โครงการสุขภาวะเกษตรกร ลดใช้สารเคมีทางการเกษตร
ชื่อโครงการ | โครงการสุขภาวะเกษตรกร ลดใช้สารเคมีทางการเกษตร |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มเกษตรกร |
วันที่อนุมัติ | 11 มีนาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 29 กรกฎาคม 2562 - 29 กรกฎาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 36,100.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | หมู่ที่ 4 ตำบลปิยามุมัง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.823,101.376place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 11 มี.ค. 2562 | 30 ก.ย. 2562 | 11 มี.ค. 2562 | 30 ก.ย. 2562 | 36,100.00 | |
รวมงบประมาณ | 36,100.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละพื้นที่เกษตรอินทรีย์/เกษตรปลอดภัยต่อพื้นที่เกษตรทั้งหมดในชุมชน | 90.00 | ||
2 | ร้อยละของเกษตรกรที่ตรวจพบสารเคมีตกค้างในเลือด เกินมาตรฐานความปลอดภัย | 0.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
องค์การบริหารส่วนตำบลปิยามุมัง มีพื้นที่รับผิดชอบทั้งตำบลปิยามุมัง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย มีพื้นที่ 11.17 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 7,487.50 ไร่ แบ่งเป็น ๕หมู่บ้าน จำนวนประชากร ๓,๖๙๗ คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) ประชากรส่วนใหญ่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลปิยามุมัง ประกอบอาชีพด้านการเกษตรกรรม ได้แก่ การทำนาข้าว สวนมะพร้าว สลับกับการปลูกพืชผักระยะสั้น เช่น พริก แตงโม พืชผักสวนครัว เป็นต้น นอกจากนั้นยังประกอบอาชีพรับจ้าง เลี้ยงสัตว์ ค้าขาย รับราชการ และมีบางส่วนไปทำการเกษตรในต่างจังหวัด บางส่วนไปค้าขาย และรับจ้างในต่างประเทศ ฯลฯ จากสถานการณ์ ของชุมชน พบว่า คนในชุมชนมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนไปจากในอดีตอย่างมาก เนื่องจากเป็นชุมชนที่อยู่ติดกับเขตเมืองและคนในชุมชนยุคปัจจุบันมีการประกอบอาชีพรับจ้างเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต่างจากในอดีตที่มีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาประกอบอาหารกินเอง จึงซื้ออาหารถุงมาบริโภคและซื้อผักและผลไม้ต่างๆ มาบริโภคโดยไม่ได้ปลูกไว้กินเองเหมือนเมื่อก่อน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่สูงขึ้น จึงทำให้พฤติกรรมการบริโภคของคนในชุมชนแปรเปลี่ยนไป ทำให้สภาพร่างกายได้รับสารเคมีมากเกินกำหนดซึ่งก่อให้เกิดภาวะโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมา เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดัน มะเร็งต่างๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็มักจะเป็นระยะที่ยากต่อการรักษาเยียวยา นอกจากนั้นยังพบว่าสภาพทางสังคม ก็เปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นสังคมที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีจิตใจโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรักความสามัคคีในชุมชน แต่ในปัจจุบันสภาพสังคมเปลี่ยนไปเป็นสังคมเมือง ขาดความมีน้ำใจ เกิดความแตกแยกในชุมชนแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจ เนื่องจากสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง เป็นโรคง่าย และเกิดภาวะเครียดเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้ชาวบ้านได้ทราบถึงปัญหาในด้านต่างๆ ของชุมชน และทำให้ทุกคนตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน โดยเลือกประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีที่มาจากพฤติกรรมการบริโภค และสุขภาพของคนในชุมชน โดยเลือกทำ “สุขภาวะเกษตรกร ลดใช้สารเคมีทางการเกษตร” เพื่อให้คนในชุมชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภค ลด-ละสารเคมีให้น้อยลงและหมดไปในที่สุด โดยให้คนในชุมชนหันกลับมาทำเกษตรอินทรีย์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การปลูกผักกินเอง การทำนาข้าวอินทรีย์ และการเลี้ยงสัตว์ (ปลาน้ำจืดและสัตว์ปีก) ซึ่งทุนที่มีอยู่ในชุมชนอยู่แล้วคือ โครงการฟาร์มตัวอย่าง ฯ กลุ่มองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มจิตอาสา อสม กลุ่มสภาเด็กและเยาวชน แนวทางในการจัดการปัญหานั้น ชุมชนมีแกนนำและอาสาสมัครแนะนำ ชักชวนให้คนในชุมชนได้รับทราบถึงโทษของการบริโภคอาหารที่มีสารเคมีตกค้าง และประโยชน์ของอาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายทั้งในและนอกชุมชน และที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือ คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองอย่างจริงจัง และตั้งใจเพื่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม โดยหันกลับมาใช้วิถีชีวิตแบบเกษตรอินทรีย์ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆลดการใช้สารเคมีและแทนที่ด้วยปุ๋ยอินทรีย์ จนในที่สุดการใช้สารเคมีก็จะหมดไปในอนาคตซึ่งจะทำให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านเกษตรอินทรีย์ปลูกผักปลอดสารพิษบริโภคในชุมชน 2.การแก้ไขปัญหาสารเคมีเกษตรที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ๓ เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการปฏิบัติที่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม การติดตามประเมินผลโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาพ โดยคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะองค์การบริหารส่วนตำบลปิยามุมัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปิยามุมัง ติดตามผลการทำการเกษตรปลอดสารและมีการสำรวจการประเมินโดยการสัมภาษณ์ และสอบถาม ซึ่งผลจากการทำโครงการนี้ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เพื่อเป็นตัวอย่างในการดำเนินกิจกรรมให้แก่หมู่บ้านอื่นๆต่อไป |
80.00 | |
2 | เพิ่มสัดส่วนพื้นที่เกษตรอินทรีย์ปลอดภัยต่อพื้นที่เกษตรทั้งหมดในชุมชน ร้อยละพื้นที่เกษตรอินทรีย์/เกษตรปลอดภัยต่อพื้นที่เกษตรทั้งหมดในชุมชน เพิ่มขึ้น |
90.00 | 0.00 |
3 | ลดสารเคมีตกค้างในเลือดของเกษตรกร ร้อยละของเกษตรกรที่ตรวจพบสารเคมีตกค้างในเลือด เกินมาตรฐานความปลอดภัย ลดลงเหลือ |
0.00 |
1 กิจกรรมเกิดแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์เพื่ออาหารสุขภาวะ | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรมย่อย | 0 | 0.00 | 1 | 36,100.00 | |
29 ก.ค. 62 | กิจกรรม การประเมินภาวะสุขภาพ กิจกรรมปุ๋ยอินทรีย์ ผักมีคุณภาพ ร่างกายปลอดภัย รับสมัครครัวเรือนเข้าร่วมโครงการ จัดทำทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการ | 0 | 0.00 | ✔ | 36,100.00 | |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 150 | 0.00 | 0 | 0.00 | |
29 ก.ค. 62 | กิจกรรมปุ๋ยอินทรีย์ ผักมีคุณภาพ ร่างกายปลอดภัย | 0 | 0.00 | - | ||
29 ก.ค. 62 | อบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ จัดหาวัตถุดิบสนับสนุนให้แต่ละครัวเรือนดำเนินการทำการเกษตรอินทรีย์ | 150 | 0.00 | - |
- ประชาสัมพันธ์ในชุมชน และรับสมัครกลุ่มผู้เป็นต้นแบบเกษตรอินทรีย์แต่ละครัวเรือน
- ประชุมเตรียมการอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ จัดหาวัตถุดิบสนับสนุนให้แต่ละครัวเรือนดำเนินการทำการเกษตรอินทรีย์
- และติดตามประเมินผล 4. มอบรางวัลให้แก่ครัวเรือนต้นแบบ
1.ทำให้ได้พืชผักที่มีคุณภาพ ไม่มีสารพิษตกค้าง เกิดความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค 2.ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกผักมีสุขภาพอนามัยดีขึ้น เนื่องจากไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและขจัดศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรปลอดภัยจากสารพิษเหล่านี้ด้วย 3.ลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช 4.ลดปริมาณสารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ที่ปนเปื้อนในอากาศและน้ำ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดมลพิษของสิ่งแวดล้อมได้ทางหนึ่ง ผักปลอดสารพิษ ให้ประโยชน์ตั้งแต่ผู้ปลูกเองไปจนถึงผู้บริโภค ช่วยให้สุขภาพดี ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2562 21:20 น.