โครงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย “ยิ้มสดใส คนนาเมืองเพชรฟันดี” ประจำปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย “ยิ้มสดใส คนนาเมืองเพชรฟันดี” ประจำปี 2563 |
รหัสโครงการ | 63-L1523-1-09 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเมืองเพชร |
วันที่อนุมัติ | 31 ตุลาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤศจิกายน 2562 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 ตุลาคม 2563 |
งบประมาณ | 67,614.60 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาว จิราพัชร กิตติเวชวรกุล |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางสุณี จำนงค์ |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลนาเมืองเพชร อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.559,99.465place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 พ.ย. 2562 | 30 ก.ย. 2563 | 67,614.60 | |||
รวมงบประมาณ | 67,614.60 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 225 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 500 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : ระบุ |
||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 350 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : ระบุ |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาด้านทันตสุขภาพเป็นปัญหาสำคัญในทุกกลุ่มอายุ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ที่จะต้องได้รับการดูแลและให้คำแนะนำตั้งแต่แรก เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์สามารถดูแลตัวเองได้ เด็กก่อนวัยเรียน ในกลุ่มนี้จะมีการผุอย่างรวดเร็ว และเป็นกลุ่มที่เริ่มเข้าโรงเรียน ทำให้การรักษาและการดูแลเป็นไปได้ยาก เด็กวัยเรียน เป็นช่วงที่มีฟันชุดผสมคือ มีฟันแท้และฟันน้ำนม ในช่วงกลุ่มนี้จะแยกฟันแท้และฟันน้ำนมไม่ได้ ทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก และกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นช่วงอายุสำคัญ เนื่องจากประชากรในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังสะท้อนภาพรวมที่เกิดจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากตลอดชีวิต จากผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศครั้งที่ ๘ ในปี ๒๕๖๐ พบว่าเด็กก่อนวัยเรียนมีฟันผุระยะเริ่มต้น ร้อยละ 31.1 โดยผู้ปกครองของเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 44.1 ปล่อยให้เด็กแปรงฟันด้วยตนเอง และเมื่อเด็กโตขึ้นพบว่าในกลุ่มอายุ 5 ปี เด็กถูกปล่อยให้แปรงฟันเอง ถึงร้อยละ 80.4 เด็กวัยเรียน พบว่าความชุกของโรคฟันผุ ร้อยละ 52.0 โดย มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 1.4 ซี่/คน มีสภาวะเหงือกอักเสบสูงกว่าการสำรวจในครั้งที่ 7 พ.ศ. 2555 จากร้อยละ 50.3 เป็นร้อยละ 66.3 ปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อสภาวะเหงือกอักเสบคือพฤติกรรมการแปรงฟัน พฤติกรรมการบริโภคที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ และกลุ่มผู้สูงอายุ พบว่าผู้สูงอายุ 60-74 ปี ร้อยละ 56.1 มีฟันถาวรใช้งาน ได้อย่างน้อย 20 ซี่ เฉลี่ย 18.6 ซี่/คน ร้อยละ 40.2 มีฟันหลังสบกันอย่างน้อย 4 คู่สบ และลดลง ในผู้สูงอายุตอนปลายอายุ 80-85 ปี มีเพียงร้อยละ 22.4 ที่มีฟันถาวรใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ เฉลี่ย 10 ซี่/คน และมีฟันหลังสบกัน 4 คู่สบ เพียงร้อยละ 12.1 ทำให้ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวลดลงชัดเจน ซึ่งปัญหาสำคัญ ได้แก่ การสูญเสียฟัน โดยเฉพาะการสูญเสียฟันทั้งปากในผู้สูงอายุ 60-74 ปี พบร้อยละ 8.7 แต่เมื่ออายุ 80-85 ปี เพิ่มสูงถึงร้อยละ 31.0 ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตด้านการบดเคี้ยวอย่างมาก
จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของจังหวัดตรัง พบว่าจังหวัดตรัง เด็กก่อนวันเรียนอายุ 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558-2560 ปราศจากฟันผุร้อยละ 51.2, 52.26, และ 55.6 ตามลำดับ เด็กอายุ 12 ปี มีประสบการณ์โรคฟันผุตั้งแต่ปี พ.ศ.2557-2559 ร้อยละ 47.8, 39.00 และ 40.6 ตามลำดับ และผู้สูงอายุ พบว่ามีฟันแท้ในช่องปากใช้งานได้ 20 ซี่ เฉลี่ยร้อยละ 43.9 ผู้สูงอายุที่มีฟันคู่สบฟันหลังใช้งานได้ 4 คู่ขึ้นไปร้อยละ 50.6 และผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พบว่ากลุ่มเด็กก่อนวัยเรียนอายุ 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558-2560 ปราศจากฟันผุร้อยละ48.5, 50.93 และ 53.9 ตามลำดับ เด็กอายุ 12 ปี มีประสบการณ์โรคฟันผุตั้งแต่ปี พ.ศ.2557-2559 ร้อยละ 44.8, 39.79 และ 43.3ตามลำดับ และผู้สูงอายุมีฟันแท้ในช่องปากใช้งานได้ 20 ซี่ เฉลี่ยร้อยละ 38 ผู้สูงอายุที่มีฟันคู่สบฟันหลังใช้งานได้ 4 คู่ขึ้นไปร้อยละ 56
ดังนั้นทางกลุ่มงานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเมืองเพชรและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเขาเพดาน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาโรคฟันผุในหญิงตั้งครรภ์
เด็กก่อนวัยเรียน เด็กประถมศึกษา และผู้สูงอายุ จำเป็นต้องได้รับการส่งเสริม ป้องกัน และเฝ้าระวังทางทันตสุขภาพ เพื่อลดอัตราการเกิดโรคฟันผุต่อไปในอนาคต จึงได้จัดโครงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย
“ยิ้มสดใส คนนาเมืองเพชรฟันดี” ประจำปี 2563 เพื่อให้ประชาชนในตำบลนาเมือเพชรมีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง มีสุขภาพช่องปากที่ดี และยังลดปัญหาฟันผุ ซึ่งจะส่งผลดีทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อส่งเสริม ป้องกัน รักษาการเกิดโรคฟันผุในทุกกลุ่มวัย 2.เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากในทุกกลุ่มวัย (1) ร้อยละ 100 หญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น |
1.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 1105 | 67,614.60 | 0 | 0.00 | |
1 พ.ย. 62 - 30 ก.ย. 63 | อบรมให้ความรู้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ | 30 | 2,730.00 | - | ||
1 พ.ย. 62 - 30 ก.ย. 63 | อบรมให้ความรู้เด็กเล็ก ก่อนวัยเรียน แรกเกิด - 2 ปี | 225 | 6,340.00 | - | ||
1 พ.ย. 62 - 30 ก.ย. 63 | อบรมให้ความรู้เด็กปฐมวัย 3-5 ปี | 250 | 12,655.00 | - | ||
1 พ.ย. 62 - 30 ก.ย. 63 | อบรมให้ความรู้เด็กวัยเรียน | 250 | 37,919.60 | - | ||
1 พ.ย. 62 - 30 ก.ย. 63 | อบรมให้ความรู้ผู้สูงอายุ | 350 | 7,970.00 | - |
3.1. ขั้นตอนวางแผนงาน - ประชุมวางแผนร่วมกับคณะทำงาน 3.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน - สำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย - ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน - จัดซื้อพัสดุทางทันตกรรม สื่อที่ใช้ในการให้ความรู้ทันตสุขศึกษา อุปกรณ์การดูแลส่งเสริมสุขภาพช่องปากในทุกกลุ่มวัย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน - จัดทำแบบสำรวจสภาวะช่องปาก หรือแบบตรวจสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย 3.3 ดำเนินการให้บริการทางทันตกรรม 3.3.1 ส่งเสริม ป้องกัน รักษาทางทันตกรรมตามความจำเป็นของทุกกลุ่มวัย - หญิงตั้งครรภ์ : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน แจกสิ่งจูงใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก (แปรงสีฟัน ยาสีฟัน) นัดรับบริการทางทันต กรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน) - เด็กเล็กก่อนวัยเรียน : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิช ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน ฝึกทักษะการแปรงฟันให้กับผู้ดูแล แจกสิ่งจูงใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก (นิ้วยางซิลิโคน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน) นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน) - เด็กปฐมวัย : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิช ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน ฝึกทักษะการแปรงฟันให้กับผู้ดูแล แจกสิ่งจูงใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก (แปรงสีฟัน ยาสีฟัน) นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน) อุดฟันอย่างง่ายด้วยวิธี SMART Techinqe - เด็กวัยเรียน : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิช ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน แจกสิ่งจูงใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก (แปรงสีฟัน ยาสีฟัน) นัดเด็กที่มีฟันกรามแท้ซี่ที่ 1,2 มาเคลือบหลุมร่องฟัน นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน) - ผู้สุงอายุ : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิช ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน แจกสิ่งจูงใจในการดูแลสุขภาพช่องปาก (แปรงสีฟัน ยาสีฟัน) นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน) 3.3.2 สรุปผลการป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก และการรักษาทางทันตกรรม
1 กลุ่มหญิงตั้งครรภ์
1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
2. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
3. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์สามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
2 เด็กก่อนวัยเรียน แรกเกิด - 2 ปี
1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
2. เด็กก่อนวัยเรียน แรกเกิด - 2 ปี รายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
3. เด็กก่อนวัยเรียน แรกเกิด - 2 ปี สามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
3 เด็กก่อนวัยเรียน 3-5 ปี
1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
2. เด็กก่อนวัยเรียน 3-5 ปี รายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
3. เด็กก่อนวัยเรียน 3-5 ปี สามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
4 เด็กวัยเรียน
1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
2. เด็กวัยเรียนรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
3. เด็กวัยเรียนสามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
5 ผู้สูงอายุ
1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
2. ผู้สูงอายุจำนวนรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
3. ผู้สูงอายุจำนวนสามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 09:13 น.