กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

assignment
บันทึกกิจกรรม
อบรมกระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานและผลกระทบเรื่องเอดส์แก่ประชาชน30 กรกฎาคม 2562
30
กรกฎาคม 2562รายงานจากพื้นที่ โดย ชมรมเอดส์ตำบลเขาตูม
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

ขั้นตอนการดำเนินงาน 1.ประชุมคณะทำงานเอดส์ในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับเยาวชนในตำบลและมอบหมายงานแต่ละฝ่าย 2. ประสานงานติดต่อห้องประชุม 3. เตรียมเอกสาร วัสดุอุปกรณ์ แจกผู้เข้าร่วมอบรม 4. จัดทำแผนขอเบิกงบประมาณในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เอดส์กับเยาวชนในพื้นที่   5. ดำเนินการตามแผนที่วางไว้   6. จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน (รายงานกิจกรรม/การเงิน)
  7. ตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน ก่อนจัดส่งกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลเขาตูม กระบวนการ เริ่มลงทะเบียนผู้เข้าร่วมเวลา 08.30 – 16.00 น. ลำดับที่ 1
1.แนะนำ/ ทำความรู้จักวิทยากร แกนนำคณะทำงานเอดส์ในตำบลเขาตูม
ลำดับที่ 2 ชี้แจงวัตถุประสงค์พร้อมนำเสนอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเอดส์จังหวัดปัตตานี ประเด็นสำคัญที่ให้ความรู้กับประชาชน พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนจะมีการสาธิต โรคเอดส์คืออะไร? ท่านคิดว่าท่านมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคเอดส์หรือไม่  เพราะอะไร ?

เอดส์ คือ  อะไร ?

HIV  คืออะไร  ?

ผู้ติดเชื้อกับผู้ป่วยเอดส์ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

โรคเอดส์ติดต่อได้กี่ทาง ? ทางใดบ้าง ?

อาการของโรคเอดส์เป็นอย่างไรบ้าง ?

โรคเอดส์รักษาได้อย่างไร ?

มีการควบคุมและป้องกันได้อย่างไรบ้าง ?

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครมีเชื้อ หรือไม่มีเชื้อ HIV อยู่ในตัว ?

เราจะตรวจหาเชื้อ ได้อย่างไร ?

โรคเอดส์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด ? จากคนกลุ่มใด ?

ท่านคิดว่าโรคเอดส์มีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์อิสลามในช่วงใดบ้าง ?



ลำดับที่ 3  สาธิตเกมส์แลกน้ำ (การแพร่ระบาดของ HIV/AIDS) วัตถุประสงค์การเรียนรู้
      1. เพื่อให้ประชาชนที่เข้าอบรมสามารถอธิบายการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ได้       2. เพื่อให้ประชาชนที่เข้าอบรมตระหนัก " เอดส์ " เป็นภัยใกล้ตัวและทุกคนมีโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อ HIV       3. ประชาชนที่เข้าร่วมอบรมสามารถระบุทางเลือกในการป้องกันเอดส์ที่สอดคล้องกับวิถีอิสลาม       4 .ประชาชนกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และทักษะในการตัดสินใจ

อุปกรณ์/สื่อ       1. กระดาษ ฟลิปชาร์ต       2. ปากกาเคมี       3. ชุดอุปกรณ์เล่นกิจกรรม
3.1 สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ )
3.2 สารละลายฟินอฟทาลีน
3.3 น้ำเปล่า
3.5 ขวดแก้วใส่น้ำจำนวนสองเท่าของผู้เข้าร่วมอบรม
3.6 กระบอกฉีดยาเท่าจำนวนผู้เข้าอบรม       4.  แผนผังเพื่อสรุปการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV โดยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม       2.2.2 ขั้นตอนการจัดกิจกรรม     1.  เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมดังนี้         1.1  ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ลงในขวดแก้ว 1 ใบ
        1.2  ใส่น้ำเปล่าลงในขวดแก้วที่เหลือให้ได้ครบตามจำนวนผู้เข้าร่วม  นับร่วมใบแรกที่ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ด้วย         1.3 แยกขวดที่ใส่น้ำเปล่า 4-6 ใบ (ตามจำนวนอาสาสมัคร ) แยกเก็บไว้ต่างหาก         1.4  จัดขวดแก้วที่ใส่น้ำไว้ในถาดวางขวดที่ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์รวมอยู่ในถาดด้วย         1.5  เตรียมจำนวนขวดแก้วเปล่าเท่ากับจำนวนผู้เรียนอีก  1 ชุด
2. ชี้แจงกิจกรรม "แลกน้ำ" ให้ผู้เข้าร่วมอบรม 2.1 ขออาสาสมัคร 4-6 คน แจกขวดใส่น้ำที่แยกไว้ 6 ขวดให้ถือไว้คนละ 1 ขวด ให้อาสาสมัครดูดน้ำในขวดประมาณครึ่งกระบอกฉีดยา แล้วนำไปฉีดเก็บไว้ในขวดเปล่าคนละ 1 ขวด จากนั้นแยกขวดน้ำชุดหลังของอาสาสมัครเก็บไว้ต่างหาก ให้อาสาสมัครนั่งรวมกันอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้อง 2.2 แจกขวดบรรจุน้ำที่เหลือทั้งหมดในถาดให้กับคนที่เหลือคนละ 1 ขวด บอกให้สังเกตน้ำในขวดตัวเองว่าใส่เหมือนเพื่อนไหม หรือแตกต่างจากของเพื่อนอย่างไร จากนั้นให้ดูดน้ำในขวดของตนประมาณครึ่งกระบอกฉีดยาไปเก็บไว้ในขวดเปล่า 1 คนต่อขวด ไม่ใส่ปนกัน 2.3 เมื่อเก็บน้ำใส่ขวดเปล่าเสร็จแล้ว อาสาสมัครมายืนล้อมวงรวมกัน ให้ฝึกใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ำในขวดของตนเองให้คุ้นเคย 2.4 บอกให้อาสาสมัครนั่งสังเกตการณ์อยู่นอกวง ยังไม่ต้องร่วมเล่น 2.5 รอบที่ 1 ให้ผู้เล่นจับคู่กับใครก็ได้ในวง เมื่อจับคู่ครบแล้วให้แต่ละคนดูดน้ำในขวดของตนเองประมาณครึ่งกระบอกใส่ลงไปในขวดของคู่ ให้ใช้กระบอกฉีดยาคนน้ำในขวดของตนเองสังเกตดูว่าน้ำในขวดเปลี่ยนแปลงหรือไม่ 2.6 รอบที่ 2-4 ให้ทุกคนในวงจับคู่ใหม่ โดยในแต่ละรอบต้องเปลี่ยนคู่ ไม่ให้ซ้ำคนเดิมที่เคยแลกแล้ว ในแต่ละรอบเมื่อจับคู่ได้แล้วให้แลกน้ำกัน (ทำเหมือนรอบที่ 1 ) 2.7 รอบสุดท้ายให้อาสาสมัครทั้ง 4 หรือ 6 คน เข้าร่วมเล่นด้วย โดยให้อาสาสมัครเลือกจะจับคู่กับใครก็ได้ ในวงแต่ห้ามอาสาสมัครจับคู่กันเอง  เมื่ออาสาสมัครจับคู่ได้ได้แล้ว  ให้ที่เหลือจับคู่กันเองและแลกน้ำกันจากนั้นให้ทุกคนกลับไปนั่งที โดยนำขวดวางไว้ข้างหน้าตัวเอง 2.8 ถามผู้เข้าอบรมว่า “กิจกรรมน้ำใส ๆ หน้าใส ๆ ที่เพิ่งเล่นไป เปรียบเทียบกับเรื่องเอดส์ได้อย่างไรบ้าง จากนั้นผู้ดำเนินการอธิบายเพิ่มเติมว่า การแลกน้ำเป็นการจำลองภาพการมีเพศสัมพันธ์ 2.9 ถามต่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้หรือไม่ 2.10 บอกผู้เข้าอบรมว่า  การเปรียบขวดน้ำที่ทุกคนถืออยู่กับคน ในสังคมที่มีเพศสัมพันธ์และในวงนี้ มีคนที่มีเชื้อเอชไอวี บอกได้หรือไม่ว่าเป็นใคร ผู้ดำเนินการเปรียบเทียบว่า เราไม่สามารถดูจากรูปลักษณ์ภายนอกได้ว่า ใครมีเชื้อเอชไอวีเหมือนขวดน้ำใส ๆ ที่เหมือนกันทุกขวด เราบอกไม่ได้ว่าขวดไหนมีสิ่งใดปะปนอยู่ 2.11 ถามผู้เข้าอบรมว่า เมื่อดูจากภายนอกไม่ได้ว่าใครมีเชื้อบ้าง วิธีการจะทราบว่าใครมีเชื้อเอชไอวีบ้าง คืออะไร ผู้ดำเนินการสรุปให้เห็นว่า มีเพียงวิธีเดียวที่จะทราบอย่างแน่นอนว่าใครมืเชื้อเอชไอวีบ้าง คือ การตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี 2.12 ส่วนในกิจกรรมนี้ เราจะตรวจจากขวดน้ำที่แต่ละคนถือ ถามหาผู้สมัครใจตรวจ แล้วนำสารละลายฟีนนอฟทาลีนหยดใส่ขวดน้ำของผู้ที่สมัครใจตรวจ จากนั้นถามคนที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ให้เชื้อเอชไอวี ให้ถามเจ้าของขวดแรกที่น้ำเปลี่ยนสีว่าคิดได้รับเชื้อมาจากใคร  จากนั้นถามคนที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ให้เชื้อต่อไปอีก 2-3 คน คิดว่าได้มาจากใคร ถามคนเหล่านี้ว่าเมื่อขวดแรกเปลี่ยนสีใครคิดว่าขวดของตัวเองจะเปลี่ยนด้วย ต้องการตรวจหรือไม่เมื่อตรวจและพบขวดที่เปลี่ยนสีขวดที่สองให้ไล่ถามแบบเดิมได้รับจากใคร 2.13 บอกผู้เล่นในตรวจทั้งหมดยกเว้นอาสาสมัคร หยดฟินนอฟทาลีนให้ทุกคน สุ่มถามคนที่ขวดน้ำเปลี่ยนสีว่าคิดว่าได้รับมาจากเพิ่มเติมอีก 2-3 คน 2.14 นำสารฟีนนอฟทาลีนมาทดสอบกับขวดอาสาสมัคร ดูว่ามีเปลี่ยนสีหรือไม่ ถามกลุ่มอาสาสมัครว่า อาสาสมัครได้แลกน้ำกี่ครั้ง ย้ำว่าอาสาสมัครได้เล่นเพียงรอบเดียว  ถามผู้เข้าร่วมอาสาสมัครในกิจกรรมนี้อาจเป็นตัวแทนของใครหรือพฤติกรรมอะไรบ้าง 2.15 ผู้ดำเนินการสรุปเพิ่มเติมว่า  อาสาสมัครซึ่งแลกน้ำเพียงครั้งเดียว เป็นตัวแทนของการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียว  เป็นครั้งแรกหรือมีกับคนคนเดียว ซึ่งก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน น้ำในขวดของอาสาสมัครจะเปลี่ยนสีหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าได้แลกน้ำกับใคร 2.16 ถามผู้เข้าร่วมอบรมว่า - การมีเพศสัมพันธ์กับคนคนเดียว (รักเดียวใจเดียว) รักนวนสงวนตัว (มีเพศสัมพันธ์เมื่อแต่งงาน )ทำห้ปลอดภัยจากเอดส์ได้จริงหรือไม่ ทำไมการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ - คิดว่าในชีวิตจริงคนเรามีโอกาสมีเพศสัมพันธ์ กับคนเพียงคนเดียวหรือหลายคน (ถามทั้งชายและหญิง ) 2.17  ถามผู้เข้าร่วมอบรมว่า - ถามผู้เข้าร่วมอบรมว่า คิดวามีขวดตั้งตนที่มีเชื้ออยู่กี่ขวด รู้ไหมว่าเป็นขวดไหน ผู้ดำเนินการเฉลย โดยนำฟินนอฟทาลีนหยดใส่ขวดน้ำที่ทุกคนเก็บน้ำไว้ก่อน เริ่มเล่นจะเห็นว่ามีเพียงขวดเดียวที่เปลี่ยนสี 3. คำถามเพื่อการสรุปและอภิปราย - ผู้เรียนสามารถที่จะยับยั้งพฤติกรรมที่นำไปสู่การติดเชื้อจากการเพศสัมพันธ์ได้อย่างไรบ้าง? - ผู้เรียนคิดว่าอาชีพใดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV มากที่สุด - ผู้เรียนรู้สึกอย่างไรถ้าในชีวิตจริงต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ HIV 4. คำถามอภิปรายสำหรับประเด็นทางศาสนา - มีคำสอนใดบ้างที่กล่าวถึงเรื่องของการผิดประเวณี - “เอดส์” เป็นบทลงโทษหรือบทสอบ - ผู้เรียนสามารถนำหลักการอิสลามใดบ้างมาประยุกต์ใช้เพื่อยับยั้งการผิดประเวณี 5. เนื้อหาและประเด็นทางศาสนาที่สอดคล้องกับกิจกรรม หลักคำสอนหรับกิจกรรมนี้สามารถสรุปได้ว่า การแพร่ระบาดของโรคเอดส์นั้นสามารถแพร่กระจายได้ทั้งบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่นทำผิดประเวณี และใช้สารเสพติด ส่วนบุคคลที่ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงก็มีโอกาสได้รับเชื้อ HIV ได้เช่นกัน ดังนั้น จึงสามารถสรุปหลักการศาสนาได้ 2 ลักษณะดังนี้ - บุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง - บุคคลที่ได้รับผลกระทบ หลักคำสอนของศาสนาอิสลามสำหรับบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง
โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง  แล้วเราได้ให้เขากลับสู่สภาพที่ตกต่ำยิ่ง นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบสิ่งดีงามทั้งหลาย โดยที่สำหรับพวกเขาจะได้รับรางวัลอยางไม่มีที่สิ้นสุด ซินา  คือ การร่วมประเวณีนอกสมรส เป็นบาปใหญ่ประการหนึ่งที่อิสลามห้ามเตือนไม่ให้มุสลิมเข้าใกล้การกระทำนี้  เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่สกปรกและเลวร้ายยิ่ง  อัลลอฮได้ตรัสไว้ว่า “ และพวกเจ้าจงอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า “ (อิสเราะฮ :32) การประเวณีนอกสมรส เป็นความผิดที่รุนแรงอันดับสาม รองมาจากการตังภาคีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.)และการฆ่าลูกของตน


ลำดับที่ 4  บรรยายให้ความรู้ ผลกระทบจากการติดเชื้อ HIV/AIDS ระยะเวลา 1 ชั่วโมง วัตถุประสงค์
1. ให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากการติดเชื้อเอชไอวี 2. ทางออกในการเผชิญกับสถานการณ์การติดเชื้อของตนเอง 3. บทบาทของคนทำงานด้านเอดส์ การช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาจากการติดเชื้อเอชไอวี อุปกรณ์/สื่อ 1. กรณีศึกษา 4 กรณี 2. แผ่นใส และปากกาเขียนแผ่นใส ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม 1. ชี้แจงผู้เข้าร่วมการอบรมว่า กิจกรรมนี้มีกรณีตัวอย่าง 4 เรื่อง ให้ช่วยกัน      แลกเปลี่ยนและตอบคำคำถามได้ 2. แบ่งผู้เข้าร่วมการอบรมออกเป็น 4 กลุ่มย่อย แต่ละกลุ่มจะได้รับแจกกรณีตัวอย่างกลุ่มละ 1 เรื่อง สำหรับพูดคุยในกลุ่ม รายละเอียดกรณีตัวอย่าง (แนบท้าย) 3. ให้เวลาแต่ละกลุ่มในการพูดคุย 40 นาที 4. ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการพูดคุยตามประเด็นในกลุ่มใหญ่ 5. ผู้ดำเนินการกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมการอบรมคนอื่นๆ แสดงความคิดเห็น และ    แลกเปลี่ยนต่อสิ่งที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ
6. ผู้ดำเนินการควรซักถามแต่ละกลุ่มเพิ่มเติม  ตามประเด็นที่ผู้ดำเนินการเปิดให้มีการแลกเปลี่ยน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ กรณีที่ 1 มีข่าวลือในหมู่บ้านว่าเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยคนหนึ่งติดเชื้อเอดส์ • เหตุผลที่ผู้นำชุมชน ควรเปิดเผยหรือไม่ควรเปิดเผยเรื่องการติดเชื้อเอดส์ของตน ใครอยากให้เปิดเผยหรือไม่เปิดเผย • การจัดการทั้งในกรณีเปิดเผย และไม่เปิดเผยว่ามีเชื้อเอดส์ • ผลกระทบของการติดเชื้อเอดส์ของผู้นำชุมชน กับการติดเชื้อเอดส์ของชาวบ้านทั่วไปเหมือนหรือต่างกันอย่างไร กรณีที่ 2 มีผู้ติดเชื้อเอดส์ในชุมชนมาปรึกษาท่านว่าเขาควรจะบอกแฟนหรือไม่ว่าตนเองติดเชื้อทั้งคู่กำลังเตรียมตัวจะแต่งงาน • สิทธิเกี่ยวกับผลเลือดเป็นสิทธิของใครที่จะเปิดเผย • คิดหรือรู้สึกอย่างไรต่อคนที่มารับบริการปรึกษาในเรื่องนี้ ถ้าเขาตั้งใจว่าจะบอกหรือไม่บอกคู่ กรณีที่ 3 ผู้หญิงคนหนึ่งมาตรวจว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือไม่ และให้ข้อมูลว่า สามีติดเชื้อเอดส์และกำลังป่วยอยู่ ผลการตรวจพบว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ และติดเชื้อเอดส์ • ผลกระทบด้านต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอดส์ • คิดอย่างไรต่อการตั้งครรภ์ต่อการทำแท้ง การคุมกำเนิดของเธอ กรณีที่ 4 ลูกผู้ติดเชื้อในชุมชนไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้ เนื่องจากครูให้เหตุผลว่าอาจทำให้เด็กคนอื่นๆ ติดเชื้อ • ความกังวลของคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ • สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น • คิดว่าปัญหานี้จะแก้ไขได้หรือไม่ หรือจะทำอะไรได้บ้าง เป็นบทบาทของใคร กรณีที่ 5 ผู้หญิงคนหนึ่งติดเชื้อเอชไอวี แล้วแต่งงานใหม่      ต้องการมีบุตรไว้สืบสกุล • คิดอย่างไรต่อต่อผู้หญิงคนนี้ที่จะมีบุตร • ท่านคิดว่า มีใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง และเกี่ยวอย่างไร • มีสิทธิที่จะมีบุตรหรือไม่ 7. หลังจากที่ทุกกลุ่มนำเสนอและอภิปรายแลกเปลี่ยนกันแล้ว ผู้ดำเนินการชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญที่สรุปได้ร่วมกัน เช่น • การเปิดเผยสถานการณ์ติดเชื้อเอดส์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ให้ผลในด้านลบมากกว่าด้านบวก เพราะเกิดผลกระทบกับผู้ติดเชื้อ และคนใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องมาก รวมทั้งสังคมยังไม่ยอมรับ • ในเรื่องสิทธิที่จะไม่เปิดเผยสถานการติดเชื้อ ทุกคนมีสิทธิที่จะไม่เปิดเผยสถานการณ์ติดเชื้อของตนเอง การเปิดเผยเป็นเรื่องของความพร้อมซึ่งเจ้าตัวเป็นคนประเมินเองว่า หากบอกไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง • สิทธิการตั้งครรภ์ หรือยุติการตั้งครรภ์ เป็นสิทธิของแม่ สิ่งที่เจ้าหน้าที่หรือคนทำงานทำได้คือ การให้ข้อมูลที่รอบด้านในเรื่องการตั้งครรภ์ขณะมีเชื้อเอดส์ เพื่อให้แม่เป็นคนตัดสินใจเอง ที่สำคัญเจ้าหน้าที่หรือคนทำงานจะต้องไม่ใช้ทัศนะของตนเองในการโน้มน้าวใจให้ผู้รับบริการตัดสินใจตามสิ่งที่ผู้ให้บริการคิด 8. ข้อมูลสำคัญที่สามารถให้กับหญิงมีครรภ์ที่มีเชื้อเอดส์เพื่อประกอบการตัดสินใจ เช่น • โอกาสเสี่ยงที่เด็กจะติดเชื้อเอดส์จากมารดามีเพียง 30 % • หากแม่ได้รับยา AZT ระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยลดอัตราการติดเชื้อของเด็กลงไปอีก เหลือเพียง 8-10 %  ปัจจุบันมีการให้แม่ที่ตั้งครรภ์รับยา Nevirapin ซึ่งช่วยลดอัตราการติดเชื้อลงเหลือเพียง 2 %    และแม่ที่เคยได้รับยาต้านไวรัสมาก่อนตั้งครรภ์ไม่จำเป็นต้องรับยาซ้ำอีก ก็สามารถลดโอกาสเสี่ยงลงได้ • การลดโอกาสเสี่ยงโดยการงดกินนมแม่  รวมทั้งแนวทางในการทำความเข้าใจกับคนรอบข้างและชุมชนถึงสาเหตุในการให้นมผงแก่ทารก แทนที่จะเป็นนมแม่ • การประเมินความพร้อมของครอบครัวทั้งสองฝ่าย ในการยอมรับสภาพของการรับเชื้อ • การชวนให้แม่ได้ลองคิดเรื่อง หากเด็กคลอดออกมาใครจะเป็นผู้ดูแล หรือหากแม่หรือพ่อป่วยจะมีใครช่วยดูแลเด็กด้วยหรือไม่ มีการเตรียมการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง • คำแนะนำในการดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง • แนะนำหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือด้านแม่และเด็ก เช่น สถานที่ให้ยา AZT นมผง การคุมกำเนิดในอนาคต
• หากมีประเด็นในการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจอื่นๆ ผู้ดำเนินการควรนำมาเสนอด้วย 9. หากมีประเด็นในการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจอื่นๆ ผู้ดำเนินการควรนำมาเสนอด้วย 10. ผู้ดำเนินการสรุปสิ่งที่ได้จากกิจกรรมวิเคราะห์กรณีตัวอย่าง ดังนี้ • จากการวิเคราะห์กรณีตัวอย่าง ทั้ง 5 กรณี ในฐานะคนนอก สิ่งที่เห็นคือผลกระทบและปัญหาที่ตามมาจากการติดเชื้อเอดส์ และจากการเปิดเผยสถานะการติดเชื้อ ดังนั้น เมื่อย้อนกลับไปประเด็นปัญหาในการทำงาน ประเด็นหนึ่งที่มักถูกหยิบยกขึ้นมา      คือ “การที่ผู้ติดเชื้อไม่เปิดเผยตัวเอง เป็นปัญหาในการทำงานเอดส์” จากกิจกรรมนี้น่าจะทำให้เข้าใจมากขึ้น ถึงสาเหตุและความยากของการเปิดเผยสถานการณ์ติดเชื้อ และทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันผลักดันให้สังคมมีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเอดส์  และสามารถยอมรับและไม่รังเกียจผู้ติดเชื้อ 11. เมื่อวิเคราะห์ปัญหาของการติดเชื้อเอดส์แล้ว พบว่า ผู้ที่เผชิญปัญหาและได้รับ  ผลกระทบโดยตรง คือ ผู้ติดเชื้อและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องสุขภาพ สังคม หรือเศรษฐกิจ คำถามคือ ในฐานะเจ้าหน้าที่หรือคนทำงานเอดส์ เราจะช่วยคนที่เผชิญปัญหาโดยตรงได้อย่างไร? ในฐานะเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สิ่งที่ทำได้โดยตรง คือ ในด้านสุขภาพ เช่น • ให้คำแนะนำกับผู้ติดเชื้อ และครอบครัวในเรื่องการปฏิบัติตัว • การออกเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน (ซึ่งนอกจากเป็นการช่วยผู้ป่วยและครอบครัวโดยตรงแล้ว ยังเป็นการทำให้ชุมชนเข้าใจโดยไม่ต้องอธิบาย แต่แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่อยู่ร่วมกันได้) • การสอนญาติ หรือครอบครัวผู้ป่วยในด้านการดูแล เช่น การทำแผล โดยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง • การให้กำลังใจ เป็นต้น (ใช้แผ่นใส 1 ประกอบการอธิบาย) 12. ส่วนสภาพสังคมโดยรวมที่ยังรังเกียจ ไม่ยอมรับ กลัวการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ ตลอดจนเกิดการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานบางอย่าง เช่น การไม่ให้ลูกผู้ติดเชื้อเข้าโรงเรียน เป็นต้น เป็นเรื่องที่คนทำงานจะสามารถช่วยผลักดัน และสื่อสารเรื่องเอดส์กับสังคมให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นได้  คำถามที่อาจช่วยเป็นแนวทางให้คนทำงานในการคลี่คลายสถานการณ์  การไม่ยอมรับการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเอดส์ เช่น คนทำงานจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้

  1. คนติดเชื้อจะอยู่ในครอบครัว ชุมชนเดิมของตนเองได้
  2. คนในครอบครัวเห็นบทบาทของตนเอง และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเอดส์
  3. องค์กรท้องถิ่น ได้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมกับการจัดการปัญหาเอดส์ของชุมชน (ใช้แผ่นใส 2 ประกอบการอธิบาย)
  4. ผู้ดำเนินการสรุปให้เห็น ตัวอย่างประเด็นสิทธิมนุษยชน ที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี/เอดส์ (แผ่นใส 3)
circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ประชาชนเข้าร่วมอบรมตามแผนที่ได้วางไว้จำนวน 70 คน ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องเอดส์ มีประเด็นซักถามกรณี การอยู่กับผู้ติดเชื้อ HIV

อบรมความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานเรื่องเอดส์แก่เยาวชน27 กรกฎาคม 2562
27
กรกฎาคม 2562รายงานจากพื้นที่ โดย ชมรมเอดส์ตำบลเขาตูม
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

ขั้นตอนการดำเนินงาน 1.ประชุมคณะทำงานเอดส์ในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับเยาวชนในตำบลและมอบหมายงานแต่ละฝ่าย 2. ประสานงานติดต่อห้องประชุม 3. เตรียมเอกสาร วัสดุอุปกรณ์ แจกผู้เข้าร่วมอบรม 4. จัดทำแผนขอเบิกงบประมาณในการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เอดส์กับเยาวชนในพื้นที่   5. ดำเนินการตามแผนที่วางไว้   6. จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน (รายงานกิจกรรม/การเงิน)
  7. ตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน ก่อนจัดส่งกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลเขาตูม รายละเอียดการดำเนินงาน สรุปอบรมความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานเรื่องเอดส์แก่เยาวชน


เริ่มลงทะเบียนผู้เข้าร่วมเวลา 08.30 – 16.00 น. ลำดับที่ 1
1.แนะนำ/ ทำความรู้จักวิทยากร แกนนำคณะทำงานเอดส์ในตำบลเขาตูม
ลำดับที่ 2 ชี้แจงวัตถุประสงค์พร้อมนำเสนอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเอดส์จังหวัดปัตตานี ประเด็นสำคัญที่ให้ความรู้กับเยาวชน พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนจะมีการสาธิต โรคเอดส์คืออะไร? ท่านคิดว่าท่านมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคเอดส์หรือไม่  เพราะอะไร ?

เอดส์ คือ  อะไร ?

HIV  คืออะไร  ?

ผู้ติดเชื้อกับผู้ป่วยเอดส์ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

โรคเอดส์ติดต่อได้กี่ทาง ? ทางใดบ้าง ?

อาการของโรคเอดส์เป็นอย่างไรบ้าง ?

โรคเอดส์รักษาได้อย่างไร ?

มีการควบคุมและป้องกันได้อย่างไรบ้าง ?

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครมีเชื้อ หรือไม่มีเชื้อ HIV อยู่ในตัว ?

เราจะตรวจหาเชื้อ ได้อย่างไร ?

โรคเอดส์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด ? จากคนกลุ่มใด ?

ท่านคิดว่าโรคเอดส์มีความสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์อิสลามในช่วงใดบ้าง ?



ลำดับที่ 3  สาธิตเกมส์แลกน้ำ (การแพร่ระบาดของ HIV/AIDS) วัตถุประสงค์การเรียนรู้
      1. เพื่อให้เยาวชนที่เข้าอบรมสามารถอธิบายการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ได้       2. เพื่อให้ผู้เยาวชนที่เข้าอบรมตระหนัก " เอดส์ " เป็นภัยใกล้ตัวและทุกคนมีโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อ HIV       3. เยาวชนที่เข้าร่วมอบรมสามารถระบุทางเลือกในการป้องกันเอดส์ที่สอดคล้องกับวิถีอิสลาม       4 .เยาวชนเกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และทักษะในการตัดสินใจ


อุปกรณ์/สื่อ       1. กระดาษ ฟลิปชาร์ต       2. ปากกาเคมี       3. ชุดอุปกรณ์เล่นกิจกรรม
3.1 สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ )
3.2 สารละลายฟินอฟทาลีน
3.3 น้ำเปล่า
3.5 ขวดแก้วใส่น้ำจำนวนสองเท่าของผู้เข้าร่วมอบรม
3.6 กระบอกฉีดยาเท่าจำนวนผู้เข้าอบรม       4.  แผนผังเพื่อสรุปการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV โดยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ขั้นตอนการจัดกิจกรรม       2.2.2 ขั้นตอนการจัดกิจกรรม     1.  เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมดังนี้         1.1  ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ลงในขวดแก้ว 1 ใบ
        1.2  ใส่น้ำเปล่าลงในขวดแก้วที่เหลือให้ได้ครบตามจำนวนผู้เข้าร่วม  นับร่วมใบแรกที่ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ด้วย         1.3 แยกขวดที่ใส่น้ำเปล่า 4-6 ใบ (ตามจำนวนอาสาสมัคร ) แยกเก็บไว้ต่างหาก         1.4  จัดขวดแก้วที่ใส่น้ำไว้ในถาดวางขวดที่ใส่สารโซเดียมไฮดรอกไซด์รวมอยู่ในถาดด้วย         1.5  เตรียมจำนวนขวดแก้วเปล่าเท่ากับจำนวนผู้เรียนอีก  1 ชุด
2. ชี้แจงกิจกรรม "แลกน้ำ" ให้ผู้เข้าร่วมอบรม 2.1 ขออาสาสมัคร 4-6 คน แจกขวดใส่น้ำที่แยกไว้ 6 ขวดให้ถือไว้คนละ 1 ขวด ให้อาสาสมัครดูดน้ำในขวดประมาณครึ่งกระบอกฉีดยา แล้วนำไปฉีดเก็บไว้ในขวดเปล่าคนละ 1 ขวด จากนั้นแยกขวดน้ำชุดหลังของอาสาสมัครเก็บไว้ต่างหาก ให้อาสาสมัครนั่งรวมกันอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้อง 2.2 แจกขวดบรรจุน้ำที่เหลือทั้งหมดในถาดให้กับคนที่เหลือคนละ 1 ขวด บอกให้สังเกตน้ำในขวดตัวเองว่าใส่เหมือนเพื่อนไหม หรือแตกต่างจากของเพื่อนอย่างไร จากนั้นให้ดูดน้ำในขวดของตนประมาณครึ่งกระบอกฉีดยาไปเก็บไว้ในขวดเปล่า 1 คนต่อขวด ไม่ใส่ปนกัน 2.3 เมื่อเก็บน้ำใส่ขวดเปล่าเสร็จแล้ว อาสาสมัครมายืนล้อมวงรวมกัน ให้ฝึกใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ำในขวดของตนเองให้คุ้นเคย 2.4 บอกให้อาสาสมัครนั่งสังเกตการณ์อยู่นอกวง ยังไม่ต้องร่วมเล่น 2.5 รอบที่ 1 ให้ผู้เล่นจับคู่กับใครก็ได้ในวง เมื่อจับคู่ครบแล้วให้แต่ละคนดูดน้ำในขวดของตนเองประมาณครึ่งกระบอกใส่ลงไปในขวดของคู่ ให้ใช้กระบอกฉีดยาคนน้ำในขวดของตนเองสังเกตดูว่าน้ำในขวดเปลี่ยนแปลงหรือไม่ 2.6 รอบที่ 2-4 ให้ทุกคนในวงจับคู่ใหม่ โดยในแต่ละรอบต้องเปลี่ยนคู่ ไม่ให้ซ้ำคนเดิมที่เคยแลกแล้ว ในแต่ละรอบเมื่อจับคู่ได้แล้วให้แลกน้ำกัน (ทำเหมือนรอบที่ 1 ) 2.7 รอบสุดท้ายให้อาสาสมัครทั้ง 4 หรือ 6 คน เข้าร่วมเล่นด้วย โดยให้อาสาสมัครเลือกจะจับคู่กับใครก็ได้ ในวงแต่ห้ามอาสาสมัครจับคู่กันเอง  เมื่ออาสาสมัครจับคู่ได้ได้แล้ว  ให้ที่เหลือจับคู่กันเองและแลกน้ำกันจากนั้นให้ทุกคนกลับไปนั่งที โดยนำขวดวางไว้ข้างหน้าตัวเอง 2.8 ถามผู้เข้าอบรมว่า “กิจกรรมน้ำใส ๆ หน้าใส ๆ ที่เพิ่งเล่นไป เปรียบเทียบกับเรื่องเอดส์ได้อย่างไรบ้าง จากนั้นผู้ดำเนินการอธิบายเพิ่มเติมว่า การแลกน้ำเป็นการจำลองภาพการมีเพศสัมพันธ์ 2.9 ถามต่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้หรือไม่ 2.10 บอกผู้เข้าอบรมว่า  การเปรียบขวดน้ำที่ทุกคนถืออยู่กับคน ในสังคมที่มีเพศสัมพันธ์และในวงนี้ มีคนที่มีเชื้อเอชไอวี บอกได้หรือไม่ว่าเป็นใคร ผู้ดำเนินการเปรียบเทียบว่า เราไม่สามารถดูจากรูปลักษณ์ภายนอกได้ว่า ใครมีเชื้อเอชไอวีเหมือนขวดน้ำใส ๆ ที่เหมือนกันทุกขวด เราบอกไม่ได้ว่าขวดไหนมีสิ่งใดปะปนอยู่ 2.11 ถามผู้เข้าอบรมว่า เมื่อดูจากภายนอกไม่ได้ว่าใครมีเชื้อบ้าง วิธีการจะทราบว่าใครมีเชื้อเอชไอวีบ้าง คืออะไร ผู้ดำเนินการสรุปให้เห็นว่า มีเพียงวิธีเดียวที่จะทราบอย่างแน่นอนว่าใครมืเชื้อเอชไอวีบ้าง คือ การตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี 2.12 ส่วนในกิจกรรมนี้ เราจะตรวจจากขวดน้ำที่แต่ละคนถือ ถามหาผู้สมัครใจตรวจ แล้วนำสารละลายฟีนนอฟทาลีนหยดใส่ขวดน้ำของผู้ที่สมัครใจตรวจ จากนั้นถามคนที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ให้เชื้อเอชไอวี ให้ถามเจ้าของขวดแรกที่น้ำเปลี่ยนสีว่าคิดได้รับเชื้อมาจากใคร  จากนั้นถามคนที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ให้เชื้อต่อไปอีก 2-3 คน คิดว่าได้มาจากใคร ถามคนเหล่านี้ว่าเมื่อขวดแรกเปลี่ยนสีใครคิดว่าขวดของตัวเองจะเปลี่ยนด้วย ต้องการตรวจหรือไม่เมื่อตรวจและพบขวดที่เปลี่ยนสีขวดที่สองให้ไล่ถามแบบเดิมได้รับจากใคร 2.13 บอกผู้เล่นในตรวจทั้งหมดยกเว้นอาสาสมัคร หยดฟินนอฟทาลีนให้ทุกคน สุ่มถามคนที่ขวดน้ำเปลี่ยนสีว่าคิดว่าได้รับมาจากเพิ่มเติมอีก 2-3 คน 2.14 นำสารฟีนนอฟทาลีนมาทดสอบกับขวดอาสาสมัคร ดูว่ามีเปลี่ยนสีหรือไม่ ถามกลุ่มอาสาสมัครว่า อาสาสมัครได้แลกน้ำกี่ครั้ง ย้ำว่าอาสาสมัครได้เล่นเพียงรอบเดียว  ถามผู้เข้าร่วมอาสาสมัครในกิจกรรมนี้อาจเป็นตัวแทนของใครหรือพฤติกรรมอะไรบ้าง 2.15 ผู้ดำเนินการสรุปเพิ่มเติมว่า  อาสาสมัครซึ่งแลกน้ำเพียงครั้งเดียว เป็นตัวแทนของการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียว  เป็นครั้งแรกหรือมีกับคนคนเดียว ซึ่งก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน น้ำในขวดของอาสาสมัครจะเปลี่ยนสีหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าได้แลกน้ำกับใคร 2.16 ถามผู้เข้าร่วมอบรมว่า - การมีเพศสัมพันธ์กับคนคนเดียว (รักเดียวใจเดียว) รักนวนสงวนตัว (มีเพศสัมพันธ์เมื่อแต่งงาน )ทำห้ปลอดภัยจากเอดส์ได้จริงหรือไม่ ทำไมการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ - คิดว่าในชีวิตจริงคนเรามีโอกาสมีเพศสัมพันธ์ กับคนเพียงคนเดียวหรือหลายคน (ถามทั้งชายและหญิง ) 2.17  ถามผู้เข้าร่วมอบรมว่า - ถามผู้เข้าร่วมอบรมว่า คิดวามีขวดตั้งตนที่มีเชื้ออยู่กี่ขวด รู้ไหมว่าเป็นขวดไหน ผู้ดำเนินการเฉลย โดยนำฟินนอฟทาลีนหยดใส่ขวดน้ำที่ทุกคนเก็บน้ำไว้ก่อน เริ่มเล่นจะเห็นว่ามีเพียงขวดเดียวที่เปลี่ยนสี 3. คำถามเพื่อการสรุปและอภิปราย - ผู้เรียนสามารถที่จะยับยั้งพฤติกรรมที่นำไปสู่การติดเชื้อจากการเพศสัมพันธ์ได้อย่างไรบ้าง? - ผู้เรียนคิดว่าอาชีพใดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV มากที่สุด - ผู้เรียนรู้สึกอย่างไรถ้าในชีวิตจริงต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ HIV 4. คำถามอภิปรายสำหรับประเด็นทางศาสนา - มีคำสอนใดบ้างที่กล่าวถึงเรื่องของการผิดประเวณี - “เอดส์” เป็นบทลงโทษหรือบทสอบ - ผู้เรียนสามารถนำหลักการอิสลามใดบ้างมาประยุกต์ใช้เพื่อยับยั้งการผิดประเวณี 5. เนื้อหาและประเด็นทางศาสนาที่สอดคล้องกับกิจกรรม หลักคำสอนหรับกิจกรรมนี้สามารถสรุปได้ว่า การแพร่ระบาดของโรคเอดส์นั้นสามารถแพร่กระจายได้ทั้งบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่นทำผิดประเวณี และใช้สารเสพติด ส่วนบุคคลที่ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงก็มีโอกาสได้รับเชื้อ HIV ได้เช่นกัน ดังนั้น จึงสามารถสรุปหลักการศาสนาได้ 2 ลักษณะดังนี้ - บุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง - บุคคลที่ได้รับผลกระทบ หลักคำสอนของศาสนาอิสลามสำหรับบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง
โดยแน่นอนเราได้บังเกิดมนุษย์มาในรูปแบบที่สวยงามยิ่ง  แล้วเราได้ให้เขากลับสู่สภาพที่ตกต่ำยิ่ง นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบสิ่งดีงามทั้งหลาย โดยที่สำหรับพวกเขาจะได้รับรางวัลอยางไม่มีที่สิ้นสุด ซินา  คือ การร่วมประเวณีนอกสมรส เป็นบาปใหญ่ประการหนึ่งที่อิสลามห้ามเตือนไม่ให้มุสลิมเข้าใกล้การกระทำนี้  เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่สกปรกและเลวร้ายยิ่ง  อัลลอฮได้ตรัสไว้ว่า “ และพวกเจ้าจงอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า “ (อิสเราะฮ :32) การประเวณีนอกสมรส เป็นความผิดที่รุนแรงอันดับสาม รองมาจากการตังภาคีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.)และการฆ่าลูกของตน


ลำดับที่ 4  แบ่งกลุ่มย่อยพร้อมนำเสนอ

4.1 ถ้าคนในชุมชนของเรามีผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี จะทำอย่างไร - ไม่ดูหมิ่นเหยียดหยามพวกเขาเหล่านี้ - ให้กำลังใจเขาเหล่านั้น - ให้คำปรึกในทุกๆ ด้าน - ให้ความใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ - ไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มภายในชุมชน - ไม่ให้ชุมมั่วสุมยาเสพติดชนิดที่เป็นเข็ม - ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร - ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี
- ไม่มั่วสุมกับสาวอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา - ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้ติดเชื้อ เช่น มีดโกน - ควรตรวจเลือด - มีการเล่นกีฬาต้านภัยในชุมชน 4.2 พฤติกรรมของคนในชุมชนเป็นอย่างไร -      เยาวชนบางส่วนมั่วสุมยาเสพติด - ท้องก่อนแต่ง - สำส่อนทางเพศ - แต่งงานก่อนวัยอันควร - ไม่มีความรู้เกิดเรื่องเพศ การป้องกันเอดส์ - แต่งกายล่อแหลม -      เยาชนบางส่วนขาดโอกาสทางการศึกษา 4.3 สิ่งที่เยาวชนอยากเห็นในชุมชน - ชาวบ้านมีความสามัคคี - เยาวชนมีโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง - มีการจัดกิจกรรมทางสังคมเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม - หน่วยงานสาธารณสุขเข้าถึงครัวเรือน - ทุกคนเป็นตาวิเศษ สอดส่องปัญหายาเสพติด


ลำดับที่ 5  วิทยากรสรุปประเด็นย่อยพร้อมสรุปกิจกรรมวันนี้ - เอดส์เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย แต่เราต้องไม่ประมาท - ทุกคนมีเจตนาที่ดีทีต้องการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี - ถ้าพวกเราต้องการตรวจเลือดสามารถไปใช้บริการได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งไม่เสียค่าใช้จ่าย - กิจกรรมเกมส์แลกน้ำ ให้พวกเราทราบถึงการแพร่เชื้อที่รวดเร็วถ้าไม่ป้องกัน - ครอบครัวคือสถาบันทางสังคมเล็ก ๆที่สามารถป้องกันเอดส์ได้

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ผลผลิต จำนวนเยาวชนตำบลเขาตูม เข้าร่วมโครงการ  7 หมู่บ้าน 105 คน ผลลัพธ์ เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีกับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS

ประชุมคณะทำงาน เพื่อวางแผนงาน20 กรกฎาคม 2562
20
กรกฎาคม 2562รายงานจากพื้นที่ โดย ชมรมเอดส์ตำบลเขาตูม
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง
  1. ประสานคณะทำงานเอดส์ทั้ง 7 หมู่บ้านในตำบลเขาตูม
  2. ประชุมคณะทำงาน พร้อมชี้แจ้งโครงการที่จะดำเนินการภายในปีงบประมาณ 2562
  3. กำหนด วัน เวลา และสถานที่ ที่จะจัดกิจกรรมในโครงการ ฯ
  4. ติดต่อประสานงาน หน่วยงาน วิทยากร  ที่จัดอบรม
  5. จัดกิจกรรมโครงการ ฯ ตามที่ได้วางแผนไว้  ทั้งหมด  2 ครั้ง
  6. จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน (รายงานกิจกรรม/ รายงานการเงิน ) 7.ตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน
  7. จัดส่งรายงานกับหน่วยงานสปสช.
circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ประธานโครงการได้ร่วมปรึกษากับทีมงานเอดส์ตำบลเขาตูม

ลงเยี่ยมผู้มีติดเชื้อเอชไอวีเอดส์15 พฤษภาคม 2562
15
พฤษภาคม 2562รายงานจากพื้นที่ โดย ชมรมเอดส์ตำบลเขาตูม
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

1.ลงเยี่ยมพบปะพูดคุยและให้คำปรึกษาโดยใช้หลักศาสนธรรม
2. มอบของใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือน รายละ 500 บาท 2ครั้งต่อเดือน  เป็นเงิน 6,000 บาท 3. จัดทำแฟ้มประวัติบุคคลของผู้ติดเชื้อ

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม
  1. ผู้ติดเชื้อในตำบลเขาตูมมีความกล้าจะเปิดเผยตัว พร้อมได้รับงบสนับสนุนรายเดือนจากองค์การบริหารส่วนตำบล
  2. ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดี