โครงการส่งเสริมอาหารวิถีไทย “มาแล้ มาแลเรินเรา เข้าติ๊ไฟ มากินของหร้อย”
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมอาหารวิถีไทย “มาแล้ มาแลเรินเรา เข้าติ๊ไฟ มากินของหร้อย” |
รหัสโครงการ | 2561-L5309-03-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมตลาดเย็น เย็น |
วันที่อนุมัติ | 1 มิถุนายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 11 มิถุนายน 2561 - 15 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 20 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 66,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสุวรรณาล่าเต๊ะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.933,99.777place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากนโยบายของรัฐบาลไทยโดยคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติมีมติให้ปี 2561 เป็น “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” หรือ “Amazing Thailand Tourism Year 2018” โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 - 1 มกราคม 2562 โดยส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่เกื้อกูลเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยาและการต่างประเทศ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพที่เจริญเติบโตอย่างมีดุลยภาพบนพื้นฐานของความเป็นไทยโดยนำรายได้สู่ประชาชนทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลกที่เติบโตอย่างแข็งแรง
กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัยได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน ให้ภาคีเครือข่ายดำเนินการพัฒนาสถานประกอบการด้านอาหารตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้ได้มาตรฐาน โดยได้ดำเนินการจัดทำมาตรฐาน ออกกฎกระทรวง และคำแนะนำคณะกรรมการสาธารณสุข เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการควบคุมกำกับสถานประกอบการด้านอาหารในพื้นที่ และส่งเสริมการรับรองมาตรฐานสถานประกอบการด้านอาหารโดยได้จัดทำมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อสำหรับรับรองมาตรฐานตลาดสด และจัดทำมาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย เพื่อรับรองมาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร
อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน และอาหารปลอดภัยที่ประชาชนบริโภคนั้น ต้องปราศจากเชื้อโรค อาหารเป็นพิษ หรือปนเปื้อนจากเชื้อโรคทางเดินอาหารและสารเคมี ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย จึงต้องมีระบบการดูแล ควบคุม และตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัย อาหารที่ผลิตทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่อาหาร ( Food Chain) ตั้งแต่วัตถุดิบ การผลิต การแปรรูป การจัดจำหน่าย จนถึงผู้บริโภคอาหาร หรือที่กล่าวว่าจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร ( From Farm to Table) หรือจากฟาร์มสู่ช้อน ( From Farm to Fork)
อาหารไทยเป็นอาหารเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยเป็นที่นิยมทั้งในประเทศไทยเองและในต่างประเทศเป็นที่ยอมรับและรู้จักอย่างแพร่หลาย เห็นได้อย่างความประสบความสำเร็จของร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เสน่ห์ของอาหารไทยแต่ละจานมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป มีส่วนผสมที่หลากหลายนำมาผสมผสานกันเพื่อให้เป็นเกิดความอร่อยและประทับใจ อีกทั้งอาหารไทยเป็นอาหารสุขภาพใช้ไขมันในการปรุงอาหารน้อยใช้เนื้อสัตว์น้อยเน้นผักเป็นสำคัญทำให้มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสรรพคุณทางยาในคราวเดียวกัน การปรุงแต่งกลิ่นสี รส มาจากธรรมชาติจากพืชผักดอกไม้เครื่องเทศและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งสิ้น การจำแนกคุณค่าอาหารไทยออกได้ 3 ด้าน 1. คุณค่าทางโภชนาการอาหารไทยแต่ละจานมีสารอาหารหลายตัวสารอาหารแต่ละตัวร่างกายจะใช้ประโยชน์ได้ต้องทำงานร่วมกัน เช่น วิตามินเอที่มีอยู่ในมะเขือพวงเมื่อใส่ในแกงเขียวหวานร่างกายจะใช้วิตามินเอที่มีอยู่ในมะเขือพวงได้ก็ต้องได้ไขมันจากกะทิและโปรตีนจากไก่ เป็นต้น 2. คุณค่าสรรพคุณทางยาของผักและสมุนไพรที่เป็นเครื่องปรุงของอาหารแต่ละจาน เช่น หอมแดงและกระเทียมที่ใส่ในน้ำพริกแกงช่วยลดไขมันในเลือดเส้นใยอาหารในมะเขือพวงช่วยกวาดน้ำตาลในเลือดพริกทำให้การไหลเวียนของเลือดดีสลายลิ่มเลือดลดความดัน 3.คุณค่าทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมโดยปกติ ผักสมุนไพรเครื่องเทศแต่ละอย่างจะมีรสชาติและลักษณะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น ขี้เหล็กจะมีรสขมมยิ่งกว่ายาขมใด ๆ เพราะภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเมื่อนำมาทำเป็นแกงขี้เหล็กโดยมีส่วนผสมของน้ำพริกแกง (น้ำพริกแกง คือ การนำเอาสมุนไพรและเครื่องเทศหลายอย่างมาผสมเข้าด้วยกัน) กะทิและเนื้อสัตว์ทำให้อาหารจากผักที่ขมเกิดความอร่อยขึ้นมาได้ อาหารไทยมีหลายรสชาติหลากหลายอยู่ในจานเดียวกัน อาหารแต่ละรสส่งเสริมซึ่งกันและกันให้เกิดความอร่อย
ดังนั้นชมรมตลาดเย็น เย็นร่วมกับ ฝ่ายเวชกรรมชุมชน โรงพยาบาลละงู ได้เล็งเห็นว่า การขับเคลื่อนการส่งเสริมอาหารวิถีไทย และการดำเนินงานสนับสนุน“ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” เป็นสิ่งที่จะนำมาพัฒนาส่งเสริมสุขภาพประชาชนในพื้นที่ได้จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมอาหารวิถีไทย “มาแล้มาแลเรินเรา เข้าติ๊ไฟ มากินของหร้อย”ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อค้นหาและฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล 1.จำนวนพ่อค้า แม่ค้าในตลาดเย็น เย็นและประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการ มากกว่า ร้อยละ 70
2.เกิดชุดความรู้ และเมนูอาหารพื้นบ้านในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูลซึ่งเป็นอาหารเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษจำนวน 1 ชุด
3.มีอาหารพื้นบ้านในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูลซึ่งเป็นอาหารเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมาวางจำหน่ายในตลาดเย็น เย็น อย่างน้อย 10ชนิด |
0.00 | |
2 | เพื่อพัฒนามาตรฐานความสะอาด เรื่องการจัดการขยะสำหรับ ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารแผงลอย ในเขตเทศบาลตำบลกำแพงอำเภอละงู จังหวัดสตูล 1..จำนวนพ่อค้า แม่ค้าในตลาดเย็น เย็น มีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการ มากกว่า ร้อยละ 70 2.ร้อยละ 80 ของร้านค้าแผงลอยในเขตเทศบาลตำบลกำแพงอำเภอละงู จังหวัดสตูลได้พัฒนาการจัดการขยะในร้านค้า ร้านอาหารแผงลอยของตนเอง |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 67,900.00 | 0 | 0.00 | |
11 - 30 มิ.ย. 61 | กิจกรรมจัดประชาสัมพันธ์โครงการและเชิญชวนผู้ประกอบอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมเข้ามาร่วมกิจกรรม | 0 | 1,000.00 | - | ||
11 มิ.ย. 61 - 31 ส.ค. 61 | กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อระดมสมองในการค้นหาอาหารพื้นบ้าน เมนูอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นบ้าน ค้นหาตัวบุคคลที่ปรุงอาหาร ในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล | 0 | 11,340.00 | - | ||
11 มิ.ย. 61 - 31 ส.ค. 61 | สาธิตการทำอาหารพื้นบ้านในตลาดนัดเย็น เย็น เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปรับชิม รับชม | 0 | 11,000.00 | - | ||
1 - 15 ก.ย. 61 | มหกรรม “มาแล้ มาแลเรินเรา เข้าติ๊ไฟ มากินของหร้อย” | 0 | 43,060.00 | - | ||
1 - 15 ก.ย. 61 | สรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ | 0 | 1,500.00 | - |
- ประชุมทีมเพื่อวางแผนการจัดทำโครงการ
- เขียนโครงการเสนอเพื่อพิจารณาอนุมัติ
- ดำเนินการตามโครงการ
• ประชาสัมพันธ์โครงการและเชิญชวนผู้ประกอบอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมเข้ามาร่วมกิจกรรม • แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อระดมสมองในการค้นหาอาหารพื้นบ้าน เมนูอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นบ้าน ค้นหาตัวบุคคลที่ปรุงอาหาร ในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงูจังหวัดสตูล ประชุมกลุ่ม 3 ครั้ง • สาธิตการทำอาหารพื้นบ้านในตลาดนัดเย็น เย็น เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปรับชิม รับชมทุกเดือนจำนวน 3 ครั้ง • จัดมหกรรม“มาแล้มาแลเรินเรา เข้าติ๊ไฟ มากินของหร้อย” 1ครั้ง - ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการ
- เกิดแนวทางการส่งเสริมนำเอาอาหารพื้นบ้านมาเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคอันช่วยลดโรคและส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภค
- เกิดการพัฒนามาตรฐานความสะอาดตามหลักสุขาภิบาลอาหารแก่ผู้ประกอบการร้านค้า
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2561 08:58 น.