โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(COVID 19)ตำบลทุ่งตำเสา
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(COVID 19)ตำบลทุ่งตำเสา |
รหัสโครงการ | ปี2563-L5275-5-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 5 สนับสนุนกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | เทศบาลเมืองทุ่งตำเสา กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม |
วันที่อนุมัติ | 25 กันยายน 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2562 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 ตุลาคม 2563 |
งบประมาณ | 200,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอาลัชฎาวรรณ สุวรรณะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.9,100.244place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
อ้างถึง มติคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลเมืองทุ่งตำเสา วาระครั้งที่ ๘/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๒ ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองทุ่งตำเสา คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติแผนการใช้จ่ายเงินของกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๓ กิจกรรมประเภทที่ ๕ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ วงเงิน ๒๐๐,๐๐๐.-บาท
เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือ โควิด ๑๙ (Corona Virus Disease ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)) ซึ่งมีการแพร่ระบาดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของไวรัส “โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” และเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๓ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศยกระดับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เป็น “การระบาดใหญ่” (Pandemic) แล้ว หลังจากพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเชื้อในอย่างน้อย ๑๑๐ ประเทศทั่วโลก และมีติดเชื้อรวมกว่า ๑.๒ แสนราย ทั้งนี้ในประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อดังกล่าวเป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทย ณ วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๓ มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้ว จำนวน ๑,๗๗๑ ราย เสียชีวิตแล้ว ๑๒ ราย (ข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข) สำหรับจังหวัดสงขลา พบผู้ป่วยแล้ว จำนวน ๒๙ ราย (ข้อมูลจากสำนักงานาธารณสุขจังหวัดสงขลา) โดยรัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์ว่าประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในระยะที่ ๓ โดยเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๓ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงการประกาศ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคทั้งการจำกัดการเดินทางออกต่างจังหวัดหรือประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น จีน เกาหลีไต้ อิหร่าน อิตาลี ฯลฯ การตรวจค้นหากลุ่มเสี่ยงที่เดินทางจากกรุงเทพและปริมณฑล เป็นต้น ก่อให้เกิดความวิตกกังวลของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยจังหวัดสงขลาขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ในการป้องกันและควบคุมโรคให้เพียงพอ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่รับผิดชอบ ในเบื้องต้นเทศบาลเมืองทุ่งตำเสาได้จัดทำโครงการเพื่อให้ความรู้และจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันโรคเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่เนื่องจากยังขาดแคลนอุปกรณ์ในการป้องกันและควบคุมโรค จึงขอเสนอโครงการ “โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID ๑๙) ตำบลทุ่งตำเสา” เพื่อตอบโต้ต่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ให้ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ตลอดจนป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้างต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) - กลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรคสามารถปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดได้ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๙๐ - ร้อยละ ๑๐๐ ของผู้ยืนยันติดเชื้อได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามมาตรการอย่างเคร่งครัด |
0.00 | |
2 | เพื่อให้บุคลากร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมโรคมีวัสดุอุปกรณ์เพียงพอสำหรับปฏิบัติงานได้ - ร้อยละ ๑๐๐ ของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานควบคุมโรคมีอุปกรณ์มาตรฐานครบครันขณะปฏิบัติงาน |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 200,000.00 | 0 | 0.00 | |
1 เม.ย. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่ ๑ รณรงค์ให้ความรู้ | 0 | 5,000.00 | - | ||
1 เม.ย. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่2การจัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรค | 0 | 150,000.00 | - | ||
3 เม.ย. 63 - 30 ก.ย. 63 | กิจกรรมที่3การสำรวจและตรวจเยี่ยมกลุ่มเสี่ยง | 0 | 45,000.00 | - |
(๑) รณรงคใหความรูเรื่อง อาการและการปองกันโรคผานชองทางสื่อสารตาง ๆ เชน ปายประชาสัมพันธ แผน พับ รถแหประชาสัมพันธ เปนตน เพื่อสร้างการรับรูในวงกวาง
(๒) การจัดหาอุปกรณปองกันโรค เชน หนากากอนามัยสำหรับประชาชนหรือหนากากผ้า การจัดหาแอลกอฮอลเจลลางมือแก่ หนวยงาน สถานที่สำคัญในชุมชน บานกลุมเสี่ยง หรือผูปวยติดบานติดเตียง เครื่องวัดอุณหภูมิแบบยิงหนาผาก เครื่องมืออุปกรณที่จำเปนตอการควบคุมโรค น้ำยาฆาเชื้อสำหรับพน ควบคุมโรค เปนตน
(๓) การสำรวจและตรวจเยี่ยมกลุมเสี่ยง บุคคลที่เดินทางมาจากที่อื่น เชน ประเทศเพื่อนบาน ประเทศกลุมเสี่ยง กลุมที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล โดยการขึ้นทะเบียนผานแกนนำ อสม.หรือเจาหนาที่ควบคุมโรคระดับ ทองถิ่น ขอใหนำสงทะเบียนกลุมเสี่ยงแก รพ.สต.หรือโรงพยาบาลในพื้นที่โดยเร็ว การลงติดตามเฝาระวังการปฏิบัติในการแยกตัวเอง ขณะอยูในที่พักอาศัย ๑๔ วัน
(๔) สรุปผลการดำเนินงาน และ รายงานให้คณะกรรมการกองทุนฯ ทราบเมื่อสิ้นสุดโครงการ
(๑) ประชาชนในพื้นที่ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ได้
(๒) บุคลากร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันและควบคุมโรคเพียงพอสำหรับปฏิบัติงานได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2563 14:42 น.