กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง


“ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง ”

ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล

หัวหน้าโครงการ
นางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี

ชื่อโครงการ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง

ที่อยู่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 61-L7580-2-05 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2561 ถึง 30 สิงหาคม 2561


กิตติกรรมประกาศ

"โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง



บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 61-L7580-2-05 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 กรกฎาคม 2561 - 30 สิงหาคม 2561 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 129,963.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลฉลุง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ในปัจจุบันสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่เกิดจาก โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและหลอดเลือด โรคหัวใจ ความดันโลหิต และอุบัติเหตุบนถนน อุบัติเหตุการจมน้ำ ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้อาจมีอาการที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือบางรายอาจมีภาวะการหยุดหายใจกะทันหันถ้าปล่อยไว้นานเกิน 4 นาที แม้จะช่วยให้ฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ก็จะเกิดสภาวะการตายของสมองอย่างถาวร ดังนั้นการได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างทันท่วงทีและถูกต้อง และมีการส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บต่อไปยังแพทย์หรือสถานพยาบาลอย่างเหมาะสมรวดเร็วและถูกวิธีจะทำให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บมีโอกาสรอดชีวิตและกลับคืนมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้ ดังนั้นการอบรมหลักสูตรปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน จึงเป็นหลักสูตรที่สำคัญซึ่งจะทำให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ที่ถูกต้องและได้รับการฝึกฝนอย่างชำนาญ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้อื่นได้ในภาวะฉุกเฉิน นอกจากนี้สถานการณ์ในเขตตำบลฉลุง พบว่ายังมีอุบัติเหตุต่างๆเกิดขึ้นบ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน การเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ การตกจากที่สูง เช่น ต้นไม้ , อาคาร ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งในรอบ 3 ปี มีการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 4,057 ครั้ง ซึ่งเป็นทุพพลภาพ จำนวน 17 คน ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5065 คน และเสียชีวิต จำนวน 120 คน โดยสาเหตุจากการเกิดอุบัติเหตุนั้นมีมากมาย เช่น ความประมาทในการกระทำของตนเอง ขาดความระมัดระวัง ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกิดจากสภาพแวดล้อม ไม่รู้จักการป้องกันตนเอง เป็นต้น เทศบาลตำบลฉลุง โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวในข้างต้น จึงจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) สำหรับแกนนำด้านสุขภาพ เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพที่เป็นกำลังหลักในการดำเนินงานสาธารณสุขในพื้นที่ ในชุมชนได้รับความรู้ที่ถูกต้องและได้รับการฝึกฝนอย่างชำนาญ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นได้ในภาวะฉุกเฉินก่อนนำส่งสถานพยาบาลต่อไป

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล
  2. เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR)
  3. เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น)
  4. เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือและผู้อื่นจากการจมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น)
  2. อบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล พร้อมฝึกปฏิบัติ
  3. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือตนเอง พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม
  4. กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์
  5. อบรมการให้ความรู้เรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ
  6. กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์
  7. อบรมเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่(จำลองเหตุการณ์ )เป็นรายกลุ่ม

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน 40
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล
    1. แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) และทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น)
    2. แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือตนเอง พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม

วันที่ 3 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือตนเอง พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่า “ช่วยด้วยๆมีคนตกน้ำ” 2. โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกนลอนพลาสติก ขวดพลาสติก หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ 3. ยื่นสิ่งของยาวๆที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ท่อนไม้ เข็มขัด ผ้าขาวม้า ยื่นอุปกรณ์ไปข้างใดข้างหนึ่ง แล้วจึงกวาดเข้าหาตัวคนที่ตกน้ำและดึงขึ้นฝั่ง โดยในแต่ละกลุ่มสามารถช่วยเหลือตนเองจากการประสบอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

 

40 0

2. อบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล พร้อมฝึกปฏิบัติ

วันที่ 3 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

อบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล พร้อมฝึกปฏิบัติ

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลโดยการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลมีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ โดยใช้เกณฑ์แปลผล ดังนี้
1. ระดับคะแนน 9-10  แปลผลว่า มากที่สุด
2.ระดับคะแนน 7-8 แปลผลว่า มาก
3.ระดับคะแนน 5-6  แปลผลว่า ปานกลาง
4.ระดับคะแนน 3-4  แปลผลว่า น้อย
5.ระดับคะแนน 1-2 แปลผลว่า น้อยที่สุด

ตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม

เกณฑ์แปลผล ทดสอบความรู้ ก่อนการอบรม คิดเป็นร้อยละ หลังการอบรม คิดเป็นร้อยละ มากที่สุด 0 0 27 67.5 มาก 5 12.5 6 15 ปานกลาง 27 67.5 7 17.5 น้อย 5 12.5 0 0 น้อยที่สุด 3 7.5 0 0 รวม 40 100 40 100

จากตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมแกนนำด้านสุขภาพความรู้อยู่ในระดับมาก จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 ระดับปานกลาง จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5 ระดับน้อย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 และระดับน้อยที่สุด จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5หลังการอบรมแกนนำด้านสุขภาพความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5 ระดับมาก จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 15 และระดับปานกลาง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.5





ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม

ก่อนการอบรม หลังการอบรม คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ 7 5 12.5 10 15 37.5 6 9 22.5 9 12 3 5 18 45 8 3 7.5 4 3 7.5 7 3 7.5 3 2 5 6 6 15 2 3 7.5 5 1 2.5 รวม 40 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมแกนนำด้านสุขภาพได้คะแนนสูงสุดที่ 7 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 รองลงมา 6 คะแนน จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 22.5 คะแนนน้อยที่สุดที่ 2 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 5 คะแนน จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 45 หลังการอบรมแกนนำด้านสุขภาพ ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3คะแนนน้อยที่สุดที่ 5 คะแนน จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.5และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 100 นอกจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง แล้ว แกนนำด้านสุขภาพได้แบ่งกลุ่มลงมือปฏิบัติในเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยการใช้ผ้าสามเหลี่ยมพันแผลเมื่อได้รับบาดเจ็บในส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ได้รับบาดเจ็บบริเวณส่วนบนศรีษะ ส่วนด้านข้างศรีษะ ส่วนแขน ส่วนมือ และส่วนไหล่ ได้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกคนคิดเป็นร้อยละ 100 จึงสามารถสรุปได้ว่า แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลคิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1

 

40 0

3. กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์

วันที่ 3 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

    กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีการแสดงสปิหริดของตนเองออกมาโดยการออกกำลังกายบาซาโรบและทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

 

40 0

4. อบรมการให้ความรู้เรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ

วันที่ 4 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

อบรมการให้ความรู้เรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ 

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) จากการประเมินทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผู้ป่วยที่หมดสติ โดยทุกคนสามารถฝึกปฏิบัติขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)คนหมดสติ คิดเป็น ร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 โดยมีเนื้อหาการอบรม ดังนี้ การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) หรือ การกู้ชีวิต หรือการกู้ชีพ หมายถึง การปฏิบัติการเพื่อช่วยฟื้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ที่หยุดทำงานอย่างกะทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ โดยไม่เกิดความพิการของสมอง   วัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพ 1. เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ 2. ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ 3. คงไว้ซึ่งการไหลเวียนของโลหิตในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คงไว้ซึ่งการไหลเวียนของโลหิตในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 4. ดูแลผู้ป่วยให้กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่หัวใจกลับเต้นใหม่แล้ว ดูแลผู้ป่วยให้กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่หัวใจกลับเต้นใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเราพบคนหมดสติ สิ่งแรกที่ควรมี คือ สติ และสิ่งที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยของผู้ให้การช่วยเหลือและผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจะประเมินสถานการณ์หรือประเมินสภาพผู้ป่วย การประเมินสภาพผู้ป่วยเจ็บเบื้องต้น ๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัว โดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บและตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ
๓. ตรวจทางเดินหายใจ นำสิ่งแปลกปลอมและฟันปลอมออกจากปาก แล้วเปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง ของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้แหงนหน้าขึ้น ๔. ตรวจการหายใจ โดยสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก และ ลมหายใจ ใช้หลักตาดู หูฟัง แก้มสัมผัส ๕. ตรวจหาการบาดเจ็บ โดยตรวจตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า
ขั้นตอนการกู้ฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานในผู้ใหญ่ ๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัวโดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บ และตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ และพลิกผู้ป่วยเจ็บให้นอนหงายราบบนพื้นเรียบแข็ง
๓. ถ้าผู้ป่วยเจ็บไม่ตอบสนอง ให้ช่วยการไหลเวียนโลหิตโดยการกดหน้าอก 30 ครั้ง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที กดลึก ๒ นิ้ว หรือ ๕ เซนติเมตร (ใช้มือข้างหนึ่งวางและใช้มืออีกข้างวางทับ แล้วใช้ส้นมือกดที่กึ่งกลางหน้าอก ) ๔. เปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้หน้าแหงนขึ้น และช่วยหายใจ โดยการเป่าปาก ๒ ครั้ง ครั้งละ ๑ วินาที
๕. หลังจากนั้นให้กดหน้าอกสลับกับการเป่าปาก ด้วยอัตรา ๓๐ ต่อ ๒ (นับเป็น ๑ รอบ) ประเมินผลการกู้ชีพทุก ๕ รอบ (ใช้เวลา ๒ นาที)
ในกรณีที่มีผู้ปฏิบัติการกู้ชีพมาช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ควรสลับหน้าที่ของผู้ที่กดหน้าอก กับผู้ที่เป่าปากทุก ๒ นาที หรือทุก ๕ รอบ หมายเหตุ: ในกรณีไม่สามารถช่วยเป่าปากได้ สามารถใช้การกดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที

 

40 0

5. อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือและผู้อื่นจากการจมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น)

วันที่ 4 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือและผู้อื่นจากการจมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น)

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น (ตะโกน โยน ยื่น)จากการฝึกปฏิบัติทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น)พร้อมทั้งได้ทดสอบเป็นรายกลุ่มซึ่งทุกคนสามารถทำได้ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 โดยมีเนื้อหาการอบรมดังนี้ ทักษะในการช่วยเหลือตนเองในท่าต่างๆ เช่น
* ท่าลอยตัว มี 4 ท่า ได้แก่ ท่าปลาดาวหงาย ท่าปลาดาวคว่ำ ท่าแมงกะพรุน และท่าเต่า * ท่าว่ายน้ำเอาชีวิตรอด มี 2 ท่า ได้แก่ ท่าหมาตกน้ำ และท่ากรรเชียงหงาย ซึ่งก่อนที่จะทำท่าต่างๆ แกนนำด้านสุขภาพ ได้ฝึกการกำหนดลมหายใจใต้น้ำ และฝึกการเป่าลมใต้น้ำ ถึงแม้บางคนอาจจะทำได้ช้าแต่ทุกคนก็สามารถทำได้ทุกคน ทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่า “ช่วยด้วยๆมีคนตกน้ำ” 2. โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกนลอนพลาสติก ขวดพลาสติก หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ 3. ยื่นสิ่งของยาวๆที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ท่อนไม้ เข็มขัด ผ้าขาวม้า ยื่นอุปกรณ์ไปข้างใดข้างหนึ่ง แล้วจึงกวาดเข้าหาตัวคนที่ตกน้ำและดึงขึ้นฝั่ง แกนนำด้านสุขภาพได้ทำการปฏิบัติจริงในการใช้อุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยเหลือ คนตกน้ำ ดังนี้ 1. การโยนได้แก่ 1.1 การโยนเชือก * ท่ายืน โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ข้างเท้าที่ถนัดจับปลายเชือกไว้ มืออีกด้านถือเชือกไว้พร้อมที่จะโยน การโยนเชือกให้โยนเลยเหนือศีรษะคนตกน้ำระหว่างช่วงไหล่ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ 1.2 การโยนห่วงชูชีพ * ท่าโยนเหนือศีรษะโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพยกขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมทั้งโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่าโยนใต้ขาโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพถือไว้ระหว่างขาแล้วโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ

  • ท่าโยนมือเดียว โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ถนัดจับห่วงชูชีพ แล้วกางแขนออกประมาณ 45 องศา โยนห่วงชูชีพไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง
    ขาหน้าตึงขาหลังงอ 1.3 การโยน Rescue Tubeโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับRescue Tube แล้วโยน Rescue Tube ไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ
  1. การยื่น ได้แก่ 2.1 การยื่นไม้

* ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ในท่าที่ถนัด แล้วย่อขาด้านหน้าลง ขาหลังตึง พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่านั่งโดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง * ท่านอนโดยให้นอนคว่ำ แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ยื่นไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้คนช่วยพลิกตัวตะแคงและสาวไม้ดึงคนตกน้ำขึ้นมา 2.2 การยื่น Rescue Tube * ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับRescue Tube แล้วย่อขาด้านหน้าลงพร้อมทั้งยื่น Rescue Tube ไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับRescue Tube ได้ ให้สาวRescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวRescue Tube ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่านั่ง โดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปหน้าคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับRescue Tube ได้ ให้สาวRescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง

 

40 0

6. กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์

วันที่ 5 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

  กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กลุ่มแกนนำด้านสุขภาพที่รับการอบรมสามารถทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันได้เป็นอย่างดี

 

40 0

7. อบรมเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่(จำลองเหตุการณ์ )เป็นรายกลุ่ม

วันที่ 5 สิงหาคม 2561

กิจกรรมที่ทำ

อบรมเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่(จำลองเหตุการณ์ )เป็นรายกลุ่ม 

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์ จากการประเมินการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ (จำลองเหตุการณ์) พบว่า แกนนำด้านสุขภาพ ได้ทำการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ (จำลองเหตุการณ์) เป็นรายกลุ่ม โดยแกนนำสุขภาพในแต่ละกลุ่ม สามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งสติ มีผู้ควบคุมสถานการณ์ ความปลอดภัยของผู้ประสบอุบัติเหตุ การประเมินสถานการณ์ การขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ การแบ่งภาระหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ การจัดลำดับความรุนแรงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ซึ่งแกนนำสุขภาพได้ผ่านการประเมินทุกคน คิดเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ได้82 คะแนน กลุ่มที่ 2 ได้ 90 คะแนน กลุ่มที่ 3 ได้ 93 คะแนนกลุ่มที่ 4 ได้ 87 คะแนน เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 88บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 4

 

40 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

แกนนำด้านสุขภาพเข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 40 คนคิดเป็นร้อยละ 100 1.1 วัตถุประสงค์ข้อที่ 1เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลโดยการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลมีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ โดยใช้เกณฑ์แปลผล ดังนี้
1. ระดับคะแนน 9-10  แปลผลว่า มากที่สุด
2.ระดับคะแนน 7-8 แปลผลว่า มาก
3.ระดับคะแนน 5-6  แปลผลว่า ปานกลาง
4.ระดับคะแนน 3-4  แปลผลว่า น้อย
5.ระดับคะแนน 1-2 แปลผลว่า น้อยที่สุด

ตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม

เกณฑ์แปลผล ทดสอบความรู้ ก่อนการอบรม คิดเป็นร้อยละ หลังการอบรม คิดเป็นร้อยละ มากที่สุด 0 0 27 67.5 มาก 5 12.5 6 15 ปานกลาง 27 67.5 7 17.5 น้อย 5 12.5 0 0 น้อยที่สุด 3 7.5 0 0 รวม 40 100 40 100

จากตารางประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมแกนนำด้านสุขภาพความรู้อยู่ในระดับมาก จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 ระดับปานกลาง จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5 ระดับน้อย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 และระดับน้อยที่สุด จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5หลังการอบรมแกนนำด้านสุขภาพความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 67.5 ระดับมาก จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 15 และระดับปานกลาง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.5





ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม

ก่อนการอบรม หลังการอบรม คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ 7 5 12.5 10 15 37.5 6 9 22.5 9 12 3 5 18 45 8 3 7.5 4 3 7.5 7 3 7.5 3 2 5 6 6 15 2 3 7.5 5 1 2.5 รวม 40 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า ก่อนการอบรมแกนนำด้านสุขภาพได้คะแนนสูงสุดที่ 7 คะแนน จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 รองลงมา 6 คะแนน จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 22.5 คะแนนน้อยที่สุดที่ 2 คะแนน จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 5 คะแนน จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 45 หลังการอบรมแกนนำด้านสุขภาพ ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3คะแนนน้อยที่สุดที่ 5 คะแนน จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.5และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 10 คะแนน จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 100 นอกจากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง แล้ว แกนนำด้านสุขภาพได้แบ่งกลุ่มลงมือปฏิบัติในเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยการใช้ผ้าสามเหลี่ยมพันแผลเมื่อได้รับบาดเจ็บในส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ได้รับบาดเจ็บบริเวณส่วนบนศรีษะ ส่วนด้านข้างศรีษะ ส่วนแขน ส่วนมือ และส่วนไหล่ ได้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกคนคิดเป็นร้อยละ 100 จึงสามารถสรุปได้ว่า แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาลคิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1

1.2 วัตถุประสงค์ข้อที่ 2เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) จากการประเมินทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ผู้ป่วยที่หมดสติ โดยทุกคนสามารถฝึกปฏิบัติขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)คนหมดสติ คิดเป็น ร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 โดยมีเนื้อหาการอบรม ดังนี้ การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) หรือ การกู้ชีวิต หรือการกู้ชีพ หมายถึง การปฏิบัติการเพื่อช่วยฟื้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ที่หยุดทำงานอย่างกะทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ โดยไม่เกิดความพิการของสมอง   วัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพ 1. เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ 2. ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ 3. คงไว้ซึ่งการไหลเวียนของโลหิตในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คงไว้ซึ่งการไหลเวียนของโลหิตในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 4. ดูแลผู้ป่วยให้กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่หัวใจกลับเต้นใหม่แล้ว ดูแลผู้ป่วยให้กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากที่หัวใจกลับเต้นใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเราพบคนหมดสติ สิ่งแรกที่ควรมี คือ สติ และสิ่งที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยของผู้ให้การช่วยเหลือและผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจะประเมินสถานการณ์หรือประเมินสภาพผู้ป่วย การประเมินสภาพผู้ป่วยเจ็บเบื้องต้น ๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัว โดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บและตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ
๓. ตรวจทางเดินหายใจ นำสิ่งแปลกปลอมและฟันปลอมออกจากปาก แล้วเปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง ของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้แหงนหน้าขึ้น ๔. ตรวจการหายใจ โดยสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าอก และ ลมหายใจ ใช้หลักตาดู หูฟัง แก้มสัมผัส ๕. ตรวจหาการบาดเจ็บ โดยตรวจตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า
ขั้นตอนการกู้ฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานในผู้ใหญ่ ๑. ตรวจระดับความรู้สึกตัวโดยการเรียกผู้ป่วยเจ็บ และตีที่ไหล่เบา ๆ
๒. ร้องขอความช่วยเหลือ และพลิกผู้ป่วยเจ็บให้นอนหงายราบบนพื้นเรียบแข็ง
๓. ถ้าผู้ป่วยเจ็บไม่ตอบสนอง ให้ช่วยการไหลเวียนโลหิตโดยการกดหน้าอก 30 ครั้ง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที กดลึก ๒ นิ้ว หรือ ๕ เซนติเมตร (ใช้มือข้างหนึ่งวางและใช้มืออีกข้างวางทับ แล้วใช้ส้นมือกดที่กึ่งกลางหน้าอก ) ๔. เปิดทางเดินหายใจ โดยใช้สันมือกดหน้าผาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งเชยคางให้หน้าแหงนขึ้น และช่วยหายใจ โดยการเป่าปาก ๒ ครั้ง ครั้งละ ๑ วินาที
๕. หลังจากนั้นให้กดหน้าอกสลับกับการเป่าปาก ด้วยอัตรา ๓๐ ต่อ ๒ (นับเป็น ๑ รอบ) ประเมินผลการกู้ชีพทุก ๕ รอบ (ใช้เวลา ๒ นาที)
ในกรณีที่มีผู้ปฏิบัติการกู้ชีพมาช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ควรสลับหน้าที่ของผู้ที่กดหน้าอก กับผู้ที่เป่าปากทุก ๒ นาที หรือทุก ๕ รอบ หมายเหตุ: ในกรณีไม่สามารถช่วยเป่าปากได้ สามารถใช้การกดหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราเร็วมากกว่า ๑๐๐ ครั้งต่อนาที

1.3 วัตถุประสงค์ข้อที่ 3เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น (ตะโกน โยน ยื่น)จากการฝึกปฏิบัติทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น)พร้อมทั้งได้ทดสอบเป็นรายกลุ่มซึ่งทุกคนสามารถทำได้ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 โดยมีเนื้อหาการอบรมดังนี้ ทักษะในการช่วยเหลือตนเองในท่าต่างๆ เช่น
* ท่าลอยตัว มี 4 ท่า ได้แก่ ท่าปลาดาวหงาย ท่าปลาดาวคว่ำ ท่าแมงกะพรุน และท่าเต่า * ท่าว่ายน้ำเอาชีวิตรอด มี 2 ท่า ได้แก่ ท่าหมาตกน้ำ และท่ากรรเชียงหงาย ซึ่งก่อนที่จะทำท่าต่างๆ แกนนำด้านสุขภาพ ได้ฝึกการกำหนดลมหายใจใต้น้ำ และฝึกการเป่าลมใต้น้ำ ถึงแม้บางคนอาจจะทำได้ช้าแต่ทุกคนก็สามารถทำได้ทุกคน ทักษะในการช่วยเหลือผู้อื่นจากการจมน้ำ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ตะโกนขอความช่วยเหลือ ว่า “ช่วยด้วยๆมีคนตกน้ำ” 2. โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อให้คนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกนลอนพลาสติก ขวดพลาสติก หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ 3. ยื่นสิ่งของยาวๆที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ท่อนไม้ เข็มขัด ผ้าขาวม้า ยื่นอุปกรณ์ไปข้างใดข้างหนึ่ง แล้วจึงกวาดเข้าหาตัวคนที่ตกน้ำและดึงขึ้นฝั่ง แกนนำด้านสุขภาพได้ทำการปฏิบัติจริงในการใช้อุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยเหลือ คนตกน้ำ ดังนี้ 1. การโยนได้แก่ 1.1 การโยนเชือก * ท่ายืน โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ข้างเท้าที่ถนัดจับปลายเชือกไว้ มืออีกด้านถือเชือกไว้พร้อมที่จะโยน การโยนเชือกให้โยนเลยเหนือศีรษะคนตกน้ำระหว่างช่วงไหล่ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ 1.2 การโยนห่วงชูชีพ * ท่าโยนเหนือศีรษะโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพยกขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมทั้งโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่าโยนใต้ขาโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับห่วงชูชีพถือไว้ระหว่างขาแล้วโยนไปด้านหน้าของคนตกน้ำ ขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึงขาหลังงอ

  • ท่าโยนมือเดียว โดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือที่ถนัดจับห่วงชูชีพ แล้วกางแขนออกประมาณ 45 องศา โยนห่วงชูชีพไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง
    ขาหน้าตึงขาหลังงอ 1.3 การโยน Rescue Tubeโดยยืนกางขาออกให้ขาที่ถนัดอยู่ด้านหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง เพื่อการทรงตัวที่ดี ใช้มือทั้งสองข้างจับRescue Tube แล้วโยน Rescue Tube ไปด้านหน้าของคนตกน้ำขณะดึงให้ย่อขาหน้าที่ถนัด ขาหลังตึงแล้วดึงขึ้นมา ระหว่างดึงให้เอนตัวไปข้างหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ
  1. การยื่น ได้แก่ 2.1 การยื่นไม้

* ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ในท่าที่ถนัด แล้วย่อขาด้านหน้าลง ขาหลังตึง พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่านั่งโดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปด้านข้างแล้วกวาดเข้าหาตัวคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้สาวไม้นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง * ท่านอนโดยให้นอนคว่ำ แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับปลายไม้ไว้ยื่นไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับไม้ได้ ให้คนช่วยพลิกตัวตะแคงและสาวไม้ดึงคนตกน้ำขึ้นมา 2.2 การยื่น Rescue Tube * ท่ายืนโดยนำขาที่ถนัดก้าวไปข้างหน้า ขาที่ไม่ถนัดไว้ด้านหลัง ใช้มือทั้งสองข้างจับRescue Tube แล้วย่อขาด้านหน้าลงพร้อมทั้งยื่น Rescue Tube ไปยังคนจมน้ำ เมื่อคนตกน้ำจับRescue Tube ได้ ให้สาวRescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวRescue Tube ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง ขาหลังงอ * ท่านั่ง โดยนั่งคุกเข่า 1 ข้าง ส่วนอีกข้างขาที่ถนัดให้ตั้งตรง ใช้มือทั้งสองข้างปลายไม้ไว้แนบข้างลำตัวข้างที่คุกเข่า พร้อมทั้งก้มตัวและยื่นไม้ไปหน้าคนตกน้ำเมื่อคนตกน้ำจับRescue Tube ได้ ให้สาวRescue Tube นำคนตกน้ำขึ้นมา ขณะสาวไม้ให้เอนตัวไปด้านหลัง ขาหน้าตึง และวางก้นไว้บนขาหลัง

1.4 วัตถุประสงค์ข้อที่ 4เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์ จากการประเมินการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ (จำลองเหตุการณ์) พบว่า แกนนำด้านสุขภาพ ได้ทำการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ (จำลองเหตุการณ์) เป็นรายกลุ่ม โดยแกนนำสุขภาพในแต่ละกลุ่ม สามารถปฏิบัติได้ถูกต้องตามลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งสติ มีผู้ควบคุมสถานการณ์ ความปลอดภัยของผู้ประสบอุบัติเหตุ การประเมินสถานการณ์ การขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ การแบ่งภาระหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ การจัดลำดับความรุนแรงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ซึ่งแกนนำสุขภาพได้ผ่านการประเมินทุกคน คิดเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ได้82 คะแนน กลุ่มที่ 2 ได้ 90 คะแนน กลุ่มที่ 3 ได้ 93 คะแนนกลุ่มที่ 4 ได้ 87 คะแนน เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 88บรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 4

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล
ตัวชี้วัด : แกนนำด้านสุขภาพ ความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล ร้อยละ 80
0.00

 

2 เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR)
ตัวชี้วัด : แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR) ร้อยละ 80
0.00

 

3 เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น)
ตัวชี้วัด : แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น) ) ร้อยละ 80
0.00

 

4 เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์
ตัวชี้วัด : แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์ ร้อยละ 80
0.00

 

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 40 40
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
กลุ่มวัยทำงาน 40 40
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด 0
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีความรู้ทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล (2) เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะการฟื้นคืนชีพ (CPR)  (3) เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพมีทักษะในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น(ตะโกน โยน ยื่น) (4) เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่จากการจำลองเหตุการณ์

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือและผู้อื่นจากการจมน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น) (2) อบรมให้ความรู้เรื่องทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุบัติเหตุก่อนส่งต่อโรงพยาบาล พร้อมฝึกปฏิบัติ (3) อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะการช่วยเหลือตนเอง พร้อมประเมินทักษะเป็นรายกลุ่ม (4)      กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์ (5) อบรมการให้ความรู้เรื่องการฟื้นคืนชีพ (CPR) พร้อมฝึกปฏิบัติ  (6)      กิจกรรมสันทนาการสร้างความสัมพันธ์ (7)      อบรมเชิงปฏิบัติการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นเมื่อประสบอุบัติเหตุในชุมชน โดยการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่(จำลองเหตุการณ์ )เป็นรายกลุ่ม

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


ส่วนที่ 3 ประเมินคุณค่าโครงการ

แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ

ชื่อโครงการ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง

รหัสโครงการ 61-L7580-2-05 ระยะเวลาโครงการ 1 กรกฎาคม 2561 - 30 สิงหาคม 2561

แบบประเมินคุณค่าของโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการคุณค่าที่เกิดจากโครงการในมิติต่อไปนี้

  • ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและนวัตกรรมเชิงระบบสุขภาพชุมชน
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาวะ
  • การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะ
  • ผลกระทบเชิงบวกและนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาวะชุมชน
  • กระบวนการชุมชน
  • มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่

1. เกิดความรู้ หรือ นวัตกรรมชุมชน

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. ความรู้ใหม่ / องค์ความรู้ใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. สิ่งประดิษฐ์ / ผลผลิตใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. กระบวนการใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. วิธีการทำงาน / การจัดการใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. การเกิดกลุ่ม / โครงสร้างในชุมชนใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. แหล่งเรียนรู้ใหม่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
99. อื่นๆ

 

 

 

2. เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขภาพ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. การบริโภค

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. การออกกำลังกาย

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. การลด ละ เลิก อบายมุข เช่น การพนัน เหล้า บุหรี่

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. การลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ การขับรถโดยประมาท

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. การจัดการอารมณ์ / ความเครียด

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
7. การดำรงชีวิต / วิถีชีวิต เช่น การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น / สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
8. พฤติกรรมการจัดการตนเอง ครอบครัว ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
9. อื่นๆ

 

 

 

3. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ (กายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ)

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. กายภาพ เช่น มีการจัดการขยะ ป่า น้ำ การใช้สารเคมีเกษตร และการสร้างสิ่งแวดล้อมในครัวเรือนที่ถูกสุขลักษณะ

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. สังคม เช่น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวอบอุ่น การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อเด็ก เยาวชน และกลุ่มวัยต่าง ๆ มีพื้นที่สาธารณะ/พื้นที่ทางสังคม เพื่อเอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน มีการใช้ศาสนา/วัฒนธรรมเป็นฐานการพัฒนา

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. เศรษฐกิจสร้างสรรค์สังคม /สร้างอาชีพ / เพิ่มรายได้

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. มีการบริการสุขภาพทางเลือก และมีช่องทางการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. อื่นๆ

 

 

 

4. การพัฒนานโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อสุขภาวะ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. มีกฎ / กติกา ของกลุ่ม ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. มีมาตรการทางสังคมของกลุ่ม ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. มีธรรมนูญของชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. อื่นๆ เช่น ออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่น ฯลฯ

 

 

 

5. เกิดกระบวนการชุมชน

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. เกิดการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างกลุ่ม / เครือข่าย (ใน และหรือนอกชุมชน)

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. การเรียนรู้การแก้ปัญหาชุมชน (การประเมินปัญหา การวางแผน การปฏิบัติการ และการประเมิน)

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. การใช้ประโยชน์จากทุนในชุมชน เช่น การระดมทุน การใช้ทรัพยากรบุคคลในชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลุ่มและชุมชนที่เกิดจากโครงการอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. เกิดทักษะในการจัดการโครงการ เช่น การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ การทำแผนปฏิบัติการ

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
7. อื่นๆ

 

 

 

6. มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
1. ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง / กลุ่ม / ชุมชน

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
2. การเห็นประโยชน์ส่วนรวมและส่วนตนอย่างสมดุล

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
3. การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
4. ชุมชนมีความเอื้ออาทร

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
5. มีการตัดสินใจโดยใช้ฐานปัญญา

 

 

 

คุณค่าที่เกิดขึ้น
ประเด็น
ผลที่เกิดขึ้นรายละเอียด/การจัดการหลักฐาน/แหล่งอ้างอิงแนวทางการพัฒนาต่อ
ใช่ไม่ใช่
6. อื่นๆ

 

 

 

โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานสำหรับแกนนำด้านสุขภาพ ในเขตเทศบาลตำบลฉลุง จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 61-L7580-2-05

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( นางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด