โครงการป้องกันและควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันและควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน |
รหัสโครงการ | 60-L7885-1-93 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองนราธิวาส |
วันที่อนุมัติ | 21 เมษายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 74,660.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | คุณระเบียบ ชอบเอียด |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 700 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 350 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ภาวะโรคขาดสารไอโอดีนในประเทศไทยนั้น ยังเป็นปัญหาที่เรื้อรังมาตลอดและความครอบคลุมเกลือไอโอดีนที่ได้มาตรฐานระดับครัวเรือนถึงแม้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกยังอยู่ระดับที่ไม่น่าไว้วางใจ จึงยังต้องเพิ่มยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานและต้องมีการทำอย่างต่อเนื่องให้ประชากรในพื้นที่ได้รับสารไอโอดีนเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โรคขาดสารไอโอดีนเป็นปัญหาสาธารณสุขทางด้านโภชนาการที่สำคัญ เป็นต้นเหตุที่พบมากที่สุดของภาวะปัญญาอ่อนซึ่งป้องกันได้พบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่จะมีผลร้ายแรงชัดเจนในทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนอายุ๒-๓ ปี โดยมี ผลลดความเฉลียวฉลาด หรือไอคิวของเด็กได้ถึง ๑๐-๑๕ จุด ซึ่งจะมีผลกระทบ ต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเด็กที่เกิดจากแม่ที่ขาดสารไอโอดีนมีโอกาสที่จะเป็นปัญญาอ่อน เป็นใบ้ ช่วยตัวเองไม่ได้ กลายเป็นเด็กเอ๋อ ส่วนในเด็กวัยเรียนที่ขาดสารไอโอดีน จะส่งผลให้เรียนรู้ช้า เฉื่อยชา เป็นคอพอก เพราะสารไอโอดีนมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาสมองทารกที่อยู่ในครรภ์ ต้องการสารไอโอดีนจากมารดาในการเพิ่มจำนวนและขนาดเซลล์สมอง และช่วยสร้างโครงข่ายใยประสาทที่ต่อเชื่อมถึงกัน สร้างปลอกหุ้มเซลล์ใยประสาทอย่างต่อเนื่อง ส่วนในวัยผู้ใหญ่ หากขาดสารไอโอดีนจะทำให้กลายเป็นคนเซื่องซึม เฉื่อยชา ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นอกจากนี้ยังมีการสำรวจการครอบคลุมกระจายเกลือเสริมไอโอดีนระดับครัวเรือน พบการครอบคลุมกระจายเกลือเสริมไอโอดีนในระดับครัวเรือนเพียงร้อยละ ๘๐ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ร้อยละ ๙๐
เนื่องจากภาวะโรคขาดสารไอโอดีนเป็นปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพและระดับสติปัญญาของเด็กในอนาคต จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการแก้ไขและเพื่อเถิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเนื่องในวโรกาสที่ทรงพระชนมายุครบ๖๐ พรรษาดังนั้นเทศบาลเมืองนราธิวาสจึงได้จัดทำโครงการป้องกันและควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนอันจะส่งผลให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีสุขภาพที่ดีปลอดภัยจากโรค และบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1. เพื่อให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรคขาดสารไอโอดีนและสามารถรู้จักวิธีปฏิบัติตนและป้องกันเพื่อให้เสี่ยงต่อการขาดสารไอโอดีนน้อยที่สุด
|
||
2 | 2. ลดอัตราการเกิดภาวะขาดสารไอโอดีน
|
วิธีดำเนินการ ๑. จัดทำแผนงาน/โครงการ ๒. นำเสนอโครงการเพื่อพิจารณาขอรับการอนุมัติ ๓. ประชุมชี้แจง และเตรียมความพร้อมทีมงานในการดำเนินการ ๔. จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน และควบคุมโรคขาดไอโอดีนในโรงเรียน 16 โรง ชุมชน 35 ชุมชน และเทศบาลเมืองนราธิวาส ๕. ประเมินผลโครงการ/สรุปและรายงาน
๑. ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับโรคขาดสารไอโอดีนพร้อมวิธีป้องกันตนเองได้ถูกต้องร้อยละ 90 ๒. ประชาชนมีและใช้เกลือเสริมไอโอดีนร้อยละ 100
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2560 14:20 น.