กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

directions_run

โครงการดำเนินสุขภาพวิถีชุมชน ส่งเสริมสุขภาพดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2562

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการดำเนินสุขภาพวิถีชุมชน ส่งเสริมสุขภาพดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2562
รหัสโครงการ 62-L4147-2-09
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ กลุ่มหรือองค์กรประชาชน
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลบาโงยซิแน
วันที่อนุมัติ 25 มีนาคม 2562
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 เมษายน 2562 - 30 กันยายน 2562
กำหนดวันส่งรายงาน 31 ตุลาคม 2562
งบประมาณ 36,300.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางนิเด๊าะ อิแตแล
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกิจกรรมทางกาย , แผนงานโรคเรื้อรัง , แผนงานผู้สูงอายุ
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มวัยทำงาน 2071 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน :

กลุ่มผู้สูงอายุ 705 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ :

กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 574 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 ร้อยละของประชาชนทีมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
27.33
2 ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง(CVA)
16.00
3 ร้อยละประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง
52.23

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

โรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาด และเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมายจาก หากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อาจเกิดการเสียหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะที่ ตา ไต ประสาท หัวใจ และหลอดเลือด ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของครอบครัว และของรัฐเป็นอย่างมาก การให้ความรู้และสนับสนุนให้ผู้เป็นเบาหวานสามารถจัดการเบาหวานด้วยตนเองเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการดูแลรักษา และควบคุมเบาหวานที่ยั่งยืน
ผู้เป็นเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดใกล้เคียงปกติอย่างต่อเนื่อง และผู้ป่วยความดันที่ควบคุมความดันโลหิตได้อย่างต่อเนื่อง สามารถลดภาวะแทรกซ้อนจากความเสื่อมหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ดังกล่าวได้ ทีมผู้ดูแลรักษาผู้เป็นเบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลหรือความรู้ หากความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจล้มเหลว โรคไตวาย และโรคอัมพาต ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการจนกว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อนเหล่านี้ การตรวจวัดความดันสม่ำเสมอจะช่วยวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงระยะเริ่มแรก และการควบคุมความดันโลหิตให้ได้ถึงเกณฑ์ปกติตั้งแต่เริ่มวินิจฉัย จะช่วยให้ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ข้างต้นเพื่อให้ผู้เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงสามารถจัดการควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูงด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในการผลักดันการทำงานเชิงรุกในการป้องกัน ปรับเปลี่ยน หรือควบคุมโรค (Prevention program) เพราะโรคเรื้อรังก็ถือว่าเป็นโรคระบาดแต่ระบาดภายใต้เงื่อนไขหรือสภาวะทางสังคม เพราะไม่ใช่เชื้อโรค เราล้มเหลวในการควบคุมมัน จึงกลายเป็นภาระที่พวกเราต้องแบกรับอยู่ในทุกวันนี้ ไม่มีพื้นที่ไหนในประเทศไทยที่ไม่มีผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อความดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นชัดถึงความล้มเหลวของการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรค โรคเรื้อรังระบาดภายใต้เงื่อนไขและสภาวะทางสังคม เกี่ยวเนื่องกับความเป็นสังคม และโรคเรื้อรังดังกล่าวส่งผลเสียทั้งด้านร่างกาย จิตใจและเศรษฐกิจ จากผลงาน การตรวจคัดกรองสุขภาพของตำบลบาโงยซิแน ระหว่าง 01/10/2560ถึง 30/09/2561 ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานร้อยละ 91.45 พบกลุ่มปกติที่มีภาวะน้ำตาล น้อยกว่า100 mg/dl จำนวน 1,446 คน คิดเป็นร้อยละ 73.44 เสี่ยงสูงต่อเบาหวานค่าระดับน้ำตาล 100-125mg/dl จำนวน 426 คน คิดเป็นร้อยละ 21.64 แยกเป็นชาย 181 คน หญิง 245 คน สงสัยเป็นโรคค่าระดับน้ำตาล มากกว่าเท่ากับ 126 mg./dl จำนวน 97 คน คิดเป็นร้อยละ 4.93 แยกเป็นชาย 37 คน หญิง 60 คน Pre DM จำนวน 15 ราย แยกเป็น ชาย 4 คน หญิง 11 คน คิดเป็นร้อยละ 0.76 ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี มีค่า HbA1c น้อยกว่า 7% จำนวน 104 คน คิดเป็นร้อยละ 28.42 และได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 2,360 คิดเป็นร้อยละ 93.31 กลุ่มปกติ (SBPน้อยกว่า120 DBPน้อยกว่า80) จำนวน 936 คนคิดเป็นร้อยละ 55.88 เสี่ยงสูงต่อโรคความดันโลหิตสูง (SBP 120-139/DBP 80-89) จำนวน 683 คน คิดเป็นร้อยละ 40.78 สงสัยเป็นโรค (SBPมากกว่าเท่ากับ140/DBPมากกว่าเท่ากับ90) จำนวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 3.58 แยกเป็นชาย 25 คน หญิง 35 คน Pre HT จำนวน 51 คนคิดเป็นร้อยละ 7.87 แยกเป็นชาย 28 คน หญิง 23 ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ น้อยกว่า140/90 มม.ปรอท จำนวน 158 คน คิดเป็นร้อยละ 42.70 ( ข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จังหวัดยะลา )
ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา จึงตระหนัก และเล็งเห็นถึงความสำคัญ ที่ต้องแก้ปัญหาโรคเรื้อรังอย่างจริงจัง ของผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันมิให้เกิดโรค และในกลุ่มป่วยต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องให้คงไว้ด้วยระดับน้ำตาล และความดันโลหิตที่อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย แก้ไขปัญหาภายใต้สภาวะทางสังคม ให้ปัญหาโรคเรื้อรังสามารถอยู่ในระดับปกติปลอดภัย และดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ทั้งระยะสั้น และระยะยาว การทำเข็มมุ่งร่วมกันทั้งตัวผู้ป่วย บุคคลรอบข้าง และชุมชน จึงเป็นเครื่องมือหนึ่ง หรือกลไกหนึ่งที่จะนำไปสู่การนำโรคเรื้อรังให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดทำโครงการดำเนินสุขภาพวิถีชุมชน ส่งเสริมสุขภาพดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ปี 2562

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้กลุ่มป่วยและประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับความรู้ และมีการปรับมีพฤติกรรมสุขภาพในทางที่ดีขึ้นลดภาวะแทรกซ้อนลดโอกาสการเกิดโรค และระดับความรุนแรงของโรค

1.ร้อยละของผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมน้ำตาลได้เพิ่มขึ้น หรือ มากกว่า 40 เปอร์เซนต์
2.ร้อยละของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงวบคุมได้เพิ่มขึ้น หรือ มากกว่า 50 เปอร์เซนต์

0.00
2 เพื่อให้แกนนำสาธารณสุข อสม. ได้รับความรู้ มีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและเป็นบุคคลตัวอย่างด้านสุขภาพ

ร้อยละ 70 ของแกนนำสาธารณสุข อสม. มีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและเป็นบุคคลตัวอย่างด้านสุขภาพ

0.00
3 เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนในเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน

ร้อยละ 60 ได้รับการตรวจภาวะแทรกซ้อนในเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน

0.00
4 เพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับการส่งกลับบ้าน รับยาที่สถานใกล้บ้าน ได้รับติดตามเจาะเลือดโดยเจ้าหน้าที่ ที่สะดวกและทั่วถึง

ร้อยละ 95 ผู้ป่วยที่ได้รับการส่งกลับ รับยาที่สถานที่ใกล้บ้าน ได้รับการติดตามเจาะเลือดโดยเจ้าหน้าที่ ที่สะดวกและทั่วถึง

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 230 36,300.00 0 0.00
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 1. จัดประชุมคณะทำงานเพื่อชี้แจง รณรงค์ประชาสัมพันธ์ และจัดทำสื่อความรู้ 0 6,300.00 -
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 2. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ (กลุ่มเสี่ยงสูง และกลุ่มป่วย) ให้เกิดการเรียนรู้ 50 12,000.00 -
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 3. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความตระหนัก 30 6,000.00 -
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 4. ช่วยเหลือในการติดตามกลุ่มตรวจสุขภาพเจาะเลือดเส้นเลือดดำประจำปี 150 9,000.00 -
1 เม.ย. 62 - 30 ก.ย. 62 5. เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนเท้าในกลุ่มป่วยเบาหวาน 0 3,000.00 -

1.จัดประชุมคณะทำงานเพื่อชี้แจง รณรงค์ประชาสัมพันธ์ และจัดทำสื่อความรู้
จัดทำสื่อความรู้ ไวนิล ประชาสัมพันธ์
ค่าใช้จ่าย
- ค่าจัดทำสื่อความรู้ไวนิลประชาสัมพันธ์ ขนาด 1 x 3 เมตร 6 ผืนๆละ 800 บาท เป็นเงิน 4,800 บาท
- ค่าจัดทำสื่อความรู้ไวนิลพร้อมขาตั้ง 1 ชุดๆ ละ 1,500 บาท
รวม 6,300 บาท

2.จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรค ลดความรุนแรงของโรค หรือภาวะแรกซ้อนของโรค ให้แก่แกนนำสาธารณสุข อสม. กลุ่มผู้ป่วย และประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
ค่าใช้จ่าย
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 25 บาท x 50 คน x 2 มื้อเป็นเงิน 2,500 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 70 บาท x 50 คนเป็นเงิน 3,500 บาท
- ค่าวัสดุในการอบรม เป็นเงิน 3,000 บาท (เช่น ดินสอ, ปากกา, แฟ้มกระดุม, สมุด, กระดาษ A4, ค่าถ่ายเอกสารประกอบการบรรยาย เป็นต้น)
- ค่าสมนาคุณวิทยากร ชั่วโมง 600 บาท x 5 ชม. เป็นเงิน 3,000 บาท
รวม 12,000 บาท

3.จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความตระหนัก
- จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หาแนวทางการพัฒนา
- สาธิตการทำอาหารเพื่อสุขภาพ
ค่าใช้จ่าย
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 25 บาท x 30 คน x 2 มื้อ เป็นเงิน 1,500 บาท
- ค่าอาหารกลางวัน 70 บาท x 30 คน เป็นเงิน 2,100 บาท
- ค่าวัสดุในการจัดกิจกรรม เป็นเงิน 2,400 บาท
รวม 6,000 บาท

4.ช่วยเหลือในการติดตามกลุ่มตรวจสุขภาพเจาะเลือดเส้นเลือดดำประจำปี
- ให้บริการตรวจสุขภาพเจาะเลือดเส้นเลือดดำประจำปี
ค่าใช้จ่าย
- ค่าพาหนะเหมาจ่ายในการติดตามและนำกลุ่มเป้าหมายเจาะเลือดเส้นเลือดดำประเมินภาวะสุขภาพ ในกลุ่มผู้ป่วยที่ส่งกลับรับยา ที่สถานบริการใกล้บ้าน จำนวน 150 คน วันละ 2 เที่ยวๆ ละ 30 บาท เป็นเงิน 9,000 บาท
รวม 9,000 บาท

5.เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนเท้าในกลุ่มป่วยเบาหวาน
- การแช่เท้าในน้ำสมุนไพร
ค่าใช้จ่าย
- ค่าสมุนไพรแช่เท้า เป็นเงิน 3,000 บาท
รวม 3,000 บาท

รวมงบประมาณทั้งสิ้น 36,300 บาท

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. ประชาชนกลุ่มป่วยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค ลดความรุนแรงของโรค และประชาชนกลุ่มเสี่ยงลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังไม่ติดต่อโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
  2. ประชาชนกลุ่มป่วยใช้พื้นฐานชีวิตในการดูแลอาการของโรค ด้วยตนเอง โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกกลุ่ม
  3. ชุมชนโดยแกนนำสุขภาพมีส่วนร่วม เห็นความสำคัญ และสามารถเป็นบุคคลต้นแบบในการดูแลสุขภาพของชุมชน เพื่อการดูแลระยะยาว
  4. ภาวะแทรกซ้อนทางเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ลดลง หรือไม่เกิดเพิ่มขึ้น
  5. ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติของโรค
  6. เสริมพลัง และการดูแลสุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2562 14:29 น.