โครงการ ลด ละ เลิกการใช้ภาชนะบรรจุโฟม
ชื่อโครงการ | โครงการ ลด ละ เลิกการใช้ภาชนะบรรจุโฟม |
รหัสโครงการ | 61-L4126-2-08 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขเทศบาลตำบลบันนังสตา |
วันที่อนุมัติ | 3 เมษายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 40,600.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางแวแอเสาะมูซา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.25,101.233place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 11 ก.ค. 2561 | 11 ก.ค. 2561 | 26,800.00 | |||
2 | 12 ก.ค. 2561 | 12 ก.ค. 2561 | 13,800.00 | |||
รวมงบประมาณ | 40,600.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากสภาพสังคมเศรษฐกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ประชาชนต้องการความสะดวกรวดเร็ว และมีการประกอบอาหารด้วยตนเองน้อยลง ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันไปพึ่งร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร ถึงแม้โรงพยาบาลบันนังสตาจะมีการส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร ให้ได้มาตรฐานด้านสุขาภิบาล และมีโครงการอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) แล้วก็ตามแต่ยังมิพิษภัยจากสารเคมีที่ปนเปื้อนมากับอาหารหรือแฝงมากับภาชนะบรรจุอาหาร"โฟม" ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสะดวก ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย จากงานวิจัยทั้งในเเละต่างประเทศพบว่า เมื่อนำโฟม (Potystyrene) ไปบรรจุอาหารที่มีความร้อนสูง ที่มีไขมัน หรือน้ำมัน จะมีสารพิษออกมาปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง (Corcinogen) ได้แก่สารสไตรีน (Styrene) ออกฤทธิ์ทำให้สมองมึนงง ในผู้ชายเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งตับ ในผู้หญิงเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งตับ ส่วนสารเบนซิน (Benzene) ออกฤทธิ์ทำลายไขกระดูก ทำให้โลหิตจาง และสารทาเลท (phthalate) เป็นสารทำลายระบบสืบพันธุ์ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค และจากการสำรวจปริมาณขยะตั้งแต่ปี 2552-2556 ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ขยะประเภทโฟมมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 34 ล้านใบ/วัน เป็น 61 ล้านใบ/วัน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1 ใบ/คน/วัน โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีประชากรหนาเเน่น จะพบว่าขยะประเภทโฟมมากกว่าปกติ ซึ่งโฟมเป็นขยะที่มีความคงทน และใช้เวลาในการย่อยสลายประมาณ 450 ปี ซึ่งสร้างปัญหาในการกำจัด เนื่องจากต้องใช้พลังต้นทุนการกำจัดสูง เปลืองพื้นที่ฝังกลบ และขบวนการกำจัดโฟม อาจทำให้เกิดมลพิษสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง จากข้อมูล ร้าน/แผงจำหน่ายอาหารภายในเขตเทศบาลบันนังสตาโดยประมาณ 40 ร้าน แยกเป็นร้านจำหน่ายอาหาร 15 ร้านแผงลอยจำหน่ายอาหารจำนวน 25 ร้าน เข้าร่วมเป็นร้านอาหารปลอดโฟม 100% 3 เเห่ง (คิดเป็น 7.5%) แผงลอยจำหน่ายอาหาร 0 แห่ง เมื่อดูจากตัวเลขการเข้าร่วมเป็นร้าน/แผงจำหน่ายอาหารปลอดโฟมนับว่ายังไม่อยู่ในระดับที่สามารถแก้ไขปัญหาการลดใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหารได้ และจะส่งผลกระทบต่อการกำจัดต่อไปอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะจัดการอันตรายจากโฟมที่ใช้บรรจุอาหาร ในการเลิกใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร และรณรงค์ ลด ละ เลิก การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหาร ในเขตพื้นที่ของเทศบาลบันนังสตา ให้ได้ในระดับที่น่าพอใจ และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายด้านอาหารปลอดภัยของรัฐ และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในการลดความเสี่ยงจากการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัยจึงได้จัดทำโครงการชาวบันนังสตาสุขภาพดี ลด ละ เลิกใช้ภาชนะบรรจุโฟมขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี |
---|
- จัดทำโครงการเพื่อพิจารณาอนุมัติ
- จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการ
- อบรมให้ความรู้ แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ประกอบการร้านค้าปลีก/ส่ง วิสาหกิจชุมชน อสม.และผู้นำศาสนา 250 คน 4.แบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิดในการหาสิ่งทดแทน ภาชนะบรรจุโฟมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 5.จัดกิจกรรมรณรงค์การลดใช้ภาชนะบรรจุโฟม 5.1 รณรงค์การลดใช้ผลิตภัณฑ์โฟมบรรจุอาหาร 5.2 ประกวดร้านจำหน่ายอาหารและร้านค้าที่เลิกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมบรรจุอาหารโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเช่น กล่องชานอ้อย 6.สรุปผลการดำเนินงาน
ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์โฟมของร้านอาหารในอำเภอบันนังสตาลดลงเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและมีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อนอีกทั้งทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีความรู้เกี่ยวกับโทษจากการใช้โฟมเพื่อสุขภาพของตนเองและผู้อื่น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2561 14:29 น.