โครงการเฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ปีงบประมาณ 2563 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวถนน
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ปีงบประมาณ 2563 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวถนน |
รหัสโครงการ | 63-L5248-1-10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวถนน |
วันที่อนุมัติ | 17 มีนาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ธันวาคม 2563 |
งบประมาณ | 28,755.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางทิพย์ พรหมณี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.694,100.473place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 150 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
พื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวถนน มีประชากรทั้งหมด 2,216 คน (ข้อมูล ณ. 1 กค 2562)ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรมากถึงร้อยละ ๘๐ของพื้นที่ทั้งหมด ประกอบด้วยพื้นที่ทำสวนยางพารา ทำสวนผลไม้ และสวนผัก การทำเกษตรของประชาชนในพื้นที่ยังมีการพึ่งพาสารเคมีในการกำจัดแมลง มีทั้งกลุ่มออร์กาโนคลอไรน์, กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต,กลุ่มคาร์บาเมต และกลุ่มสารสังเคราะห์ไพรีทอยด์ และสารป้องกันและกำจัดวัชพืช ในการทำการเกษตร ซึ่งผลกระทบของสารเคมีต่างๆเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมีพิษทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นความเป็นพิษและปริมาณที่ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หากเกษตรกรไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้สารเคมีต่างๆ เหล่านี้ เช่น พฤติกรรมการทำงานของเกษตรกรที่ไม่ถูกต้อง การสัมผัสสารเคมีโดยไม่ใส่ผ้าปิดจมูก, ไม่สวมถุงมือ, ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ปกปิด และไม่สวมรองเท้าบู๊ท เป็นต้น นอกจากนี้เกษตรกรสามารถสัมผัสสารเคมีโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การสูดหรือดมสารเคมีเข้าไปและถังภาชนะบรรจุสารเคมีที่รั่วซึมฉีดพ่นสวนทิศทางลมทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมี เป็นต้น เกษตรกรที่สัมผัสสารเคมีอาจส่งผลต่อสุขภาพทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตาซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมาเช่นโรคมะเร็งโรคต่อมไร้ท่อ, โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกันเป็นต้น สารเคมีต่างๆ เหล่านี้ยังส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ทำให้ระบบนิเวศจะเปราะบางลงไม่สามารถรักษาสมดุลทางธรรมชาติ การระบาดของศัตรูพืชนับวันจะรุนแรงและถี่ขึ้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวถนน ซึ่งเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ ตระหนักถึงความจำเป็นในการจัดกิจกรรมเพื่อดูแลสุขภาพเกษตรกรในชุมชน ประกอบด้วย การสำรวจข้อมูลเบื้องต้น การสัมภาษณ์ด้วยแบบประเมินความเสี่ยง การเจาะเลือดตรวจคัดกรองเพื่อสืบค้นความผิดปกติในระยะเริ่มแรกป้องกันและลดความสูญเสียจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้สารจำกัดศัตรูพืช วิธีป้องกันโรคและการดูแลสุขภาพเบื้องต้นด้วยตัวเอง การวินิจฉัยและการรักษาเบื้องต้น การส่งต่อเพื่อการพบแพทย์เฉพาะทาง และการแนะนำการใช้สมุนไพรลดล้างพิษ ตลอดจนจัดกิจกรรมการให้คำปรึกษากับเกษตรกรเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านเกษตรและป้องกันโรคอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการปฏิบัติงานและสามารถนำความรู้ไปใช้กับตนเองได้ อย่างน้อยร้อยละ 80 กลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตรในพื้นที่ได้รับความรู้ เพิ่มขึ้น และนำความรู้ไปปฏิบัติใช้ |
0.00 | |
2 | 2 เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านเกษตรได้รับการคัดกรองความเสี่ยงทางสุขภาพ กลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตรในพื้นที่ได้รับการคัดกรองสุขภาพ ในปีแรก จำนวน 150 คน |
0.00 | |
3 | 3 เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันภาวะสุขภาพของกลุ่มผู้ที่มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านเกษตร
|
0.00 |
- ประชุมชี้แจงวางแผนการดำเนินงานร่วมกับเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นอสม. ผู้นำหมู่บ้านฯลฯ
- ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้กลุ่มเกษตรกรผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตรในพื้นที่ เช่น เกษตรกรชาวสวนยางพารา ปลูกผัก และอื่นๆ เข้าร่วมโครงการ
- จัดเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องติดต่อ และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดต่อวิทยากรในการอบรม
- ให้ความรู้และคัดกรองสุขภาพกลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตรในพื้นที่
- เอกสาร Pre-Test และ Post-Test - จัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจเรื่องการส่งเสริม ป้องกันโรค หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ จำนวน 2 ครั้ง 5. วิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำสภาวะสุขภาพของกลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตรและส่งต่อผู้ที่มีผลผิดปกติเพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้อง - คัดกรองทางสุขภาพของกลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตร (ใช้แบบคัดกรองโดยการตรวจเลือดใช้กระดาษทดสอบเอนไซม์โคลนเอสเตอเรส)ในพื้นที่ จำนวน 2 ครั้ง 6. สรุป-รายงานผลการดำเนินงานต่อผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลปริก
- ผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านเกษตร ได้รับความรู้ ความเข้าใจ สามารถป้องกันโรคอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการปฏิบัติงานและสามารถนำความรู้ไปนำใช้กับตนเองได้
- กลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านการเกษตรได้รับการคัดกรองความเสี่ยงทางสุขภาพและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
- เกิดการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพของกลุ่มผู้ที่มีภาวะเสี่ยงจากการทำงานด้านเกษตร
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2563 09:03 น.