การประยุกต์ใช้โยคะโดยครูพี่เลี้ยง เพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ชื่อโครงการ | การประยุกต์ใช้โยคะโดยครูพี่เลี้ยง เพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก |
รหัสโครงการ | 63-L000-2-7 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ |
วันที่อนุมัติ | 1 มกราคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 15,790.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ผศ.จิรพรรณ พีรวุฒิ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ้านพร้าว อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ม.ค. 2563 | 23 ส.ค. 2563 | 15,790.00 | |||
รวมงบประมาณ | 15,790.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 13 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
มนุษย์ต้องพัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสร้างความพร้อมเพื่อพัฒนาประเทศ เด็กปฐมวัยซึ่งมีอายุระหว่าง 3-6 ปี ถือเป็นอนาคตของชาตินั้น ควรที่จะเริ่มต้นได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านความสามารถด้านปัญญา เนื่องจากเป็นวัยที่สำคัญของการเจริญเติบโตงอกงามสำหรับชีวิต จากพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ สังคม และบุคลิกภาพ และการเรียนรู้ที่จะหล่อหลอมความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม จริยธรรม ภาษา และสติปัญญา โดยทั้งนี้การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์จะขึ้นอยู่กับสมองของมนุษย์นั่นเอง การ์ดเนอร์ (Garder, 1983) ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เชื่อว่าความสามารถหรือปัญญาแต่ละด้าน เป็นกระบวนการของจิตใจ หรือความสามารถที่จะค้นหา แก้ปัญหา และสร้างผลผลิตที่คุณค่าเป็นที่ยอมรับของสังคม โดยศักยภาพของความสามารถหรือปัญญามี 9 ด้าน ได้แก่ ความสามารถด้านภาษา (linguistic intelligence) ความสามารถด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (mathematical intelligence) ความสามารถด้านมิติ (spatial intelligence) ความสามารถด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (bodily-kinesthetic intelligence) ความสามารถด้านดนตรี (musical intelligence) ความสามารถด้านความเข้าใจระหว่างบุคคล ((interpersonal intelligence) ความสามารถด้านความเข้าใจตนเอง (intrapersonal intelligence) ความสามารถด้านธรรมชาติ (naturalist intelligence) และความสามารถด้านอัตภวนิยม จิตนิยม หรือการดำรงคงอยู่ของชีวิต (existential intelligence) แม้มีสภาวะทางร่างกาย เพศ พันธุกรรม ที่จะส่งผลต่อความถนัดและเจตคติของแต่ละคน การรับรู้และเรียนรู้ที่แตกต่างกัน หรือมีศักยภาพทางปัญญาแต่ละด้านไม่เท่ากัน แต่ก็สามารถพัฒนาศักยภาพดังกล่าวได้ตามสมองของมนุษย์ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนๆ และแต่ละส่วนจะกำหนดความสามารถเป็นเรื่องๆ ตามสภาพแวดล้อมของตนเอง โยคะ เป็นศาสตร์หนึ่งของภูมิปัญญาตะวันออก เป็นการฝึกกายและใจให้เป็นหนึ่งเดียว โดยเป็นการฝึกควบคุมร่างกายและกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง การฝึกด้านจิตใจช่วยให้เกิดความสงบ มีสมาธิ การฝึกที่ผสานลมหายใจเข้ากับท่วงท่าการเคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยให้มีสติกับสิ่งที่เป็นอยู่ สำหรับการพัฒนาด้านสติปัญญานั้น เชื่อว่าโยคะช่วยในการบริหารสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาให้มีความสมดุลและทำงานผสานสอดคล้องกัน ดังการที่เด็กมีการเคลื่อนไหวร่างกายทั้งด้านซ้ายและด้านขวา มีการทำงานของร่างกายอย่างประสานสัมพันธ์กัน (coordination) ระหว่างมือ ศีรษะ แขน ลำตัว และเท้า อีกทั้งยังเป็นการฝึกการเคลื่อนไหวที่เป็นจังหวะในทิศทางซ้ายและขวา หน้าและหลัง บนและล่าง ส่วนที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและขวาสามารถทำงานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การประยุกต์ใช้โยคะ ด้วยการใช้ท่าทางฝึกซึ่งเลียนแบบสรรพสิ่งในธรรมชาติอย่างง่ายๆ และน่าสนใจ เช่น ท่าทางของสัตว์ต่างๆ สามารถส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาด้านจินตนาการและภาษา เด็กยังได้ออกกำลังกายพร้อมฝึกสมาธิไปด้วย กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น สามารถเคลื่อนไหวและข้อต่อทุกส่วนในร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้การจัดรูปแบบของการสร้างบรรยากาศในการฝึกโยคะ เช่น เปิดเพลงบรรเลง จะช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียด หรือผสานการเล่น เล่านิทานร่วมด้วย จะทำให้เกิดเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานเพลิดเพลิน หรือกำหนดนับตัวเลขขณะฝึกปฏิบัติก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายและสมอง ดังนั้นการประยุกต์ใช้โยคะสำหรับเด็กปฐมวัย จึงทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ที่ดี มีการเรียนรู้เมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อนด้วยกัน ในการเป็นผู้นำ ผู้ตาม เกิดการยอมรับตนเองและผู้อื่น ดังนั้น คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จึงตระหนักและเห็นความสำคัญในคุณภาพการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมศักยภาพของเด็กวัยนี้ และเป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องกับเด็กทุกคนร่วมมือกันพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน เพื่อวางรากฐานทั้งด้านการนึกคิดและบุคลิกภาพ ให้เด็กเจริญเติบโตเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป ทั้งนี้ครูพี่เลี้ยงของเด็กปฐมวัย เป็นบุคคลหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเด็กอย่างใกล้ชิด โดยครูพี่เลี้ยงสามารถจัดประสบการณ์เรียนรู้ที่เหมาะสม ที่เป็นการจัดกิจกรรมตรง ผ่านการลงมือปฏิบัติ เกิดความสนุกสนานและมีประโยชน์ มีความผสมผสานศิลปะที่จะช่วยให้เด็กเข้าใจตนเองและผู้อื่น การสื่อความหมาย และการพัฒนาศักยภาพด้านร่างกาย โดยคำนึงถึงความแตกต่างศักยภาพด้านต่างๆ ของเด็กแต่ละคน จะช่วยให้เด็กพัฒนาศักยภาพความสามารถทางปัญญาได้เป็นอย่างดี คณะพยาบาลศาสตร์ จึงได้จัดให้มีโครงการการประยุกต์ใช้โยคะโดยครูพี่เลี้ยงเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขึ้นในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ครูพี่เลี้ยงของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีการรับรู้ถึงความสามารถของตนเองในการประยุกต์ใช้โยคะเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยที่จะนำไปสู่การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยความมั่นใจ ก่อให้เกิดการพัฒนาความสามารถทางด้านปัญญาแก่เด็กปฐมวัยที่ตนเองรับผิดชอบดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | วัตถุประสงค์ ข้อที่ 1 ครูพี่เลี้ยงร้อยละ 80 รับรู้ถึงความสามารถของตนเองในการประยุกต์ใช้โยคะเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัย ข้อที่ 2 เด็กร้อยละ 80 มีความสามารถทางพหุปัญญาเพิ่มขึ้น -คะแนนการรับรู้ถึงความสามารถของตนเองของครูพี่เลี้ยงในการประยุกต์ ใช้โยคะเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยเพิ่มขึ้น -คะแนนความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กเพิ่มขึ้น |
80.00 | 80.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 : วัตถุประสงค์ ข้อที่ 1 ครูพี่เลี้ยงร้อยละ 80 รับรู้ถึงความสามารถของตนเองในการประยุกต์ใช้โยคะเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัย ข้อที่ 2 เด็กร้อยละ 80 มีความสามารถทางพหุปัญญาเพิ่มขึ้น |
||||||
รวม | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | ||
ไม่ระบุวัตถุประสงค์ |
||||||
1 ก.พ. 63 - 30 เม.ย. 63 | กิจกรรมการอบรมครูพี่เลี้ยง | 13.00 | 8,880.00 | ✔ | - | |
1 พ.ค. 63 - 31 ก.ค. 63 | กิจกรรมการประยุกต์ใช้โยคะพัฒนาเด็กเล็กของครูพี่เลี้ยงแต่ละศูนย์ | 13.00 | 0.00 | ✔ | - | |
1 ก.ค. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมประเมินการรับรู้ความสามารถของตนเองของครูพี่เลี้ยงในการประยุกต์ใช้โยคะเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัย (หลังเสร้จสิ้นโครงการ)และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสอนของครูพี่เลี้ยง | 13.00 | 1,440.00 | ✔ | - | |
1 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมเตรียมการ | 18.00 | 4,970.00 | ✔ | - | |
1 ก.ย. 63 - 31 ก.ค. 63 | กิจกรรมประเมินความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัย ก่อนการสอนประยุกต์ใช้โยคะของครูพี่เลี้ยง | 100.00 | 500.00 | ✔ | - |
หมายเหตุ : งบประมาณ และ ค่าใช้จ่าย รวมทุกวัตถุประสงค์อาจจะไม่เท่ากับงบประมาณรวมได้
1.ครูพี่เลี้ยงมีการรับรู้ถึงความสามารถของตนเองในการประยุกต์ใช้โยคะเพื่อการพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง 2.เด็กปฐมมีความสามารถทางพหุปัญญาอันจะนำไปสู่การสร้างพื้นฐานที่ดีสำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 10:01 น.