อาหารเป็นปัจจัยสำคัญต่อสติปัญญาและสุขภาพของเด็ก รวมทั้งพัฒนาการของเด็ก เด็กที่กินอาหารครบ 5 หมู่ และมีความหลากหลาย ในปริมาณที่พอเหมาะ จะมีการเจริญเติบโตดี การพัฒนาของสมองดี เด็กจะฉลาดเรียนรู้เร็ว มีความสนใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลทำให้พัฒนาการของเด็กเหมาะสมตามวัย และในเด็กที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ย่อมมีผลทำให้การพัฒนาของสมองไม่ดี ไม่ฉลาด ไม่อยากเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว เป็นผลให้มีพัฒนาการไม่เหมาะสมตามวัย แม้เด็กจะได้รับการกระตุ้นพัฒนาการ จะไม่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ หากยังไม่แก้ไขในเรื่องการขาดอาหารของเด็กเสียก่อน จึงได้จัดทำโครงการขึ้นเพื่อ เฝ้าระวังและติดตามภาวะโภชนาการเด็ก 0-6 ปี ในชุมชน เพื่อให้มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองเจริญเติบโตสมวัย ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการส่งเสริมภาวะโภชนาการ ผลการดำเนินโครงการพบว่า
กิจกรรมประเมินโภชนาการเด็ก 0-6 ปี ในชุมชน
ตัวชี้วัดกิจกรรม ร้อยละ 80 เด็ก 0-6 ปี ได้รับการเฝ้าระวังโภชนาการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ในพื้นที่ 12 หมู่บ้าน โดย อสม.แต่ละพื้นที่ พบว่าเด็กได้รับการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง จำนวน 986 คน จากเด็ก 0-6 ปี ทั้งหมด 1,167 คน คิดเป็นร้อยละ 84.49 และพบเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ จำนวน 268 ราย มีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ 100
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการส่งเสริมโภชนาการและพัฒนาการเด็ก 0-6 ปี แก่ผู้ปกครองเด้กที่มีภาวะทุพโภชนาการ
ตัวชี้วัดกิจกรรม ร้อยละ 80 ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการส่งเสริมโภชนาการเด็ก โดยใช้แบบประเมินความรู้ก่อน-หลัง การอบรม จำนวน 10 ข้อ ผลการดำเนินกิจกรรม พบว่า ก่อนการอบรมผู้ปกครองมีความรู้ร้อยละ 59 และหลังการอบรมมีความรู้เพิ่มขึ้้นร้อยละ 88 และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมกับเด็ก
กิจกรรมติดตามเด็กทุพโภชนาการ
ตัวชี้วัดกิจกรรม ร้อยละ 80 เด็ก 0-6 ปี มีรูปร่างดีสมส่วน ก่อนดำเนินกิจกรรมเด็ก 0-6 ปี สูงดี สมส่วน จำนวน 899 คน คิดเป็นร้อยละ 77.03 ซึ่งจะน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานตัวชี้วัด หลังดำเนินกิจกรรมอบรมให้ความรู้ผู้ปกครองเรื่องแนวทางการส่งเสริมโภชนาการเด็ก การสาธิตอาหารส่งเสริมโภชนาการตามวัย ตลอดจนติดตามเยี่ยมประเมินโภชนาการเด็กอย่างต่อเนื่อง ทุก 1 เดือน 3 ครั้ง พบว่า เด็กสูงดี สมส่วน เพิ่มขึ้น 988 คน คิดเป็นร้อยลละ 85.92
จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองเด็กต้องให้ความสำคัญ และตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและสมองของเด็ก โดยผู้ปกครองจะต้องคอยประเมินทั้งการเจริญเติบโต และพฤติกรรมการบริโภคอาหารในแต่ละวันของเด็กอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และเหมาะสมต่อไป