โครงการเหาตายสบายศีรษะ ในเขตพื้นที่ อบต.โละจูด
ชื่อโครงการ | โครงการเหาตายสบายศีรษะ ในเขตพื้นที่ อบต.โละจูด |
รหัสโครงการ | 62-50114-1-16 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.โละจูด |
วันที่อนุมัติ | 21 ธันวาคม 2561 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2561 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 12,300.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางจินตนา เลาะนะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | 5.831,101.834place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 148 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 2 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เหา หรือ Louse เป็นแมลงชนิดหนึ่งที่เป็นปรสิต (Parasite) ต้องอาศัยบนร่างกายคน หรือสัตว์ และดำรงชีวิตโดยการดูดเลือดเป็นอาหารสามารถแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่งได้โดยการอยู่ใกล้ชิดกัน อาการหลัก คือการคันส่วนปัญหาสำคัญของผู้เป็นเหาคืออาจกลายเป็นเหาทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและในประเทศด้อยพัฒนาไม่แตกต่างกันนัก โดยเหาที่ศีรษะะ พบได้ในทุกระดับตั้งแต่ฐานะยากจน กระทั่งฐานะร่ำรวย และมักพบในวัยเด็ก การเป็นเหาในเด็กนักเรียนนักว่าเป็นปัญหาสำคัญสำหรับประเทศไทย เนื่องจากอาการหลักคืออาการคันที่ศีรษะ ซึ่งเกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อการกัดของเหาที่หนังศีรษะเวลาดูดเลือด และจะคันมากในช่วงกลางคืน เพราะเหามักดูดเลือดในช่วงนี้ ทำให้เด็กมีปัญหานอนหลับไม่สนิท และอาจส่งผลต่อการเจริญเติบดตและการเรียนรู้ได้นอกจากนี้การเกาหนังศีรษะอย่างมากอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อเรื้อรังได้ และตัวเหายังเป็นพาหะนำโรคได้หลายโรค เช่น ไข้รากสาดใหญ่ชนิด Epidemic typhus โรคไข้เทรนฑ์ (Trench fever) และโรคไข้กลับ (Relapsing fever) เป็นต้น การรักษาเหาสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ยาเบนซิลเบนโซเอต 25% การใช้ยาน้ำแขวนตะกอนสีขาวขุ่นและการใช้สมุนไพรรักษา เช่น เมล็ดหรือใบน้อยหน่า ซึ่งการใช้ยาสมุนไพรเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์อีกด้วย จากการตรวจสุขภาพของของนักเรียนระดับอนุบาลและประถมศึก ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังนราธิวาส พบว่า มีเด็กเรียนเป็นเหาร้อยละ 80.25 % ซึ่งการเป็นเหาในเด็กวัยเรียนมีโอกาสหายค่อนข้างยาก และมีโอกาสติดโรคซ้ำเนื่องจากภายในโรงเรียนมีเด็กนักเรียนเป็นจำนวนมากจึงมีการติดต่อโดยง่าย โดยเแพาะอย่างยิ่งดดยการใกล้ชิดหรือใช้ของร่วมกัน ทำให้เหาเพิ่มจำนวนและจำนวนและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วได้ตลอดปี จึงได้จัดทำโครงการเหาตายสบายศีรษะในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลโละจูดโดยใช้น้ำยาสกัดจากใบน้อยหน่า เพื่อลดโรคเหาในเด็กนักเรียน และเพื่อให้เด็กนักเรียนมีความรู้ในการป้องกัน และรักษาโรคเหาเพิ่มขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดจำนวนนักเรียนที่เป็นเหา ร้อนละ 50 ของนักเรียนเป็นเหาลดลง |
1.00 | |
2 | เพื่อให้นักเรียนมีความรู้เรื่องการป้องกัน และวิธีการจัดการเหา ร้อยละ 80 ของนักเรียนมีความรู้เรื่่องการป้องกัน และวิธีการจัดการเหาที่ถูกต้อง |
1.00 |
ขั้นเตรียมการ - ประชาสัมพันธ์โครงการต่อชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียน อสม. ขั้นดำเนินการ - กิจกรรมที่ 1 การตรวจคัดกรองนักเรียนที่เป็นเหา สำรวจจำนวน และรายชื่อเด็กนักเรียนที่เป็นเหา จากรายงานการตรวจสุขภาพนักเรียน ประสานผู้นวยการโรงเรียนและครูผู้รับผิดชอบงานอนามัยโรงเรียน กิจกรรมที่2 การให้ความรู้กับนักเรียนและครูอนามัยโรงเรียน ให้ความรู้เรื่องการป้องกัน และรักษาโรคเหา แก่เด็กนักเรียนและครูอนามัยโรงเรียน กิจกรรมที่ 3 ดำเนินการกำจัดการเหาในเด็กนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยการใช้น้ำยาสกัดใบน้อยหน่าชโลมให้ทั่วศีรษะสวมหมวกทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงล้างออก กิจกรรมที่ 4เด็กนักเรียนสระผมอีกครั้งพร้อมใช้หวีเสนียดสางเอาตัวและไข่เหาออก กิจกรรมที่ 5 หลังจากดำเนินงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานอนามัยโรคงเรียนของ รพ.สต.เข้าไปติดตาม ตรวจหาเหาในเด็กนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ขั้นการติดตามและสรุป - สรุปผลการดำเนินงาน
- ลดจำนวนนักเรียนที่เป็นเหา
- นักเรียนมีความรู้เรื่องการป้องกัน และวิธีการจัดการเหา
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2562 10:48 น.