โครงการพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่องงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ รูปแบบตรวจสอบความดันโลหิต/เบาหวานที่บ้าน กลุ่มเสี่ยง/เสี่ยงสูง/กลุ่มป่วย ระยะเข้มข้นโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
ชื่อโครงการ | โครงการพัฒนาคุณภาพงานอย่างต่อเนื่องงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ รูปแบบตรวจสอบความดันโลหิต/เบาหวานที่บ้าน กลุ่มเสี่ยง/เสี่ยงสูง/กลุ่มป่วย ระยะเข้มข้นโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน |
รหัสโครงการ | 61-L1497-1-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโยงใต้ |
วันที่อนุมัติ | 22 มิถุนายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 2 ตุลาคม 2560 - 31 สิงหาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 14 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 11,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางปรีดาไทรงาม ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.571,99.669place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 2 ต.ค. 2560 | 31 ส.ค. 2561 | 11,700.00 | |||
รวมงบประมาณ | 11,700.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 90 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในการพัฒนาสาธารณสุข เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสุขภาพดีถ้วนหน้าของประชาชนได้นั้น จำเป็นต้องพัฒนากลวิธีการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่เริ่มต้น และปรับปรุงระบบบริการของรัฐให้สามารถรองรับและเชื้อมต่อกับระบบการสาธารณสุขมูลฐานของชุมชนได้ นอกจากนั้นยังต้องอาศัยการพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เหมาะสมกับท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนสามารถค้นหาปัญหาวางแผนแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะก่อให้เกิดเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง สำหรับปัญหาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและทวีความรุนแรงมากขึ้น ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโยงใต้ มีผู้ป่วยเป็นเบาหวาน จำนวน 108 คน คิดเป็นอัตรา 2865.458 ต่อแสนประชากร ความครอบคลุมการค้นหาผุ้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานในประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งตามเป้าหมายแผนยุทธศาสตร์จังหวัดตรัง ค้นหาผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานเท่ากับหรือมากกว่า ร้อยละ 95 ของกลุ่มเป้าหมาย จากการดำเนินงานควบคุม ป้องกัน และรักษา ปี 2560 พบปัญหาการค้นหาผู้ป่วยในระยะแรก การส่งเสริมสุขภาพการป้องกันภาวะแทรกซ้อน พบ ผุ้ป่วย และผู้มีภาวะเสี่ยง เสี่ยงสูง ที่มีโอกาสเกิดโรคได้กลวิธีที่จะดำเนินการในการควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดโรค โดยมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มป่วยโดยการสนับสนุนการจัดการตนเอง โดยการเจาะตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองที่บ้านซึ่งผลควบคุมน้ำตาลในเดือดได้ร้อยละ 60 ดังนั้น ปีงบประมาณ 2561 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโยงใต้ ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข เพิ่มการสนับสนุนการจัดการ กลุ่มป่วยเบาหวาน กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย ความดันโลหิตสูง เพื่อให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องสามารถตรวจวัดความดันโลหิตและเจาะน้ำตาลเพื่อดูผลการดูแลตนเองอย่างปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันไม่ให้เกิดโรคในกลุ่มเสี่ยงลดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่มป่วย และการพัฒนาองค์กรชุมชนดูแลชุมชนของตนเองติดตามตรวจวัดความดันโลหิต เจาะตรวจน้ำตาลในเลือดให้กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วยที่บ้าน ระยะเข้มข้น ซึ่งทำให้มีแกนนำชุมชนมีความสามารถและสร้างศรัทธาแก่ประชาชนได้ จึงน่าจะเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งจะเริมต้นที่ผลักดันบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครในเรื่องดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาโยงใต้ จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องงานควบคุมโรครูปแบบตรวจความดันโลหิต เบาหวานที่บ้าน ระยะเข้มข้นโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ อสม.ได้รับความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสามารถนำไปให้ความรู้แก่ประชาชนได้ อสม. ได้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมไม่เกิดโรคเรื้อรัง ร้อยละ 100 |
70.00 | |
2 | 2.เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานได้มีความรู้และควบคุมปัจจัยอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่องลดความพิการจากโรค 2.ให้กลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงและเบาหวานควบคุมภาวะโรคได้ ร้อยละ 50 |
333.00 | |
3 | 3.เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงได้มีความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดภาวะการเป็นโรค 1.ให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงความดันโลหิตสูงวินิจฉัยเป็นโรคน้อยกว่าร้อยละ 10 2.ให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเบาหวานวินิจฉัยเป็นโรคน้อยกว่าร้อยละ 5 |
122.00 |
1.จัดทำโครงการ 2.ชี้แจงผุ้ที่เกี่ยวข้องให้ทราบ 3.จัดทำแบบสำรวจ และเตรียมอุปกรณ์ในการตรวจน้ำตาลในเลือดและเครื่องวัดความดันโลหิต 4.จัดเตรียมเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน 2.1จัดให้ความรู้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขและกลุ่มป่วย กลุ่มเสี่ยง เสี่ยงสุงที่เข้าร่วมโครงการ เรื่อง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และการมีพฤติกรรมเสี่ยง -การตรวจคัดกรองกลุ่มเป้าหมายและการส่งต่อ -ติตามผู้ป่วยให้ได้รับรักษาอย่างสม่ำเสมอและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง 2.2 อาสาสมัครฯ คัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจัดทำทะเบี่ยนผุ้ป่วยกลุ่มเสี่ย 2.3 จัดอบรมให้ความรู้ในการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และญาตโดยใช้การตรวจความดันโลหิตและตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองที่บ้าน 2.4 อสม. เยี่ยมติตามผู้ป่วยอย่างน้อย 1 คร้ัง/สัปดาห์ 2.5 อสม. เยี่ยมติดตามผุ้ป่วยอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือนฃ 2.6 จนท. สาธารณสุข เยี่ยมติดตามผุ้ป่วยอย่างน้อยเดือนละครั้ง 3. ติดตามและประเมินผล 4.สรุปการดำเนินงานและคืนข้อมูลสู่ชุมชน
1.ประชา่ชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมและเมื่อเจ็บป่วยได้รับการดูแลรักษาที่มีคุณภาพและต่อเนื่อง 2.ประชาชนมีความศรัทธาในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุข และสถานบริหารสาธารณสุขและให้ความร่วมมือในการพัฒนางานสาธารณสุขมากขึ้น ชุมชนได้รับการพัฒนาจนสามารถบรรลุสุขภาพดีถ้วนหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมีการปฏิบัติที่ต่อเนื่องและยั่งยืนได้ในที่สุดโดยชุมชนดูแลชุมชนของตนเอง 3.ผู้ป่วยเบาหวาน กลุ่มเสี่ยง เสี่ยงสูง ความดันโลหิตสูงรู้จักการจัดการตนเองและสามารถดูแลตนเองโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควบคุมโรคได้ 4.อัตราป่วยและการตายจากโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานลดลง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2561 15:03 น.