โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย กายจิตผ่องใส ต.ศาลาใหม่ ปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย กายจิตผ่องใส ต.ศาลาใหม่ ปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60-L2487-1-0012 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศาลาใหม่ |
วันที่อนุมัติ | 1 ธันวาคม 2559 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 9,400.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวฟาตินีพิริยศาสน์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลศาลาใหม่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.282,102.008place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 56 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ประชากรไทยมีอาชีพพื้นฐานอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบผู้มีรายได้น้อย แต่ทำงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัด ท่าทางการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ รวมทั้งการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีพิษแบบเฉียบพลันและเรื้อรังตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิษและปริมาณที่ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทางโดยการสัมผัสทางผิวหนังที่ไม่สวมถุงมือและรองเท้าบู๊ทป้องกันขณะทำงานกับสารเคมี การสูดหายใจละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่มีสารเคมีปนเปื้อน พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีที่รั่วซึม ฉีดพ่นสวนทิศทางลมทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมีโดยไม่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซึมเปื้อนทันที เป็นต้น จากการดำเนินการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศาลาใหม่ ในปี 2559 มีการดำเนินในเกษตรกรจำนวน70 คน โดยเป็นกิจกรรมให้ความรู้การปลูกพืชปลอดสารพิษ กิจกรรมคัดกรองประเมินความเสี่ยง (แบบ นบก.1) ซึ่งพบว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูงจนถึงเสี่ยงสูงมาก จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 แต่จากกิจกรรมการเจาะเลือดตรวจคัดกรองโดยใช้กระดาษ Reactive paper พบว่าทั้งที่เป็นเกษตรกรและที่ไม่ได้เป็นเกษตรกรแต่ใช้สารเคมีศัตรูพืช ได้รับการเจาะเลือดตรวจคัดกรองโดยใช้กระดาษ Reactive paper จำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 54.28 พบว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 44.73 และพบว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ปลอดภัย จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 36.84 จะเห็นได้ว่าทั้งกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร บางส่วนที่ยังใช้สารเคมีศัตรูพืชอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีการปฏิบัติตัวป้องกันสารเคมีเป็นอย่างดี จากแบบสัมภาษณ์ (แบบ นบก.1) พบว่าส่วนใหญ่ที่พบความเสี่ยงต่ำอยู่ จึงมีความจำเป็นจะต้องดูแลสุขภาพของเกษตรกรและผู้ใช้สารเคมีศัตรูพืชให้ปลอดภัยจากโรคภัยที่เกิดจากการสะสมสารเคมีในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคเรื้อรัง ฯลฯ ไปพร้อมๆกับการส่งเสริมวิธีธรรมชาติในการกำจัดศัตรูพืชทดแทนสารเคมีให้มากขึ้น เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรมีความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เกิดความตระหนัก และการดูแลสุขภาพตนเองโดยใช้วิธีธรรมชาติ เช่นการใช้สมุนไพรในการถอนพิษสารเคมี ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรมีสุขภาพที่ดีพึ่งตนเองได้ และเพื่อผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศาลาใหม่ จึงได้จัดโครงการเกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย กายจิตผ่องใส ต.ศาลาใหม่ ปี 2560 นี้ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1 เพื่อให้มีการจัดบริการเฝ้าระวังสุขภาพและคัดกรองความเสี่ยงเชิงรุกแก่เกษตรกร เกษตรกรที่มีผลจากการประเมินความเสี่ยง (แบบ นบก.1) เป็นเสี่ยงค่อนข้างสูงถึงเสี่ยงสูงมากได้รับการเจาะเลือดตรวจคัดกรองผู้เสี่ยงต่อพิษสารกำจัดศัตรูพืช ร้อยละ 100 |
||
2 | ข้อที่ 2 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ใช้สารเคมีศัตรูพืชดูแลสุขภาพตนเองโดยใช้วิธีธรรมชาติ เกษตรกรและผู้ที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีต้นรางจืดปลูกมีต้นรางจืดทุกหลังคาเรือน |
||
3 | ข้อที่ 3 เพื่อให้เกษตรกรและผู้ใช้สารเคมีศัตรูพืชมีความรู้ และความตระหนักในการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรและผู้ใช้สารเคมีศัตรูพืช ที่ได้รับการเจาะเลือดตรวจคัดกรองโดยใช้กระดาษ Reactive paper พบว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง และเป็นกลุ่มที่ไม่ปลอดภัย ลดลงจากปี 2559 อย่างน้อยร้อยละ 50 |
ขั้นที่ 1 เตรียมการก่อนดำเนินงานตามโครงการ 1. ประสานงานเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์ 2. จัดทำโครงการและแผนปฏิบัติการเพื่อเสนออนุมัติ 3. ประชาสัมพันธ์ เชิญชวน และติดตามกลุ่มเป้าหมาย ขั้นที่ 2 ดำเนินการตามโครงการ 4. จัดกิจกรรมตัดกรองความเสี่ยงโดยการสัมภาษณ์แบบ นบก.1 และการประเมินสภาวะทางจิตของเกษตรกรและผู้ใช้สารเคมีศัตรูพืชทุกคน พร้อมคืนข้อมูลผลการประเมินความเสี่ยงให้เกษตรกรและชุมชน และแนะนำวิธีการดุแลสุขภาพและพฤติกรรมที่เหมาะสมในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัยเป็นรายบุคคล/รายกลุ่มทั้งในชุมชน และในคลินิกเกษตรกร 5. การจัดคลินิกเกษตรกรปลอดโรคเพื่อให้คำปรึกษาและติดตามอาการ โดยจะส่งต่อพบแพทย์เพื่อรักษาในกรณีที่มีอาการรุนแรง 6. กิจกรรมประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดความรู้ใหม่ๆ ในชุมชนหมู่ 1 และหมู่ 2 เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และส่งเสริมการกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วยวิธีธรรมชาติในชุมชน โดยการจัดทำป้ายสื่อสิ่งพิมพ์ 7. จัดกิจกรรมประชุมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ เรื่องอันตรายจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช วิธีการป้องกันป้องกันอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช การดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้น การวินิจฉัยการรักษาเบื้องต้น การส่งต่อเพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง การใช้สมุนไพรลดล้างพิษ การล้างผักเพื่อลดสารปนเปื้อนและการให้คำปรึกษาเพื่อลดความเครียด และการเจาะเลือดตรวจคัดกรองโดยใช้กระดาษ Reactive paper ในกลุ่มเกษตรกรทั่วไป/กลุ่มใช้สารเคมีกำจัดพืช/กลุ่มเกษตรกรที่คัดกรองจากแบบสัมภาษณ์ นบก.1 แล้วพบความเสี่ยง ในพื้นที่หมู่ 1 และ หมู่ 2 จำนวน 56 คน โดยมีการทดสอบความรู้ก่อนและหลังกิจกรรม 8. จัดกิจกรรม ส่งเสริมการปลูกและขยายพันธ์สมุนไพรลดสารพิษในชุมชนนำร่อง “รางจืด ลดสารพิษ ลดโรคในเกษตรกร” โดยให้ชุมชนหมู่ 1 และหมู่ 2 นำต้นรางจืดไปปลูกและขยายพันธ์แก่เกษตรกรทุกครัวเรือน โดยเฉพาะครัวเรือนของเกษตรกรที่พบกลุ่มเสี่ยง ให้นำไปบริโภคเป็นยาลดสารพิษเป็นหลัก โดยสามารถลวกกินกับอาหาร หรือนำไปชงชาดื่ม ขั้นที่ 3 สรุปผลและวิเคราะห์ข้อมูล 9. ประเมินผลและสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ และรายงานผลตามโครงการให้ผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทราบ ขั้นที่ 4 การประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเนื่อง 10. ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับอันตรายจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช
- เกษตรกรและผู้บริโภคมีความปลอดภัยจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
- เกษตรกรมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2560 11:28 น.