โครงการสุขภาพดีวิถึชุมชน ร่วมเปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2561
ชื่อโครงการ | โครงการสุขภาพดีวิถึชุมชน ร่วมเปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2561 |
รหัสโครงการ | 61-L4147-2-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลบาโงยซิแน |
วันที่อนุมัติ | 3 สิงหาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2561 - 30 กันยายน 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2561 |
งบประมาณ | 36,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางนิเด๊าะ อิแตแล |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.527,101.153place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : ระบุ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน | 15.35 | ||
2 | ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง | 38.18 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาด และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมายจาก หากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อาจเกิดการเสียหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะที่ ตา ไต ประสาท หัวใจ และหลอดเลือด ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของครอบครัว และของรัฐเป็นอย่างมาก การให้ความรู้และสนับสนุนให้ผู้เป็นเบาหวานสามารถจัดการเบาหวานด้วยตนเองเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการดูแลรักษา และควบคุมเบาหวานที่ยั่งยืน
ผู้เป็นเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดใกล้เคียงปกติอย่างต่อเนื่อง และผู้ป่วยความดันที่ควบคุมความดันโลหิตได้อย่างต่อเนื่อง สามารถลดภาวะแทรกซ้อนจากความเสื่อมหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ดังกล่าวได้ ทีมผู้ดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลหรือความรู้ หากความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจล้มเหลว โรคไตวาย และโรคอัมพาต ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการจนกว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อนเหล่านี้ การตรวจวัดความดันสม่ำเสมอจะช่วยวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงระยะเริ่มแรก และการควบคุมความดันโลหิตให้ได้ถึงเกณฑ์ปกติตั้งแต่เริ่มวินิจฉัย จะช่วยให้ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ข้างต้นเพื่อให้ผู้เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงสามารถจัดการควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูงด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในการผลักดันการทำงานเชิงรุกในการป้องกัน ปรับเปลี่ยน หรือควบคุมโรค (Prevention program) เพราะโรคเรื้อรังก็ถือว่าเป็นโรคระบาดแต่ระบาดภายใต้เงื่อนไขหรือสภาวะทางสังคม เพราะไม่ใช่เชื้อโรค เราล้มเหลวในการควบคุมมัน จึงกลายเป็นภาระที่พวกเราต้องแบกรับอยู่ในทุกวันนี้ ไม่มีพื้นที่ไหนในประเทศไทยที่ไม่มีผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อความดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นชัดถึงความล้มเหลวของการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรค โรคเรื้อรังระบาดภายใต้เงื่อนไขและสภาวะทางสังคม เกี่ยวเนื่องกับความเป็นสังคม และโรคเรื้อรังดังกล่าวส่งผลเสียทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ
จากผลงาน การตรวจคัดกรองสุขภาพของตำบลบาโงยซิแน ระหว่าง 01/10/2559ถึง 30/09/2560 ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานร้อยละ 94.66 พบกลุ่มปกติที่มีภาวะน้ำตาล
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้กลุ่มป่วยและกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมมีสุขภาพในทางที่ดีขึ้นลดภาวะแทรกซ้อนลดโอกาสการเกิดโรค และระดับความรุนแรงของโรคเบาหวาน ร้อยละของผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมน้ำตาลได้เพิ่มขึ้น หรือ > 40% |
40.00 | |
2 | 2. เพื่อให้กลุ่มป่วยและกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมมีสุขภาพในทางที่ดีขึ้นลดภาวะแทรกซ้อนลดโอกาสการเกิดโรค และระดับความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงควบคุมได้ได้เพิ่มขึ้น หรือ > 50% |
50.00 | |
3 | 3. เพื่อให้แกนนำสาธารณสุข มีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและเป็นบุคคลตัวอย่างด้านสุขภาพ ร้อยละ 70 ของแกนนำสาธารณสุข มีความรู้ และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและเป็นบุคคลตัวอย่างด้านสุขภาพ |
70.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 30,006.00 | 0 | 0.00 | |
1 - 31 ก.ค. 61 | ตรวจสุขภาพเจาะเส้นเลือดดำประจำปี | 0 | 6.00 | - | ||
1 - 31 ก.ค. 61 | จัดประชุมคณะทำงานเพื่อชี้แจง รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ และจัดทำสื่อความรู้ | 0 | 9,000.00 | - | ||
1 - 31 ส.ค. 61 | จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความตระหนัก | 0 | 12,000.00 | - | ||
1 - 31 ส.ค. 61 | จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ | 0 | 3,000.00 | - | ||
1 - 30 ก.ย. 61 | เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนเท้าในกลุ่มป่วยเบาหวาน | 0 | 6,000.00 | - |
จัดประชุมคณะทำงาน โครงการ เพื่อชี้แจง ประชาสัมพันธ์ และจัดทำสื่อความรู้ไวนิล
ติดต่อประสานงานกับหนวยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความรวมมือในการดําเนินงาน
จัดเตรียมเอกสาร และเตรียมความพร้อมก่อนดำเนินการ ร่วมกับคณะทำงาน
จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ อบรมให้ความรู้กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และการเลือกรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรค ลดความรุนแรงของโรคหรือภาวะแทรกซ้อนของโรค ร่วมกับการประเมินรายบุคคลเพื่อให้สามารถคงระดับความดัน และน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ระยะเวลาจำนวน 1 วัน ดังนี้
4.1 จัดทำเนื้อหาหลักสูตร เน้น ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเองให้เหมาะสม ความรู้เรื่องการออกกำลังกาย และ การฝึกปฏิบัติ การสาธิตประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย การฝึกจิตคลายเครียด
4.2 ประสานวิทยากร และหากลุ่มเป้าหมายในการอบรม จำนวน 50 คน
4.3 จัดเตรียมวัสดุการอบรม และเตรียมสถานที่
4.4 ให้การฝึกปฏิบัติ/ความรู้ การสาธิตประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และการฝึกจิตคลายเครียด
4.5 สรุปผลการอบรม
5. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยกลุ่มเสี่ยงในชุมชนเพื่อให้เกิดความตระหนัก ของปัญหาของสุขภาพที่เป็นภัยเงียบต่อร่างกายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
6. สร้างกระแสสุขภาพล้อมเมืองเน้นประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างที่หลากหลาย และนำศาสนาเข้ามามีส่วนในการดูแลสุขภาพ
7. การคืนข้อมูลสถานะสุขภาพของชุมชนให้ชุมชนรับทราบ ส่งเสริมการดูแลสุขภาพโดยพื้นฐานการดำรงชีวิต ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุข และประชาชนที่สนใจ รวมถึงจัดประชาคมเพื่อการจัดการภาวะเสี่ยงของพฤติกรรมสุขภาพให้สู่ภาวะที่ดีอย่างยังยืน
8. กําหนดบทบาท และหน้าที่ของแตละบุคคล
8.1 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีบทบาทดูแลสุขภาพกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังและกลุ่มเสี่ยงให้ความรู้ในหมู่บ้านที่รับผิดชอบ
8.2 คณะกรรมการกองทุนสุขภาพตำบล มีบทบาทในการออกเยี่ยมบ้านพร้อมทีมสุขภาพตำบลและให้กำลังใจ
8.3 พยาบาลวิชาชีพ มีบทบาทในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และเสริมแรงจูงใจ
8.4 เจ้าพนักงานเภสัช มีบทบาทในการให้ความรู้เรื่องยาในกลุ่มผู้ป่วย
8.5 นักวิชาการสาธารณสุข มีบทบาทในการรวบรวมข้อมูล ปัญหาอุปสรรค เพื่อรายงานให้กับหน่วยงานสาธารณสุขและชุมชนรับทราบ พร้อมทั้งวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไข
8.6 อาสาสมัครสาธารณสุข มีบทบาทในการออกเยี่ยมบ้านและตรวจคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ให้ความรู้ และชักจูงกลุ่มเป้าหมายร่วมกับทีมสุขภาพ
9. ให้ความรู้อาสาสมัครสาธารณสุขในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และเลือกรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรค ลดความรุนแรงของโรค หรือภาวะแทรกซ้อนของโรค
10. จัดหาบ้านสุขภาพ ผักสวนครัว รั้วกินได้ ในกลุ่มป่วย กลุ่มเสี่ยง และประชาชนที่สนใจเข้าร่วม
11. ติดตามตรวจสุขภาพเจาะเลือดเส้นเลือดดำประจำปี และประเมินสภาวะร่างกาย ในกลุ่มป่วย
12. เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนเท้าในกลุ่มป่วยเบาหวานโดยการนำสมุนไพรพื้นบ้านที่ถูกตามหลักแพทย์แผนไทย มาใช้ดูแลเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน(แช่เท้าในน้ำสมุนไพร) การนวดกดจุดบริเวณเท้า และให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลเท้า
13. ติดตามประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ
- ประชาชนกลุ่มป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค ลดความรุนแรงของโรค และประชาชนกลุ่มเสี่ยงลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังไม่ติดต่อโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ประชาชนกลุ่มป่วยใช้พื้นฐานชีวิตในการดูแลอาการของโรค ด้วยตนเอง โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกกลุ่ม
- ชุมชนโดยแกนนำสุขภาพมีส่วนร่วม เห็นความสำคัญ และสามารถเป็นบุคคลต้นแบบในการดูแลสุขภาพของชุมชน เพื่อการดูแลระยะยาว
- ภาวะแทรกซ้อนทางเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ลดลง หรือไม่เกิดเพิ่มขึ้น
- ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติของโรค
- เสริมพลัง และการดูแลสุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2561 13:55 น.