โครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน โรคจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมธารน้ำทิพย์
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน โรคจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมธารน้ำทิพย์ |
รหัสโครงการ | 61-L4129-01-05 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.ธารน้ำทิพย์ |
วันที่อนุมัติ | 9 เมษายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 19 มิถุนายน 2561 - 22 มิถุนายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 25 กรกฎาคม 2561 |
งบประมาณ | 35,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | รพ.สต.ธารน้ำทิพพย์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.686,101.141place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 19 มิ.ย. 2561 | 22 พ.ย. 2561 | 35,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 35,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 80 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 160 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
การประกอบอาชีพเกษตรกรรมถือเป็นกำลังสำคัญที่เป็นรากฐาน ทางเศรษฐกิจของชาติ การดูแลสุขภาพเกษตรกรจึงเป็นงานสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งปัญหาสุขภาพที่สำคัญในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คืออันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูและวัชพืช เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรู และวัชพืชอย่างแพร่หลายเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและเกษตรกรส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้สารเคมีฯ ที่ไม่ถูกต้อง ปลอดภัย ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง อาการแสดงเฉียบพลันมีตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิต ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิษ และปริมาณที่ได้รับ ส่วนอาการเรื้อรังสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะสะสมในระบบต่างๆ ของร่างกายทำให้เกิดความผิดปกติและโรคต่างๆ จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2546-2555 พบว่ามีผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากสารเคมีกําจัดศัตรูพืชเฉลี่ยปีละ1,734 ราย สำหรับผลการตรวจปี 2555 ทำการตรวจเกษตรกรไปทั้งสิ้น 244,822 ราย พบเกษตรกรที่มีผลตรวจเลือดอยู่ในระดับไม่ปลอดภัยจำนวน 75,749 ราย คิดเป็น 30.94% ขณะที่ปี 2556 ทำการตรวจเกษตรกรไปทั้งสิ้น 314,805 ราย ในจำนวนนี้พบผลตรวจเลือดอยู่ในระดับไม่ปลอดภัยจำนวน 96,227 ราย คิดเป็น 30.54% และในปี 2557 ที่ได้ทำการตรวจเกษตรกรไปทั้งสิ้น 317,051 ราย พบว่าในจำนวนนี้ 107,820 ราย มีผลตรวจเลือดอยู่ในระดับไม่ปลอดภัย นั่นหมายถึงจำนวน 34% หรือ 1/3 ของเกษตรกรมีความไม่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีในการเกษตร จากการสำรวจพบว่าประชากรในพื้นที่ตำบลธารน้ำทิพย์เป็นพื้นที่ที่มีการประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับการคัดกรองและ เฝ้าระวังอย่างเร่งด่วน จากข้อมูลข้างต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลธารน้ำทิพย์ได้ตระหนักและเล็งเห็นปัญหาสุขภาพของเกษตรกรในตำบลธารน้ำทิพย์ จึงจัดทำ“โครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน โรคจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมธารน้ำทิพย์”ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับอันตรายและการป้องกันตนเองจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
|
0.00 | |
2 | 2 เพื่อให้เกษตรกรได้รับการตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด
|
0.00 | |
3 | 3 เพื่อให้เกษตรกรมีพฤติกรรมป้องกันตนเองจากโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
|
0.00 | |
4 | 4 เพื่อค้นหา และติดตามผู้ป่วยโรคจากการประกอบอาชีพกเกษตรกรรม
|
0.00 |
4.1 ขั้นเตรียมการ
4.1.1 จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติ
4.1.2 ประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้อง
4.1.3 ประชาสัมพันธ์โครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน โรคจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมธารน้ำทิพย์
4.2 ขั้นดำเนินการ
4.2.1 ซักประวัติ, ตรวจสุขภาพร่างกายของผู้เข้าร่วมโครงการ
4.2.2เจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด
4.2.3 จัดอบรมให้ความรู้ เรื่องอันตรายจากการใช้สารเคมีจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
4.2.4จัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ และปัญหาของการป้องกันตนเอง
จากโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
4.2.5จัดอบรมให้ความรู้ เรื่องป้องกันตนเองจากโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
4.2.6 จัดอบรมให้ความรู้และแนวทางการใช้ชีวภาพแทนการใช้สารเคมีในการประกอบอาชีพ
เกษตรกรรม
4.2.7แจ้งผลเลือดที่เข้าร่วมการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารเคมีตกค้างในเลือด
4.2.7.1 ในกรณีผลเลือดปกติ แนะนำการใช้ชีวภาพแทนสารเคมี
4.2.7.2 ในกรณีเลือดผิดปกติ จะร่วมวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้เลือดผิดปกติ พร้อมทั้งชี้แนะเห็นให้โทษของการใช้สารเคมี แล้วนำไปสู่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สารเคมีโดยใช้ชีวภาพแทน มีการติดตามสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และนัดเจาะเลือดซ้ำอีก 1 เดือน
4.3 สรุปผลการการดำเนินงานตามโครงการ
1 ร้อยละ 80 ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้เกี่ยวกับอันตรายและการป้องกันตนเองจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพิ่มมากขึ้น 2 ร้อยละ 100 ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับการตรวจสารเคมีตกค้างในเลือ 3 ร้อยละ 50 ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีการปฏิบัติตนการป้องกันตนเองจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2561 16:17 น.