กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเด็กแรกเกิด - ๖ ปี

ที่อยู่ ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง

รหัสโครงการ 61-L3313-1-5 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 26 กรกฎาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2561

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเด็กแรกเกิด - ๖ ปี จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลจองถนน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเด็กแรกเกิด - ๖ ปี

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเด็กแรกเกิด - ๖ ปี " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 61-L3313-1-5 ระยะเวลาการดำเนินงาน 26 กรกฎาคม 2561 - 30 กันยายน 2561 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 18,950.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลจองถนน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

สถานการณ์โลกในยุคนี้มีการขยายตัวทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสูงสุด เรียกได้ว่าเป็นแบบก้าวกระโดด ซึ่งทำให้โลกทั้งใบสามารถเชื่อมโยงกันได้ มีการส่งผ่านข้อมูลข่าวสารรวมถึงวิทยากรสมัยใหม่ ข้ามผ่านซีกโลกอย่างกว้างขวางในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ทำให้มนุษย์เป็นฐานทรัพยากรหลักของโลก สามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ รวมไปถึงมีความคิดสร้างสรรค และทักษะอื่น ๆ บนพื่้นฐานของจริยธรรมที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้มนุษย์และสังคมอยู่รอดอีกด้วย เด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่งต่อ การพัฒนาประเทศในอนาคตจึงจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่และดูแลอย่างเหมาะสมและรอบด้าน ในแต่ละช่วงวัยจากพ่อแม่ ผู้ดูแล ชุมชน และสังคมด้วยความรู้ที่หลากหลายแแบบสหวิชาชีพ รวมทั้งต้องใช้ทักษะ และเจตคติที่เห็นคุณค่าของเด็กและเยาวชนตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา จนถึงวัยรุ่น พัฒนาการด้านสติปัญญาและอารมณ์เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันและอนาคต กรมอนามัยได้คิดค้นแนวทางที่จะส่งเสริมคุณภาพและศักยภาพของเด็กไทย อันเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศชาติ ให้มีพัฒนาการสมวัยรอบด้าน ตลอดจนมีศักยภาพสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยใช้ คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (Developmental Surveillance and Promotion Manual DSPM) การดูแลเด็กเล็ก 0-6 ปี นับเป็นยุคทองของพัฒนาการเรียนรู้ เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สมองมีการพัฒนาการสูงสุด ที่จะมีผลต่อสติปัญญา บุคลิกภาพ และความฉลาดทางอารมณ์ การลงทุนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่เด็กเล็ก จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เมื่อประเมินสาเหตุของพัฒนาการล่าช้าของเด็กไทย สาเหตุที่สำคัญของพัฒนาการล่าช้าทั้งจากการขาดออกซิเจนขณะคลอด (Birth AsPhyxia) และทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม (Low Birth Weight) ยังไม่มีมาตรการแก้ไขที่ชัดเจน ขณะที่สาเหตุอื่นทั้งเรื่่องภาวะโภชนาการการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และโดยเฉพาะการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมพัฒนาการของลูกโดยพ่อแม่ ก็ยังขาดการเน้นย้ำ รวมทั้งความรู้ความเข้าใจในเรื่องหน้าต่างแห่งโอกาส (windows of Opportunity) ของประชาชนทั่วไปที่เปิดกว้างในช่วงอายุ 0-6 ปี ของสมองของเด็กยังมีความเหลื่อมล้ำกันมาก

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1. เพื่อให้เด็กแรกเกิด - 6 ปี มีภาวะโภชนาการตามเกณฑ์ 2. เพื่อส่งเสริมให้เด็กแรกเกิด - 6 ปี มีพัฒนาการสมวัย

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.กลุ่มเป้าหมายได้รับความรู้และมีทักษะในการดูแลส่งเสริมสุขภาพเด็กในทุกด้าน 2. เด็กแรกเกิด - 6 ปี มีภาวะโภชนาการเหมาะสมตามเกณฑ์ 3. เด็กแรกเกิด - 6 ปี มีพัฒนาการสมวัยและได้รับการดูแลเฝ้าระวังคัดกรองพัฒนาการทุกคน

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น