พัฒนาสติปัญญาเด็กวัยเรียนในพื้นที่ อบต.ตุยง
ชื่อโครงการ | พัฒนาสติปัญญาเด็กวัยเรียนในพื้นที่ อบต.ตุยง |
รหัสโครงการ | 60-L3065-1-08 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลหนองจิก |
วันที่อนุมัติ | 30 ธันวาคม 2559 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 11,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลหนองจิก |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายมะรอกี เวาะเล็ง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.832,101.178place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 40 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เด็กปฐมวัยจำเป็นต้องพึ่งพ่อแม่ ผู้ใหญ่ ในการอบรมเลี้ยงดู ปกป้อง คุ้มครอง ให้ความรัก ความอบอุ่น
เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด การอบรมเลี้ยงดูที่มีคุณภาพจะส่งผลให้เด็กเจริญเติบโต สุขภาพแข็งแรง มีพัฒนาการสมดุลทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ สังคม มีความสามารถในการเรียนรู้และเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ จากสถานการณ์ปัญหาระดับสติปัญญาเด็กไทย(IQ) ยังเป็นเรื่องที่น่าห่วงและจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งล่าสุด ผลการสำรวจระดับสติปัญญาในปี พ.ศ. 2554พบว่า มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 98.59(ค่าเฉลี่ยปกติ 90 – 109)ซึ่งถือว่าเป็นค่าระดับสติปัญญาที่อยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ค่อนไปทางต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับคะแนนการสอบประเมินผลนักเรียนนานาชาติ ในปี 2555 พบว่า เด็กไทยมีทักษะทางด้านการคิดและการใช้ภาษาอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดังเห็นได้จากผลสัมฤทธิ์การเรียนคณิตศาสตร์ การอ่านและวิทยาศาสตร์ มีคะแนนรวมอยู่ในอันดับที่ 50 จาก 65 ประเทศสมาชิกขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development – OECD ขณะที่ คะแนนความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เฉลี่ยในระดับประเทศก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คือ มีค่าคะแนนอยู่ที่ 45.12 จากค่าคะแนนปกติ 50-100
จากการดำเนินงานคัดกรอง IQ/EQ ในโรงเรียนนำร่อง คือ โรงเรียนวัดมุจลินทวาปิวิหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จำนวน 108 ราย ในปี 2558 พบนักเรียนที่มีความเสี่ยง / มีปัญหา IQ/EQ จำนวน 30 ราย คิดเป็น 27 % จึงได้มีการจัดกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพครูในการดูแลติดตามและให้คำปรึกษาเด็กกลุ่มพิเศษดังกล่าวและมีการจัดกิจกรรมเสริมสร้าง IQ/EQ ในเด็กนักเรียนที่มีความเสี่ยง/มีปัญหา ทำให้เด็กเหล่านั้นมี IQ/EQ ที่ดีขึ้น ซึ่งในปี 2560 ต้องการที่จะขยายโครงการโรงเรียนต้นแบบในโรงเรียนอื่นๆในเขตพื้นที่อำเภอหนองจิกต่อไป
เด็กจะเกิดมามีความสามารถฉลาดหลักแหลมหรือเป็นคนที่ขาดความสามารถนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดยังคงเป็น “สมอง” ซึ่งพัฒนาการทางสมองเริ่มต้นมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงจำเป็นต้องพัฒนาสมองของเด็กสร้างเสริมความรู้ประสบการณ์ให้เหมาะสมกับวัยเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของสมอง ครูจึงจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจในการส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านการคิด การใช้ภาษาและอารมณ์ให้ถูกต้องตามจังหวะและเวลาที่เหมาะสมและเด็กควรได้รับการประเมินปัญหา ส่งเสริม ดูแลศักยภาพของเด็ก ทั้งความสามารถทางเชาวน์ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ เพื่อป้องกันปัญหาในการเรียนและการใช้ชีวิตในอนาคตของเด็กนักเรียน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | โรงเรียนต้นแบบอย่างน้อย 1 โรงเรียนได้พัฒนาระบบเฝ้าระวัง IQ/EQ ร้อยละ 70 ของเด็กวัยเรียนที่มีปัญหา IQ/EQ ได้รับการดูแล |
- ประชุมชี้แจงเกี่ยวกับIQ/ EQ แก่ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
- คัดกรอง IQ/ EQ นักเรียน
- ทีมสหวิชาชีพติดตามผลการคัดกรองIQ / EQ
- ส่งเสริม ดูแลนักเรียนที่มีปัญหา IQ / EQ
- คัดกรอง IQ/ EQ นักเรียน
- ครูและบุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจในการส่งเสริมความสามารถทางเชาวน์ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กนักเรียน
- ครูมีศักยภาพในการดูแลติดตามและให้คำปรึกษาเด็กนักเรียนมากขึ้น
- เด็กได้รับการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านการคิด การใช้ภาษาและอารมณ์ให้ถูกต้องตามจังหวะและเวลาที่เหมาะสม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 15:16 น.