โครงการเยาวชนสดใส ใส่ใจสุขภาพ ไม่ท้องก่อนวัย ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ชื่อโครงการ | โครงการเยาวชนสดใส ใส่ใจสุขภาพ ไม่ท้องก่อนวัย ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ |
รหัสโครงการ | 62-L8291-1-15 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลย่านตาขาว |
วันที่อนุมัติ | 22 พฤษภาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2562 - 30 กันยายน 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 26,010.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายกานต์ อัจนารมย์วาท หัวหน้ากลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.406,99.674place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 240 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
“ด้วยสภาพสังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงการดำรงชีวิตในสังคมจากครอบครัวขยาย กลายเป็นครอบครัวเดี่ยว ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปทำให้พ่อแม่ต้องประกอบอาชีพนอกบ้านมากขึ้น ส่งผลให้สภาพครอบครัวขาดความอบอุ่น เยาวชนในครอบครัวจึงมีโอกาสขาดการดูแลและชี้แนะในสิ่งที่เหมาะสม ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยียุคโลกาภิวัฒน์ วัฒนธรรมข้ามชาติ ทำให้เยาวชนถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้ารอบข้างและสนองตอบต่อสิ่งเร้าในทางที่ผิด ซึ่งส่งผลให้เกิดพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม อันเกิดจากการขาดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและประสบการณ์ในการป้องกันและการดำเนินชีวิตในเรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้อง นำไปสู่การเกิดปัญหาในการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์หรือท้องก่อนวัยเกิดขึ้น
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เป็นประเด็นที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบถึงสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจของแม่และเด็ก การแก้ปัญหาเรื่องท้องในวัยรุ่นเป็นประเด็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่การรณรงค์โดยมุ่งไปที่ตัววัยรุ่นให้ตระหนักถึงปัญหาและให้ความสำคัญของการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์โดยปลอดภัยและรับผิดชอบ รวมถึงการเรียนการสอนในการเพิ่มทักษะชีวิตและเพศศึกษาแบบรอบด้าน เพื่อให้วัยรุ่นมีทักษะในการสื่อสาร การรู้จักปฏิเสธ เหตุการณ์ 2,002 ศพ ในปี 2553 ทำให้สังคมให้ความตื่นตัวต่อกรณีนี้อย่างมาก และเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันของสังคมในวงกว้าง จนนำไปสู่การเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายทำแท้ง อย่างไรก็ตามทางภาครัฐเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะแก้กฎหมาย ทั้งนี้เพราะกฎหมายอาญาเปิดโอกาสให้ทำแท้งได้อยู่แล้วใน 2 กรณี คือถ้าปล่อยให้อายุครรภ์มากขึ้นจะเป็นอันตรายต่อแม่ที่ตั้งครรภ์ และกรณีถูกข่มขืน รัฐเล็งเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดของปัญหานี้ก็คือทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันและมาตรการที่ดีที่สุด คือมาตรการป้องกัน เพราะการทำแท้งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่ดีที่สุดคือการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา การวางแผนครอบครัว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน จริงๆแล้ว เด็กนักเรียนควรได้เรียนเพศศึกษาอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 16 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศได้ถูกต้อง แต่ในทางปฏิบัติสามารถทำได้จริงเพียงภาคเรียนละ 3-7 ชั่วโมงเท่านั้น เพศศึกษายังไม่มีการบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนให้ครอบคลุมสถานศึกษาทั้งหมดและครบถ้วนตามจำนวนชั่วโมงต่อปีการศึกษา ดังนั้น จำเป็นต้องทำให้ครูและผู้บริหารเห็นความสำคัญว่าการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา 16 ชั่วโมง/ปีการศึกษานั้นได้ประโยชน์
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและการติดเชื้อ HIV เป็นปัญหาที่พบบ่อยในสังคมไทยปัจจุบัน เนื่องจากพฤติกรรมการเลียนแบบต่างๆที่ไม่เหมาะสม มาเป็นค่านิยมในวัยรุ่น โดยการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือมีความสำคัญแบบชายรักชาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา เช่น ปัญหาการตั้งครรภ์ในระหว่างเรียน การทำแท้ง การทะเลาะวิวาท ตลอดจนคิดสั้นทำร้ายตนเอง เป็นต้น ดังนั้น วัยรุ่นเป็นวัยที่อาจถูกชักจูงได้ง่าย ขาดความนับถือตนเอง รวมถึงขาดทักษะชีวิต ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงในด้านต่างๆ เช่น ขับรถประมาท ยกพวกตีกัน ดื่มสุรา และใช้ยาเสพติด มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ระวัง ส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น กิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น จึงมุ่งเน้นที่จะสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง บทบาททางเพศที่แตกต่างกันระหว่างหญิงชาย เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้อย่างสมดุล นำไปสู่ประโยชน์สูงสุดแก่วัยรุ่นและเยาวชนของชาติที่จะเติบโตเป็นอนาตของประเทศชาติต่อไป
ดังนั้น กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลย่านตาขาว จึงเล็งเห็นความสำคัญของวัยรุ่น จึงได้จัดโครงการเยาวชนสดใส ใส่ใจสุขภาพ ไม่ท้องก่อนวัย ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อสร้างความตระหนักและมีความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้อง ง่ายแก่การเข้าใจสำหรับวัยรุ่น นอกจากนี้เพื่อพัฒนาเครือข่ายการป้องกันและลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นในสถานศึกษาในรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | - เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาและพัฒนาการองตนเองเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
|
0.00 | |
2 | - เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้และทักษะในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ
|
0.00 | |
3 | -เพื่อสร้างเครือข่ายและแกนนำในโรงเรียนสามารถสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับเพื่อนๆในโรงเรียนได้ เครือข่าย แกนนำในโรงเรียนสามารถสื่อสารให้ความรู้ ขยายผลไปยังเพื่อนในโรงเรียนได้ ร้อยละ 80 |
0.00 | |
4 | - เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการเห็นคุณค่าในตนเองและสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 240 | 26,010.00 | 1 | 26,010.00 | |
16 - 19 ส.ค. 62 | รณรงค์/ประชาสัมพันธ์/ฝึกอบรม/ให้ความรู้ | 240 | 26,010.00 | ✔ | 26,010.00 |
- ระยะก่อนดำเนินการ
1.1 เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติการดำเนินการ
1.2 เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติการจัดทำโครงการ
1.3 ประชาสัมพันธ์โครงการ
1.4 จัดเตรียมสื่อ /วัสดุอุปกรณ์
- ระยะดำเนินการ
2.1 นักเรียนลงทะเบียนการเข้าร่วมโครงการ
2.2 ดำเนินกิจกรรม ดังนี้
- กิจกรรมสันทนาการ / ละลายพฤติกรรม
- ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา
- ให้ความรู้ทักษะการป้องกันตนเอง / ทักษะการปฏิเสธ ไม่ท้องก่อนวัย - การพัฒนาเยาวชนเชิงบวก
- ให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ / การป้องกันตนเอง
- แนะนำ / ประชาสัมพันธ์ คลินิกวัยรุ่นโรงพยาบาลย่านตาขาว - เลือกแกนนำวัยรุ่นเพื่อพัฒนาเครือข่ายการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นในโรงเรียน - ระยะประเมินผล 3.1 นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้ มีทักษะ และทราบช่องทางการเข้าถึงของวัยรุ่นมากขึ้น 3.2 มีนักเรียนแกนนำวัยรุ่นเกิดขึ้นในโรงเรียน
- เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเพศศึกษาและพัฒนาการของวัยรุ่น
- เยาวชนมีความรู้และทักษะในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องและลดพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
- เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้คุณค่าของตนเอง
- มีเครือข่ายและแกนนำเกิดขึ้นในโรงเรียน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 13:53 น.