กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยเพื่อจัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยตนเอง ตำบลโคกหล่อ ปี 2561
รหัสโครงการ 2561-L1490-1-08
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกหล่อ
วันที่อนุมัติ 18 กรกฎาคม 2561
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 กรกฎาคม 2561 - 30 กันยายน 2561
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2561
งบประมาณ 39,200.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสุจินดา คงเนียม
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
ละติจูด-ลองจิจูด 7.524,99.615place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 100 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 ผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมปริมาณความดัน และน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้
1.00

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

จากรายงานการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พ.ศ.2555 (Chronic Diseases Surveillance Report,2020)โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปีพ.ศ.2555 ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 5 โรครายใหม่  มีจำนวนรวม 1,009,002 ราย โรคความดันโลหิตสูง มีผู้ป่วยสูงสุดจำนวน 602,548 ราย อัตราป่วย 937.58 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือโรคเบาหวาน จำนวน 336,265 ราย อัตราป่วย 523.24 ต่อแสนประชากร โรคหัวใจขาดเลือดจำนวน 24,587 ราย อัตราป่วย 38.26 ต่อแสนประชากร และโรคหลอดเลือดสมอง จำนวน 20,675 ราย อัตราป่วย 32.17 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 5 โรคสะสม (รายใหม่และเก่า) ระหว่างปี พ.ศ.2551-2555  มีจำนวนรวม 5,471,929 ราย โรคความดันโลหิตสูง มีอัตราความชุกสูงสุด คือพบผู้ป่วย จำนวน 3,398,412 ราย อัตราความชุก 5,288.01 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือโรคเบาหวาน จำนวน 1,799,977 ราย อัตราความชุก 2,800.81 ต่อแสนประชากร โรคหัวใจขาดเลือดจำนวน 92,770 ราย อัตราความชุก 144.35 ต่อแสนประชากร และโรคหลอดเลือดสมอง จำนวน 67,168 ราย อัตราความชุก 104.51 ต่อแสนประชากรดูแนวโน้มระหว่างปี 2551-2555 พบว่าทุกโรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากรายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และระดับความดันโลหิต พบว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของบุคคลจะประสบความสำเร็จได้นั้น เกิดจากการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ โดยใช้ทฤษฎี แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ (Health belief model) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ใช้ในการทำนายและอธิบายพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคเรื้อรังในการให้ความร่วมมือปฏิบัติตนเพื่อควบคุมโรค ความเชื่อด้านสุขภาพ คือความรู้สึกนึกคิด ความเข้าใจหรือการยอมรับเกี่ยวกับภาวะสุขภาพของบุคคล มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจที่จะกระทำ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องก็จะตระหนักและมีพฤติกรรมในการดูแลตนเองที่เหมาะสม ซึ่งแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ประกอบด้วยการรับรู้เกี่ยวกับภาวะสุขภาพ การเกิดโรค และภาวะแทรกซ้อนของโรค 4 ด้าน คือ การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค การรับรู้ความรุนแรงของโรค การรับรู้ประโยชน์ของการรักษา การรับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติตนทฤษฏีการสนับสนุนทางสังคม (Social support) การสนับสนุนทางสังคมเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคมทำให้ผู้ได้รับการสนับสนุนทางสังคมเกิดความรู้สึกผูกพัน เชื่อมั่นว่ามีคนรัก คนสนใจ มีความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่สามารถเผชิญและตอบสนองต่อความเครียด ความเจ็บป่วย และทฤษฎีการรับรู้ความสามารถตนเอง (Self-efficacy) การรับรู้ความสามารถของตนเองมีผลต่อการกระทำของบุคคล ถ้าผู้ป่วยมีความเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถปฏิบัติได้ตามแผนการรักษาก็จะมีแรงจูงใจที่จะปฏิบัติ ซึ่งผู้ป่วยจะรับรู้ความสามารถของตนเองในการปฏิบัติเรื่องใด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนว่าเรื่องนั้นปฏิบัติอย่างไร และเมื่อปฏิบัติแล้วจะเกิดผลดีตามที่คาดหวัง ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในพื้นที่ตำบลโคกหล่อทั้งหมด 1,077 ราย และมารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกหล่อจำนวน 606ราย แยกเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน จำนวน 226ราย และผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 380ราย จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติได้ จำนวน 41 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.14 ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ จำนวน 142 รายคิดเป็นร้อยละ 37.37ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมาย ของกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ระดับน้ำตาลในเลือด น้อยกว่า 130mg%ได้ อย่างน้อย ร้อยละ 40ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติระดับความดันโลหิต น้อยกว่า 140/90 mm.Hgอย่างน้อยร้อยละ 50 ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา จากการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยตำบลโคกหล่อมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต และมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจ ร้อยละ 20และในปีงบประมาณ 2561 มีผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรค เกิดอัมพฤตอัมพาต จำนวน 10 ราย ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยและครอบครัวส่วนใหญ่ ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมตามแนวทางการรักษา เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย จากภาวะแทรกซ้อนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งไม่ตระหนักถึงภาระค่าใช่จ่ายของครอบครัว ภาครัฐในการดูแลรักษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ได้ตระหนักถึงความสำคัญปัญหานี้  จึงได้จัดทำ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยเพื่อจัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยตนเองขึ้น

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้ความเข้าใจเรื่องแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพการสนับสนุนทางสังคมการรับรู้ความสามารถตนเองและแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม

ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่เข้ารับการอบรม            มีความรู้เพิ่มขึ้น อย่างน้อยร้อยละ 80 จากการทำแบบประเมิน ก่อน และหลังการอบรม

80.00
2 เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงตระหนักถึงความสำคัญและจัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยตนเอง

ร้อยละ 40ของผู้ป่วยเบาหวานที่เข้ารับการอบรม สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่เข้ารับการอบรมสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 0 39,200.00 0 0.00
1 ก.ค. 61 - 30 ก.ย. 61 จัดทำเอกสารประกอบการอบรม 0 20,000.00 -
1 ก.ค. 61 - 30 ก.ย. 61 กิจกรรมอบรมให้ความรู้ 0 19,200.00 -

ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมการ 1) วิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่รับผิดชอบ 2) จัดทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ ขั้นที่ 2 ขั้นดำเนินงาน 1) สำรวจ และจัดทำทะเบียนกลุ่มเป้าหมาย     2) ประชุมชี้แจง โครงการแก่ อสม.ในการจัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ป่วย     3) ประชาสัมพันธ์โครงการ           -  ประชาสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ารับการอบรม เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ควบคุมโรคได้ไม่ดี (โรคความดันโลหิตสูง ระดับความดันโลหิต มากกว่า 140/90mm.Hg โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่า 130 mg %) มีความพร้อมทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ในการเข้ารับการอบรม -  ทำหนังสือเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการอบรม     4)จัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ป่วยในการจัดการดูแลตนเองของผู้ป่วย -  แจกเอกสารคู่มือความรู้ในการจัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยตนเอง     5)สนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 6) ติดตามดูแลเยี่ยมบ้าน ขั้นที่ 3 สรุปวิเคราะห์และประเมินผล 1) ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน 2) สรุปผลการดำเนินงานโครงการ

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

ผู้ป่วยสามารถจัดการโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยตนเอง ได้ถูกต้องเหมาะสม ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนของโรคทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 09:44 น.