โครงการไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ทำกิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เสียงหัวเราะ ได้ขยับร่างกาย สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
![](/css/img/photography.png)
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องการจัดบ้านให้เหมาะสมกับโรคกับวัยและถูกคุณลักษณะ
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
อบรมให้ความรู้เรื่องอนามัยสิ่งแวดล้อม
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
จากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
ทำกิจกรรมนันทนาการเตรียมความพร้อม
ช่วยสร้างความผ่อนคลาย เสียงหัวเราะ ได้ขยับร่างกาย สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม
![](/css/img/photography.png)
อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค การนอน นาฬิกาชีวิต ชีวจิตสร้างสุข
จากการประเมินตนเองในเรื่องพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และอารมณ์ มีจำนวนคำถามทั้งหมด 20 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน ได้คะแนน ดังนี้
พฤติกรรมที่ปฏิบัติ ความถี่การปฏิบัติ
ประจำ ครั้งคราว ไม่เคยเลย
(จำนวนคน) (จำนวนคน) (จำนวนคน)
1. กินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) 43 0 0
2. กินอาหารหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก 30 13 0
3. กินผักมากกว่าวันละ 3 ทัพพี 30 13 0
4. กินผลไม้วันละ 2-3 ส่วน (หนึ่งส่วนเท่ากับ 6-8 คำ) 25 10 8
5. กินปลา อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ 11 31 2
6. กินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน สัปดาห์ละ 2-3 มื้อ 13 27 3
7. ดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว 10 28 5
8. กินอาหารมื้อเย็นห่างจากเวลานอนไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง 18 19 6
9. กินอาหารประเภทต้ม นึ่ง ลวก อบ 18 19 6
10. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง 40 3 0
11. หลีกเลี่ยงของหวาน และขนมที่มีแป้งและน้ำตาลมาก 37 3 3
13. เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน 43 0 0
14. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 43 0 0
15. อารมณ์ดี ไม่เครียด 40 3 0
16. นอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง 43 0 0
17. ออกกำลังสัปดาห์ละ 5 วัน 39 4 0
18. ออกกำลังวันละ 30 นาที 39 4 0
19. ขณะออกกำลังหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติและเหงื่อซึม 37 6 0
20. ทุกครั้งวัดรอบเอวได้ไม่เกินเกณฑ์อ้วนลงพุง คือ
เพศหญิงไม่เกิน 80 ซม. และเพศชายไม่เกิน 90 ซม. 12 13 18
จากตารางการประเมินตนเอง พบว่า กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกคน คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ปฏิบัติเป็นประจำรองลงมา จำนวน 40 คน คือ พฤติกรรมอารมณ์ดี ไม่เครียด และปฏิบัติเป็นประจำน้อยที่สุด จำนวน 10 คน คือ พฤติกรรมการดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นครั้งคราวมากที่สุด จำนวน 31 คน คือ พฤติกรรมการกินปลา อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ กลุ่มเป้าหมายได้ปฏิบัติเป็นครั้งคราวรองลงมา จำนวน 28 คน คือ พฤติกรรมการดื่มนมขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว และไม่มีการปฏิบัติเป็นครั้งคราวเลย คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) การเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการนอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง กลุ่มเป้าหมายไม่เคยปฏิบัติเลยมากที่สุด จำนวน 18 คน คือ ทุกครั้งวัดรอบเอวได้ไม่เกินเกณฑ์อ้วนลงพุง คือ เพศหญิงไม่เกิน 80 ซม. และเพศชายไม่เกิน 90 ซม. ไม่เคยปฏิบัติเลยรองลงมา จำนวน 8 คน คือ พฤติกรรมการกินผลไม้วันละ 2-3 ส่วน (หนึ่งส่วนเท่ากับ 6-8 คำ)และไม่มีการไม่เคยปฏิบัติเลย คือ พฤติกรรมการกินอาหารครบ 5 หมู่ (ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ นม ) กินอาหารหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก กินผักมากกว่าวันละ 3 ทัพพี หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อารมณ์ดี ไม่เครียด นอนหลับไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง ออกกำลังสัปดาห์ละ 5 วัน ออกกำลังวันละ 30 นาที และขณะออกกำลังหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติและเหงื่อซึม
อบรมให้ความรู้เรื่องการจัดการอารมณ์
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
จากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
อบรมเชิงปฏิบัติการทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น
จากการสังเกตกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 43 คน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือในการอบรมฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น โดยได้ปฏิบัติตามวิทยากรอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยค่อนข้างมาก ทำให้การทำท่างทางในบางท่าที่มีการใช้ข้อเข่า อาจจะปฏิบัติได้ไม่สวยเหมือนดังวิทยากร ซึ่งในการฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น วิทยากรได้สอนรำ 24 ท่า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็มีความรู้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็มีกลุ่มเป้าหมายบางรายที่ไม่ได้ออกไปรำไท้เกีกอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลทำท่าทางได้ไม่สวย และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ฝึกทักษะได้ถูกต้อง วิทยากรได้ฝึกสอนทักษะแต่ละท่าทางไปอย่างช้า หากกลุ่มเป้าหมายทำไม่ได้ก็จะทวนท่าซ้ำๆไปอย่างช้าๆจนกลุ่มเป้าหมายทำได้ดี ซึ่งในระหว่างฝึกทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็น ก็ได้มีการหยุดพักระหว่างทำกิจกรรม เพราะในการฝึกทักษะไท้เก๊กนี้ใช้พลังงานเยอะทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนเหนื่อยและมีเหงื่อออกจำนวนมาก แต่กลุ่มเป้าหมายก็สามารถปฏิบัติทักษะไท้เก๊กสมาธิอุบาย วิธีสู่ความสงบเย็นได้ถูกต้อง
![](/css/img/photography.png)
อบรมให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดเสี่ยง ลดโรค สาธิตเมนูสุขภาพ
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
อบรมให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร อาหารสุขภาพ
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28
อบรมให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง
จากการประเมินความรู้ก่อน-หลัง เรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ สู่พฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้อง มีจำนวนคำถามทั้งหมด 10 ข้อ พบว่ากลุ่มเป้าหมายได้คะแนน ดังนี้
ก่อนการอบรม หลังการอบรม
คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ คะแนนที่ได้ จำนวนคน คิดเป็นร้อยละ
7 21 48.84 8 14 32.56
8 12 27.91 9 17 39.53
9 6 13.95 10 12 27.91
10 4 9.30
รวม 43 100 รวม 40 100
จากตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อน-หลังการอบรม พบว่า กลุ่มเป้าหมาย ก่อนการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 9.30 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 13.95 คะแนนน้อยที่สุดที่ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 และความถี่ที่ได้มากที่สุด คือ 7 คะแนน จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 48.84 หลังการอบรม ได้คะแนนสูงสุดที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 27.91 รองลงมา 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 คะแนนน้อยที่สุดที่ 8 คะแนน จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 32.56 และความถี่ที่ได้มากที่สุดคือ 9 คะแนน จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 39.53 เมื่อนำมาเปรียบเทียบการประเมินความรู้ก่อน-หลังการอบรม กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เพิ่มขึ้นจำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 83.72 และมีความรู้เท่าเดิม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 16.28