ์ มโนกิตติพันธ์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.504,101.125place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | 25 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากการลงเยี่ยมบ้านพบว่า ประชาชนในเขตรับผิดชอบศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองเทศบาลตำบลยะหา มีปัญหาด้านสุขภาพและมีวิธีดูแลสุขภาพของตนเองและของครอบครัวยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งปัญหาสุขภาพที่สำคัญของครอบครัว ได้แก่การเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นโรคไข้หวัด ปวดศีรษะ ปวดขา โรคกระเพาะ ปัญหาโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ และปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาสุขภาพที่มีผลกระทบต่อครอบครัวในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ ค่าใช้จ่าย และด้านจิตใจ ซึ่งวิธีการดูแลสุขภาพของครอบครัวเมื่อเกิดการเจ็บป่วย พบว่าครอบครัวส่วนใหญ่ จะทราบวิธีการดูแลสุขภาพเมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยได้ดี นอกจากนี้ยังมีการดูแลที่ไม่ถูกต้อง เช่น การดูแลฟื้นฟูผู้พิการ เพื่อลดปัญหาแผลกดทับ การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน เป็นต้น ทำให้เกิดปัญหาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดสูง หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งถ้ามีวิธีการดูแลที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดอันตรายหรือทำให้เกิดความพิการมากยิ่งขึ้น ทั้งที่สามารถป้องกันหรือรักษาได้
ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากญาติ และผู้ป่วยขาดความรู้ หมดกำลังใจ ท้อแท้ผู้ดูแลขาดความรู้ ความเข้าใจ หรือชุมชนขาดแนวทางในการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟู และจากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยเรื้อรัง หรือผู้พิการที่ถูกส่งตัวกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านจากโรงพยาบาล จึงมักเกิดปัญหาว่ามีวิธีการดูแลที่ไม่ถูกต้อง ผู้พิการเกิดความพิการมากขึ้น เกิดแผลกดทับมากขึ้น ต้องเสียเงิน เสียเวลา พากลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเหมือนเดิมดังนั้น ถ้าหากมีการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนและครอบครัวสามารถดูแลตนเองได้และมีระบบการเฝ้าระวัง ดูแลปัญหาสุขภาพของผู้ป่วยเรื้อรังและของผู้พิการ เพื่อลดอันตรายหรือเพื่อลดความพิการที่อาจเกิดขึ้นศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองเทศบาลตำบลยะหา จำนวนหมู่บ้านรับผิดชอบ 5หมู่บ้าน จำนวนประชากร 7,419 คน มีบุคลากรสาธารณสุข 7คน เป็น พยาบาลวิชาชีพ 5 คน เจ้าพนักงานสาธารณสุข 2 คนอสม. 9๐ คน โรงเรียน 6 แห่ง วัด 1 วัด
ข้อมูลผู้พิการมีดังนี้ผู้พิการ จำนวน154คน ผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 6 คน ผู้ป่วยระยะสุดท้าย จำนวน3 คนผู้ป่วยอัมพฤกษ์/ อัมพาตจำนวน 7 คน
ซึ่งจะเห็นได้ว่า จำนวนบุคลากรสาธารณสุขมีไม่เพียงพอแก่การให้บริการโดยเฉพาะการให้บริการในชุมชน ซึ่งพบว่ายังมีปัญหาสุขภาพอีกมากมายที่ยังเข้าไปไม่ถึง แต่เนื่องจากยังมีองค์กรต่าง ๆ ในชุมชน อีกมากมายที่ถ้าได้มีการพัฒนาศักยภาพ ให้สามารถดูแลผู้พิการติดเตียง หรือผู้พิการในชุมชนได้ น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถทำได้และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวผู้ป่วยและผู้พิการดังนั้น โครงการนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ของครอบครัวในการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยมีบุคลากรสาธารณสุขเป็นพี่เลี้ยง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
๑. สำรวจและเยี่ยมบ้านผู้พิการที่มีปัญหา ๒. เตรียมชุมชน ประชาคมให้ชาวบ้านได้รับทราบถึงแผนงาน / โครงการ ๓. คัดเลือกผู้ดูแลสุขภาพในชุมชน หมอครอบครัว โดยคัดเลือกมา หมู่บ้านละ ๕ คน ๔. จัดการประชุม / อบรมกลุ่มเป้าหมายผู้พิการ เพื่อรวบรวมปัญหา จัดกลุ่ม ร่วมกัน หาแนวทางแก้ไขปัญหา ๕. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่หมอครอบครัว โดยจัดให้มีการฝึกปฏิบัติจริงในชุมชน โดยบุคลากรจาก สหวิชาชีพ ๖. จัดทำคู่มือการดูแลผู้ป่วย / ผู้พิการ ตามเกณฑ์ ๗. กำหนดให้มีหมอครอบครัวหมู่บ้านละ ๕ คน เป็นผู้ดูแลตามคู่มือ ถ้าพบว่าเกินความสามารถต้องมีการ ประสานกับ จนท . ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองยะหา ทุกครั้ง ๘. จัดทำแบบประเมินผลการติดตามดูแลของหมอครอบครัว 9. จัดหาอุปกรณ์กายภาพหรืออุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ พร้อมกับสาธิตการทำอุปกรณ์อย่างง่าย ๑0. ติดตามประเมินผลการดำเนินงานจากหมอครอบครัว ปีละ 2 ครั้ง ๑1. สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ
๑. ผู้ป่วยและผู้พิการในชุมชนมีความรู้และมีกำลังใจในการดูแลสุขภาพของตนเอง ๒. หมอครอบครัวสามารถดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้พิการในชุมชนได้ ๓. ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชน ๔. อัตราความรุนแรงของโรคลดลง อัตราความพิการลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2561 11:46 น.