โครงการขยับกาย สบายชีวี เพื่อสุขภาพที่ดี ด้วยโยคะ รุ่นที่ 2 ประจำปี2563
ชื่อโครงการ | โครงการขยับกาย สบายชีวี เพื่อสุขภาพที่ดี ด้วยโยคะ รุ่นที่ 2 ประจำปี2563 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมคนรักษ์สุขภาพ เทศบาลตำบลพะตง |
วันที่อนุมัติ | 21 พฤศจิกายน 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 30,821.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | 1.นางกษิณา ศรประสิทธิ์ 2.นางทรัพย์ อินทะวงษ์ 3.นางเตือนใจ เพ็ชรเสน 4.นางสมคิด ศรีทวี 5.นางดาเรศ โพธิ์ทอง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.837,100.558place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ม.ค. 2563 | 30 ก.ย. 2563 | 30,821.00 | |||
รวมงบประมาณ | 30,821.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเร่งแก้ไขปัญหาการป่วยและเสียชีวิตของคนไทยจาก ๕ โรคสำคัญที่เรียกว่า โรคไม่ติดต่อ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคมะเร็ง แม้ว่าประเทศไทยจะมีระบบประกันสุขภาพที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกก็ตาม แต่ที่ผ่านมาจะรองรับการดูแลรักษาการเจ็บป่วยเป็นส่วนใหญ่ จากสถิติในปี ๒๕๕๓ ทั้ง ๕ โรคมีผู้ป่วยเข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาล ๒ ล้านกว่าราย เสียชีวิตรวม ๑ แสนกว่าราย หรือคิดเป็นร้อยละ ๒๕ ของผู้เสียชีวิตทุกสาเหตุทั่ว ประเทศที่มีประมาณ ๔ แสนราย สาเหตุการป่วยเกี่ยวข้องกับ ๒ ปัจจัย คือการขาดการออกกำลังกาย และเรื่องการ บริโภคอาหาร ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะเน้นหนักให้ทุกจังหวัดเร่งแก้ไขและป้องกันการเจ็บป่วย ด้วย ๒ กิจกรรมหลัก สอดรับกับการบริหารหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ประชาชน มีสุขภาพแข็งแรง ประการ แรกคือการกระตุ้นให้คนไทยออกกำลังกายให้มากขึ้น โดยผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในคนไทยอายุ ตั้งแต่ ๑๑ ปี ขึ้นไปที่มี ๕๗.๗ ล้านคน ในปี ๒๕๕๔ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบประชาชน ๔๒.๖ ล้านคนไม่ออกกำลังกาย มีผู้เล่นกีฬา หรือออกกำลังกายเพียง ๑๕.๑ ล้านคน หรือประมาณ ๑ ใน ๔ ของประชาชนทั้งหมด และ รอบ ๑ เดือนก่อนสำรวจ จำนวน ๑๗.๑ ล้านคน เป็นผู้ที่ไม่ได้เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมากถึงร้อยละ ๗๓ ขณะเดียวกันในผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มี ๓.๒ ล้านคน พบว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมากถึงร้อยละ ๗๖ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างชัดเจนว่า การไม่ออกกำลังกายทำให้มีโอกาสป่วยมากกว่าผู้ออกำลังกายถึง ๓ เท่า กรมอนามัย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างสุขภาพให้แก่ประชาชนตามนโยบายและแนวทางการ ดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวข้างต้น และส่งเสริมให้กลุ่มวัยทำงาน ซึ่งเป็นวัยที่มักมีข้ออ้างว่าไม่มี เวลาว่าง ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วการออกกำลังกายในวัยนี้นับว่ามีความจำเป็นมาก หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้รับการรักษาและฟื้นฟูในส่วนที่สึกหรอไปจากการทำงาน และขณะปฏิบัติงานจะต้องออกแรงซ้ำๆ กับกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทำให้มีอาการปวดเมื่อยบริเวณที่ใช้งาน กล้ามเนื้อจะล้าและลดประสิทธิภาพลงเรื่อย ๆ และถ้าเกิน ๓ ชั่วโมงติดต่อกัน ข้อต่อ กระดูกและเส้นเอ็นจะเกิดการยึดติดส่งผลให้มีแคลเซียมยึดเกาะในข้อต่อ ดังนั้น หากอยู่ในท่าเดียวนาน ๆ จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ เช่น บริเวณขมับ คอ ไหล่ หลัง ศอก ข้อมือ ข้อนิ้ว สะโพก เอว น่อง ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็นต้น มีผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง การออกกำลังกายสำหรับวัย ทำงานสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมตามเวลาและสถานที่ อาทิ การฝึกกายบริหารแบบง่ายๆ เช่น การยก แขนขึ้นลง การบิดลำตัว โยคะ เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันโยคะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โยคะ คือ ศาสตร์ในการดูแลจิตให้ปกติในร่างกายที่สมบูรณ์ ปัจจุบันมีการนำโยคะไปบำบัดบรรเทาโรค โยคะบำบัดได้ขยายขอบเขตไปยังการป้องกัน การสร้างเสริม การรักษาและการฟื้นฟู ซึ่งพบว่า โยคะมี ประสิทธิภาพสูงมากในการรักษาโรคเรื้อรังบางโรค
จากการที่ชมรมคนรักษ์สุขภาพ ได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง โยคะเพื่อสุขภาพ รุ่นที่ 1 พบว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และเกิดประโยชน์ต่อการมีสุขภาพกายและจิตที่ดี ก่อให้เกิดความแข็งแรง มุ่งมั่น อดทน บรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ชมรมคนรักษ์สุขภาพ เทศบาลตำบลพะตงจึงได้จัดทำโครงการขยับกายสบายชีวี ด้วยโยคะ รุ่นที่ 2 ประจำปี 2563 ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติโยคะได้ ผู้เข้าร่วมโครงการสามารปฏิบัติโยคะได้ร้อยละ80 |
0.00 | |
2 | เพื่อให้ประชาชนสามารถฝึกปฏิบัติโยคะ โยคะปราณยามะ โยคะอาสนะ โยคะเพื่อบำบัดโรค ได้อย่างถูกต้อง ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกปฏิบัติโยคะถูกต้อง ร้อยละ 80 |
0.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
17 ธ.ค. 62 | 0 | 0.00 | - | |||
1 ม.ค. 63 | อบรมความรู้ทฤษฎีเกี่ยวกับโยคะ | 31 | 7,221.00 | - | ||
1 ก.พ. 63 - 31 ส.ค. 63 | กิจกรรมภาคปฏิบัติ | 30 | 23,400.00 | - | ||
31 ส.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | สรุปผลการดำเนินงาน | 0 | 200.00 | - | ||
รวม | 61 | 30,821.00 | 0 | 0.00 |
1.จัดประชุมคณะกรรมการชมรมคนรักษ์สุขภาพเพื่อ ชี้แจง กำหนดแนวทางการดำเนินงานตามโครงการ รุ่นที่2
2.เขียนโครงการเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลตำบลพะตง
3.จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายด้วยโยคะที่ถูกวิธี
4.จัดเตรียมอุปกรณ์และสถานที่ในการจัดอบรม
5.ดำเนินการตามโครงการขยับกาย สบายชีวี ด้วยโยคะ
5.1 บรรยายความรู้ จำนวน 1 วัน
- บรรยายความรู้เรื่อง ทฤษฎีโยคะ ร่างกายและอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการฝึกโยคะ 1.5 ชม.
- บรรยายและฝึกปฏิบัติเรื่อง โยคะปราณยามะ 1.5 ชม.
- บรรยายและฝึกปฏิบัติเรื่อง โยคะอาสนะ 14 ท่าพื้นฐาน และการปรับวิธีดูแลสุขภาพแบบโยคะ 1.5 ชม.
- บรรยายและฝึกปฏิบัติเรื่อง โยคะเพื่อบำบัดโรค 1.5 ชม.
5.2 ออกกำลังกายด้วยโยคะ ครั้งละ 1 ชม. ในวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี
5.3 คัดกรองภาวะสุขภาพวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนักทุกสัปดาห์
6. สรุปผลการดำเนินโครงการ
- มีความรู้ความเข้าใจการพัฒนาเกี่ยวกับการบริหารกายแบบโยคะได้และดูแลตนองได้อย่างถูกวิธี
- สามารถฝึกปฏิบัติโยคะ โยคะปราณยามะ โยคะอาสนะ โยคะเพื่อบำบัดโรค
- มีสุขภาวะที่ดีทั้งกาย จิต จิตวิญญาณและสังคม
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2562 14:45 น.