โครงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย ประจำปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย ประจำปี 2563 |
รหัสโครงการ | 63-L1521-1-20 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกะลาเส |
วันที่อนุมัติ | 19 ธันวาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ธันวาคม 2562 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 16 ตุลาคม 2563 |
งบประมาณ | 57,737.70 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | เงินบำรุงกองทุนหมุนเวียนบัตรประกันสุขกาพ สอ.ต.กะลาเส โดย นางเพ็ญศรี บัวขำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกะลาเส |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.744,99.326place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ธ.ค. 2562 | 30 ก.ย. 2563 | 57,737.70 | |||
รวมงบประมาณ | 57,737.70 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 350 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 400 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
หลักการและเหตุผล ปัญหาด้านทันตสุขภาพเป็นปัญหาสำคัญในทุกกลุ่มอายุ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ที่จะต้องได้รับการดูแลและให้คำแนะนำ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์สามารถดูแลตัวเองได้ เด็กก่อนวัยเรียน ในกลุ่มนี้จะมีการผุอย่างรวดเร็ว และเป็นกลุ่มที่เริ่มเข้าโรงเรียน ทำให้การรักษาและการดูแลเป็นไปได้ยาก เด็กวัยเรียน เป็นช่วงที่มีฟันชุดผสมคือ มีฟันแท้และฟันน้ำนม ในช่วงกลุ่มนี้จะแยกฟันแท้และฟันน้ำนมไม่ได้ ทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก และกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นช่วงอายุสำคัญ เนื่องจากประชากรในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังสะท้อนภาพรวมที่เกิดจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากตลอดชีวิต จากผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศครั้งที่ ๘ ในปี ๒๕๖๐ พบว่าเด็กก่อนวัยเรียนมีฟันผุระยะเริ่มต้น ร้อยละ ๓๑.๑ โดยผู้ปกครองของเด็กอายุ ๓ ปี ร้อยละ ๔๔.๑ ปล่อยให้เด็กแปรงฟันด้วยตนเอง และเมื่อเด็กโตขึ้นพบว่าในกลุ่มอายุ ๕ ปี เด็กถูกปล่อยให้แปรงฟันเอง ถึงร้อยละ ๘๐.๔ เด็กวัยเรียน พบว่าความชุกของโรคฟันผุ ร้อยละ ๕๒.๐ โดย มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด ๑.๔ ซี่/คน มีสภาวะเหงือกอักเสบสูงกว่าการสำรวจในครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๕๕ จากร้อยละ ๕๐.๓ เป็นร้อยละ ๖๖.๓ ปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อสภาวะเหงือกอักเสบคือพฤติกรรมการแปรงฟัน พฤติกรรมการบริโภคที่เสี่ยงต่อการเกิด โรคฟันผุ และกลุ่มผู้สูงอายุ พบว่าผู้สูงอายุ ๖๐-๗๔ ปี ร้อยละ ๕๖.๑ มีฟันถาวรใช้งาน ได้อย่างน้อย ๒๐ ซี่ เฉลี่ย ๑๘.๖ ซี่/คน ร้อยละ ๔๐.๒ มีฟันหลังสบกันอย่างน้อย ๔ คู่สบ และลดลง ในผู้สูงอายุตอนปลายอายุ ๘๐-๘๕ ปี มีเพียงร้อยละ ๒๒.๔ ที่มีฟันถาวรใช้งานได้อย่างน้อย ๒๐ ซี่ เฉลี่ย ๑๐ ซี่/คน และมีฟันหลังสบกัน ๔ คู่สบ เพียงร้อยละ ๑๒.๑ ทำให้ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวลดลงชัดเจน ซึ่งปัญหาสำคัญ ได้แก่ การสูญเสียฟัน โดยเฉพาะ การสูญเสียฟันทั้งปากในผู้สูงอายุ ๖๐-๗๔ ปี พบร้อยละ ๘.๗ แต่เมื่ออายุ ๘๐-๘๕ ปี เพิ่มสูงถึงร้อยละ ๓๑.๐ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตด้านการบดเคี้ยวอย่างมาก
จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของจังหวัดตรัง พบว่าจังหวัดตรัง เด็กก่อนวันเรียนอายุ ๓ ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๕๘-๒๕๖๐ ปราศจากฟันผุร้อยละ ๕๑.๒, ๕๒.๒๖, และ ๕๕.๖ ตามลำดับ เด็กอายุ ๑๒ ปี มีประสบการณ์โรคฟันผุตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๗-๒๕๕๙ ร้อยละ ๔๗.๘, ๓๙.๐๐ และ ๔๐.๖ ตามลำดับ และผู้สูงอายุ พบว่ามีฟันแท้ ในช่องปากใช้งานได้ ๒๐ ซี่ เฉลี่ยร้อยละ ๔๓.๙ ผู้สูงอายุที่มีฟันคู่สบฟันหลังใช้งานได้ ๔ คู่ขึ้นไปร้อยละ ๕๐.๖ และผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พบว่ากลุ่มเด็กก่อนวัยเรียนอายุ ๓ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๘-๒๕๖๐ ปราศจากฟันผุร้อยละ๔๘.๕, ๕๐.๙๓ และ ๕๓.๙ ตามลำดับ เด็กอายุ ๑๒ ปี มีประสบการณ์โรคฟันผุตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๗-๒๕๕๙ ร้อยละ ๔๔.๘, ๓๙.๗๙ และ ๔๓.๓ตามลำดับ และผู้สูงอายุ มีฟันแท้ในช่องปากใช้งานได้ ๒๐ ซี่ เฉลี่ยร้อยละ ๓๘ ผู้สูงอายุที่มีฟันคู่สบฟันหลังใช้งานได้ ๔ คู่ขึ้นไปร้อยละ ๕๖
ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาโรคฟันผุในหญิงตั้งครรภ์ เด็กก่อนวัยเรียน เด็กประถมศึกษา และผู้สูงอายุ จำเป็นต้องได้รับการส่งเสริม ป้องกัน และเฝ้าระวังทางทันตสุขภาพ เพื่อลดอัตราการเกิดโรคฟันผุต่อไปในอนาคต จึงได้จัดโครงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย ประจำปี ๒๕๖๓ เพื่อให้ประชาชนในเขตพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกะลาเส มีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง มีสุขภาพช่องปากที่ดี และยังลดปัญหาฟันผุ ซึ่งจะส่งผลดีทั้งทาง ด้านร่างกายและจิตใจต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | (๑) เพื่อส่งเสริม ป้องกัน รักษาการเกิดโรคฟันผุในกลุ่มเป้าหมาย (๒) เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากในกลุ่มเป้าหมาย (๑) ร้อยละ ๙๐ หญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและรับบริการทางทันตกรรม
ตามความจำเป็น |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 1006 | 57,737.70 | 0 | 0.00 | |
1 ธ.ค. 62 - 30 ก.ย. 63 | ให้บริการทางทันตกรรม หญิงตั้งครรภ์,เด็กเล็กก่อนวัยเรียน,เด็กปฐมวัย,เด็กวัยเรียน,ผู้สูงอายุ | 1,006 | 57,737.70 | - |
ดำเนินการให้บริการทางทันตกรรม
๑ ส่งเสริม ป้องกัน
- หญิงตั้งครรภ์ : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการดูแลช่องปากและการแปรงฟัน
- เด็กเล็กก่อนวัยเรียน : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิช
ทุก ๖ เดือน ให้ความรู้ทันตสุขศึกษาแก่ผู้ดูแลเด็ก สาธิตการดูแลช่องปากและการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน
- เด็กปฐมวัย : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิชทุก ๖ เดือน ให้ความรู้ทันตสุขศึกษาแก่ผู้ดูแล สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน
- เด็กวัยเรียน : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิชทุก ๖ เดือน ให้ความรู้ทันตสุขศึกษา สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน นัดเด็กที่มีฟันกรามแท้ซี่ที่ ๑,๒ มาเคลือบหลุมร่องฟัน
- ผู้สูงอายุ : ตรวจสุขภาพช่องปากและบันทึกผลการตรวจฟัน ทาฟลูออไรด์วานิชทุก ๖ เดือน ให้คำแนะนำรายบุคคล สาธิตการแปรงฟันโดยใช้โมเดลฟัน
๒. รักษาทางทันตกรรมตามความจำเป็น
-หญิงตั้งครรภ์ :นัดมารับบริการตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน)
-เด็กเล็กก่อนวัยเรียน :นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน) อุดฟันอย่างง่ายด้วยวิธี SMART Techinqe
- เด็กวัยเรียน : นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน)
- ผู้สูอายุ : นัดรับบริการทางทันตกรรมตามความจำเป็น (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน)
๑. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์
๑. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
๒. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์รายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
๓. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์สามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
๒. เด็กก่อนวัยเรียน แรกเกิด - ๒ ปี
๑. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
๒. เด็กก่อนวัยเรียน แรกเกิด - ๒ ปี ได้รับการตรวจฟันและทาฟลูออไรด์วานิช
๓. เด็กก่อนวัยเรียน ๓-๕ ปี
๑. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
๒. เด็กก่อนวัยเรียน ๓-๕ ปี ได้รับการตรวจฟันและทาฟลูออไรด์วานิช
๔. เด็กวัยเรียน
๑. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
๒. เด็กวัยเรียนรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
๓. เด็กวัยเรียนสามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
๕. ผู้สูงอายุ
๑. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการเข้ารับการรักษา
๒. ผู้สูงอายุรายใหม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วถูกต้องตามความเหมาะสม
๓. ผู้สูงอายุสามารถประเมินสุขภาพช่องปากของตนเองได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2563 11:11 น.