โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | 63-L1523-1-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาเพดาน |
วันที่อนุมัติ | 1 ตุลาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 มกราคม 2564 |
งบประมาณ | 21,850.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอิษยา ศรีชูชาติ |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางอาทิตยา ชูบุญส่ง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.559,99.465place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ต.ค. 2562 | 30 ก.ย. 2563 | 21,850.00 | |||
รวมงบประมาณ | 21,850.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและมีการแข่งขันสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัว นิยมวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น จึงทำให้วิถีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเร่งรีบกับการทำงานบริโภคอาหารโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ขาดการออกกำลังกาย เครียด ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขเป็นกลุ่มโรคที่มีปัจจัยสาเหตุการนำไปสู่โรคจากปัจจัยเสี่ยงร่วม และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งโรคนี้สามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการและมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมในกลุ่มประชากรทีมีภาวะเสี่ยงสูงถ้าไม่ได้รับการดูแลหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสมอาจพัฒนาเป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงได้ในอนาคตอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทำให้เป็นภาระต่อเศรษฐกิจ สังคม และครอบครัวที่ต้องทำหน้าที่ดูแลส่วนปัจจัยด้านอื่นๆที่อาจมีความเกี่ยวเนื่องกันได้ก็คือพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมซึ่งพบว่าคนที่มีบิดา มารดามีภาวะความดันโลหิตสูงก็มักจะมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนที่บิดา มารดามีภาวะความดันโลหิตปกติส่วนในเรื่องปัจจัยแวดล้อมเช่น มีน้ำหนักตัวมาก สูบบุหรี่จัด ดื่มสุราจัด มีระดับไขมันในเลือดสูงและมีความเครียดก็มีผลทำให้ภาวะความดันโลหิตสูงเช่นกัน เนื่องจากโรคเบาหวานเป็นอีกหนึ่งโรคเรื้อรังอันตรายที่มักพบร่วมกันกับโรคความดันโลหิตสูงและมักจะค่อยสูงขึ้นและร่างกายก็ค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับภาวะความดันโลหิตที่สูงขึ้นส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการใดๆดังนั้นผู้ป่วยจึงไม่ค่อยทราบหากไม่ได้รับการตรวจวัดความดันโลหิตหรือตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ยกเว้นในรายที่มีอาการสูงมากอาจมีอาการปวดตึงท้ายทอยหรือปวดศีรษะรุนแรงหรือบางรายภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้ตัวดังนั้นโอกาสจะเกิดโรคแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้ และส่งผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อหัวใจ ไต ตา และสมองและเป็นสาเหตุการเสียชีวิต จากการตรวจคัดกรองโรคในประชากรอายุ35 ปีขึ้นไป ในเขตพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเขาเพดาน ในปีงบประมาณ 256๒จำนวน 977 ราย สามารถคัดกรองโรคเบาหวานครอบคลุมคิดเป็นร้อยละ 95.15 ของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปตามลำดับและคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงได้ครอบคลุมคิดเป็นร้อยละ 97.12ของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป ตามลำดับ พบกลุ่มเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงที่มีค่าระดับความดันโลหิต 100 mg/dl จำนวน 40 คนของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วยความตระหนักถึงปัญหาและภัยของภาวะความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน จากความสำคัญดังกล่าวข้างต้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเขาเพดาน จึงมุ่งหวังเพิ่มประสิทธิภาพความครอบคลุมการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงจึงได้เล็งเห็นผู้ที่ได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มีค่าผลเลือดและค่าระดับความดันโลหิตเกินเกณฑ์เพื่อได้มีการเข้ารับการรักษารายโรค จึงได้จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเลือกรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันได้ 2.เพื่อลดกลุ่มเสี่ยงไม่ให้เกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ 3.เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมที่เหมาะสมในการป้องกันโรคโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อนได้
|
1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 200 | 21,850.00 | 0 | 0.00 | |
1 ม.ค. 63 - 26 พ.ย. 63 | จัดอบรมให้ความรู้การป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ระยะการติดตามผลและกิจกรรมเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง | 100 | 19,350.00 | - | ||
1 ม.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | จัดประชุมเสวนา ถอดบทเรียนร่วมกัน “การดูแลสุขภาพห่างไกลโรค”และหาบุคคลต้นแบบ การลดเสี่ยง ลดโรค | 100 | 2,500.00 | - |
1.รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ผลจากการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อค้นหาและรวบรวมรายชื่อกลุ่มเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง เข้ารับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไม่ให้เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 2.จัดทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 3.แต่งตั้งและประชุมคณะทำงานโครงการเพื่อหาแนวทางการดำเนินงานโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 4.ประชาสัมพันธ์โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงและเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ 5.เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ สื่อ และสถานที่ 6.ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ
1.กลุ่มเสี่ยงมีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเลือกรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันได้
2.กลุ่มเสี่ยงไม่เกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่
3.เกิดบุคคลต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้วยหลัก3อ(อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย)
4.ระดับความดันโลหิตของกลุ่มเป้าหมายลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติจากการติดตามหลังเข้าร่วมโครงการ
5.ระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเป้าหมายลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติจากการติดตามหลังเข้าร่วมโครงการ
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2562 16:15 น.