เยี่ยมบ้านเยี่ยมใจ ผู้สูงวัย ผู้พิการ ด้อยโอกาส เพื่อสุขภาพที่ก้าวหน้า
ชื่อโครงการ | เยี่ยมบ้านเยี่ยมใจ ผู้สูงวัย ผู้พิการ ด้อยโอกาส เพื่อสุขภาพที่ก้าวหน้า |
รหัสโครงการ | 61-L3027-01-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาตูม |
วันที่อนุมัติ | 3 เมษายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 3 เมษายน 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 52,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวฟาตีเมาะ กาลม |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.603,101.314place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประเทศไทยเข้าสู่ "สังคมสูงอายุ" มาแล้ว ตั้งแต่ปี 2548 โดยเกณฑ์ ที่สหประชาชาติกำหนด คือมีสัดส่วนของผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่าร้อยละ 10 หรือมีผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่าร้อยละ 7 ถึงปี 2561สัดส่วนผู้สูงอายุในประเทศไทยเกินกว่าร้อยละ 17 แล้ว กล่าวคือมีผู้สูงอายุมากกว่า 10 ล้านคน จากประชากรของประเทศ ราว 65 ล้านคนผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคนนี้มีส่วนหนึ่งที่ต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิง (Depen dent) จากความเสื่อมสภาพของร่างกายและจากโรคภัยไข้เจ็บที่ทำให้เกิดความพิการ เช่น จากโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ทำให้เกิดภาวะอัมพฤกษ์หรืออัมพาต หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ จากการสำรวจเป็นระยะๆ พบผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงราวร้อยละ 10 หรือราว 1 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ต้องพึ่งพิงบางส่วน หรือเป็นประเภท"ติดบ้าน" ออกไปไหนไม่ได้ราวร้อยละ 85 หรือราว 8.5 แสนคน และต้องพึ่งพิงทั้งหมด หรือเป็นประเภท "ติดเตียง" ราวร้อยละ 15 หรือราว 1.5 แสนคน จำนวนผู้สูงอายุที่ติดบ้านติดเตียงมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งจากสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจากสัดส่วนผู้สูงอายุ "วัยปลาย" ที่มากขึ้น เพราะอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยสูงขึ้นเป็นลำดับ ประเทศไทยกำหนดนิยามผู้สูงอายุไว้ในพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ว่าหมายถึงผู้ที่มีอายุเกินกว่า 60 ปีขึ้นไป (ขณะที่ประเทศเจริญแล้วส่วนมากกำหนดที่อายุเกินกว่า 65 ปีขึ้นไปหรือมากกว่านั้น) ทั้งนี้มีการแบ่งผู้สูงอายุออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ วัยต้นอายุ 60-69 ปี วัยกลางอายุ 70-79 ปี และวัยปลายอายุ 80 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุวัยปลายย่อมมีโอกาส "ติดบ้านติดเตียง" สูงกว่าวัยต้นและวัยกลาง เมื่อประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจึงควรมีการเตรียมการเพื่อรองรับโดยเมื่อมีคนแก่หรือคนชรามากขึ้นสัดส่วนคนทำงานลดลงผลผลิตโดยรวมก็จะลดลงส่งผลให้รายได้ของประเทศลดลง เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศได้ผู้สูงอายุต้องเกษียณจากการงานไม่มีรายได้ต้องอาศัยรายได้จากเงินที่เก็บออมไว้ถ้าหากไม่มีเงินออมไว้มากพอก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาในการดำรงชีพเป็นภาระแก่สังคมที่ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลจัดสวัสดิการต่างๆให้เหมาะสมและเพียงพอเมื่อถึงวัยสูงอายุสภาพร่างกายและจิตใจมีการเปลี่ยนแปลงต้องมีการปรับตัวและที่สำคัญเมื่ออายุมากขึ้น สภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอยลงปัญหาด้านสุขภาพก็จะตามมาซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนสมควรมีการเตรียมการเพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุที่จะมีเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การดูแลติดตาม เยี่ยมบ้าน จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยลดปัญหาสุขภาพและลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากความเจ็บป่วยอย่างยั่งยืน ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคม ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาตูม และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านจาเราะบองอ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลติดตาม เยี่ยมบ้าน เพื่อลดปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นของผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสในชุมชน จึงได้มีการจัดทำโครงการเยี่ยมบ้านเยี่ยมใจ ผู้สูงวัย ผู้พิการ ด้อยโอกาส เพื่อสุขภาพที่ก้าวหน้า ขึ้น เพื่อให้เกิดการดูแลปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสในพื้นที่แบบองค์รวม อย่างยั่งยืน จะส่งผลทำให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสในพื้นที่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี ไม่เป็นภาระของครอบครัวและสังคม ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขและยั่งยืน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้ดูแล ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส มีความรู้ ความสามารถ ในการดูแลและลดการพึ่งพิงของผู้ดูแลได้ ผู้ดูแลสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสได้ ร้อยละ 80 |
50.00 | |
2 | เพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ได้รับการติดตามเยี่ยมบ้าน ดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องโดยทีมสุขภาพ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสได้รับการติดตามเยี่ยมบ้าน ร้อยละ 90 |
50.00 | |
3 | เพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ทั้งด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ และความช่วยเหลือ ที่ควรจะได้รับจากทุกภาคส่วน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสได้รับการดูแลช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ ร้อยละ 90 |
50.00 |
- จัดอบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการให้กับ อสม. ในพื้นที่รับผิดชอบ
1.1 จัดอบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการให้กับ อสม.ในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของ อสม.ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป (อสม. 138 คน)
1.2 ให้ความรู้เชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ให้กับผู้ดูแล
2. ให้ความรู้เชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ให้กับผู้ดูแล
2.1 ให้ความรู้เชิงปฏิบัติการกับผู้ดูแล ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส จำนวน 1 รุ่น
3. ออกเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ตามกลุ่มเป้าหมายที่คัดเลือก ร่วมกับ อสม. หรือ หน่วยงานอื่นๆ
3.1ออกเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ตามกลุ่มเป้าหมายที่คัดเลือก ร่วมกับ อสม. หรือ หน่วยงานอื่นๆ
4.ประชุมสรุปผลการดูแลและเยี่ยมบ้าน
- ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส รวมถึงผู้ดูแล เห็นความสำคัญของการดูแล ส่งเสริม สุขภาพ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- ผู้ดูแล ได้รับความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
- ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาส ได้รับการติดตามเยี่ยมบ้านและดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องจากทีมสุขภาพ
- ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ผู้พิการ ด้อยโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2561 10:15 น.