โครงการเกษตรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย สมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส
ชื่อโครงการ | โครงการเกษตรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย สมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส |
รหัสโครงการ | 61-L5171-2-03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางเหรียง |
วันที่อนุมัติ | 18 เมษายน 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 9 กรกฎาคม 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2561 |
งบประมาณ | 5,500.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางปิยาเรืองหนู |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.112,100.364place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 220 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช (Pesticides) เข้ามามีบทบาทและใช้ในการเกษตรอย่างกว้างขวาง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่จะสะท้อนให้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน คือ ข้อมูลปริมารการนำเข้าสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี จากข้อมูของกรมวิชาการเกาตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ระหว่างปี พ.ศ. 2540-2553 มีการนำเข้าสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชมากถึง 120,000 ตัน โดยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีการใช้มากที่สุด ได้แก่ สารกำจัดศัตรูวัชพืช ร้อยละ 74 สารกำจัดแมลง ร้อยละ 14 สารกำจัดโรคพืช ร้อยละ 9 และอื่นๆ ร้อยละ 3
แนวโน้มการนำสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพชมาใช้ยังคมมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสารเคมีดังกล่าวจะมีหลักฐานและข้อมูลทางวิชาการแสดงถึงความเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน และทุกคนมีโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่ใช้สารเคมีโดยตรง หรือกลุ่มผู้บริโภคพืชผักที่มีสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตกค้างในพืชผัก เพื่อคุ้มครองสุขภาพทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค เป็นบทบาทที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการลดปริมารการใช้ และการเฝ้าระวังการได้รับพิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช เป็นสิ่งสำคัญที่ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ในกานำข้อมูลไปให้ความรู้แก่กลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไป
จากการเฝ้าระวังโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักระบาดวิทยา พบว่า พ.ศ. 2546-2555 มีรายงานผู้ป่วยได้รับสารพิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทั้งสิ้น 17,340 ราย มีรายงานเฉลี่ยปีละ 1,734 ราย อัตราป่วย 2.35 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งนอกจากจะพบรายงานมากในกลุุ่มเกษตรกรแล้วยังพบการรายงานการได้รับพิษในเด็กเล็ก ซึ่งอาจมีสามเหตุจากการใช้อย่างไม่ระมัดระวัง เช่น การเก็บในที่ไม่ปลอดภัย การทิ้งภาชนะบรรจะไม่ถูกวิธี หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น ในปีงบยประมาณ 2559 มีเกษตรกรได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงด้วยกระดาษ Reactive paper จำนวนทั้งสิ้น 418,672 คน พบผู้ที่ผลเลือดมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 153,905 คน คิดเป็นร้อยละ 36.76
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางเหรียง มีการดำเนินงานดูแลสุขภาพเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรมีความตระหนักถึงโอกาสเสี่ยงในการได้รับอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและการป้องกันตนเอง จากการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงเกษตรกรโดยการเจาะเลือดหาระดับแอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส จำนวน 103 คน ผลเลือดมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 66.02และได้เจาะเลือดซ้ำในครั้งที่ 2 หลังจากให้ความรู้และแนะนำการใช้สมุนไพรล้างพิษเป้นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ผลปรากฎว่า ผลเลือดมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยลดลงจาก 68 คน เหลิือเพียง 34 คน เมื่อสิ้นสุดโครงการ ผลการเจาะเลือดหาระดับเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสของเกษตรกรอยู่ในระดับปกติและปลอดภัย เท่ากับร้อยละ 66.99 และผลไม่ปลอดภัยและมีความเสี่ยง เท่ากับร้อยละ 33.01 ซึ่งได้ผลที่ดีขึ้น จึงควรมีการเฝ้าระวัง และดำเนินงานให้เกษตรกรไดู้แลสุขภาพตนเองร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขต่อไป ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางเหรียง จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1 เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพ และประเมินความเสี่ยงจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีความรู้เรื่องสมุนไพรล้างพิษและการใช้สารกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย ข้อที่ 2 เพื่อให้เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขมีความรู้ด้านชีวอนามัยและสามารถแนะนำเกษตรกรได้ ข้อที่ 3 เพื่อให้มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับกลุ่มเกษตรกรในชุมชนโดยเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 5,000.00 | 0 | 0.00 | |
7 ก.ค. 61 | อบรมให้ความรู้ | 0 | 1,250.00 | - | ||
9 ก.ค. 61 - 30 ก.ย. 61 | ตรวจคัดกรองสุขภาพเกษตรกร ประเมินความเสี่ยงจาการใช้สารเคมี | 0 | 2,500.00 | - | ||
9 ก.ค. 61 - 30 ก.ย. 61 | จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | 0 | 1,250.00 | - |
1.เกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพ และประเมินความเสี่ยงจากากรใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2.เกษตรกรมีความรู้เรื่องการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัยและสมุนไพรล้างพิษ 3.เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข สามารถดูแลสุขภาพเกษตรกรได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2561 12:25 น.