โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนเทศบาลตำบลปริก ปีงบประมาณ 2563
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนเทศบาลตำบลปริก ปีงบประมาณ 2563 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | |
วันที่อนุมัติ | 4 มีนาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2563 - 30 เมษายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 18,100.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | รพสต. |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.694,100.473place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 เม.ย. 2563 | 30 ก.ย. 2563 | 18,100.00 | |||
2 | 0.00 | |||||
รวมงบประมาณ | 18,100.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคที่เป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บปวดและการสูญเสียฟันน้ำนมคือโรคฟันผุ ซึ่งในเด็กอายุ 3 ปี และ 5 ปี ที่ใช้เป็นตัวแทนในการติดตามการเกิดโรคฟันผุในฟันน้ำนมพบว่า เด็กอายุ 3 ปี ซึ่งเป็น ขวบปีแรกที่มีฟันน้ำนมขึ้นครบ 20 ซี่ มีฟันผุระยะเริ่มต้นร้อยละ 31.1 มีความชุกในการเกิดโรคฟันผุ ร้อยละ 52.9 มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด (dmft) 2.8 ซี่/คน และร้อยละ 2.3 ของเด็กอายุ 3 ปี มีประสบการณ์ การสูญเสียฟันในช่องปาก นอกจากนี้พบว่าเด็กอายุ 3 ปี มีฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษาร้อยละ 52.0 หรือ เฉลี่ย 2.7 ซี่/คน ความชุกของการเกิดฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี พบสูงสุดในภาคกลางและภาคใต้ ร้อยละ 57.9 และ 57.0 ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 3.5 ซี่/คน และ 3.1 ซี่/คน ตามลำดับ ในขณะที่เด็กอายุ 3 ปี ในภาค เหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความชุกของโรคฟันผุน้อยกว่า คือ ร้อยละ 51.0 และ 48.3 ค่าเฉลี่ย ฟันผุ ถอน อุด 2.5 ซี่/คน และ 2.3 ซี่/คน ตามลำดับ ความชุกการเกิดโรคฟันผุในเขตชนบท สูงกว่า เขตเมืองและกรุงเทพมหานคร โดยเขตชนบทพบ ร้อยละ 56.0 ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 3 ซี่/คน เขตเมือง และกรุงเทพมหานครพบร้อยละ 50.2 และ 49.5 ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 2.6 ซี่/คน และ 2.5 ซี่/คน ตามลำดับ
ผลสภาวะสุขภาพช่องปากในกลุ่มเด็กอายุ 5 ปี พบว่ามีฟันผุระยะเริ่มต้น 31.3 ความชุกในการ เกิดโรคฟันผุร้อยละ 75.6 มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 4.5 ซี่/คน โดยพบสูงสุดในเขตภาคใต้และภาคเหนือ คือ ร้อยละ 80.2 และ 78.3 ค่าเฉลี่ย ฟันผุ ถอน อุด 5.1 และ 4.4 ซี่/คน ตามลำดับ ในขณะที่เด็กอายุ 5 ปี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง มีความชุกของโรคฟันผุน้อยกว่า คือ ร้อยละ74.7 และ 74.2 ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 4.0 และ 5.2 ซี่/คน ตามลำดับ อัตราการเกิดโรคฟันผุในเขตชนบท สูงกว่า เขตเมืองและกรุงเทพมหานคร โดยเขตชนบทพบ ร้อยละ 80.6 มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 5.0 ซี่/คน เขตเมืองและกรุงเทพมหานครพบร้อยละ 72.0 และ 66.1 ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด 4.2 และ 3.7 ซี่/คน ตามลำดับ และยังพบการสูญเสียฟันเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.5 และ พบเด็กอายุ 5 ปี มีฟันถาวรขึ้นร้อยละ 18.6
เด็กก่อนวัยเรียนอายุ 3 ปี และ 5 ปี พบว่าสถานการณ์ในเด็กอายุ 3 ปี มีความใกล้เคียงกับ การสำรวจครั้งที่ผ่านมา โดยพบผู้ปราศจากโรคฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 47.1 ในเด็กอายุ 5 ปี มีแนวโน้มการปราศจากโรคฟันผุเพิ่มขึ้นคือร้อยละ 24.4 นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กก่อนวัยเรียน ทั้ง 2 กลุ่มอายุประมาณร้อยละ 40.0 มีคราบจุลินทรีย์อยู่ในระดับเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ พบฟันผุ ระยะเริ่มต้นในเด็กอายุ 3 ปี และ 5 ปี ร้อยละ 31.1 และร้อยละ 31.3 ตามลำดับ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จำเป็น ต้องได้รับการส่งเสริมป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดฟันผุเป็นรู นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 18.6 มีฟันกรามถาวรซี่ที่หนึ่งขึ้นในช่องปากแล้ว การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่ช่วงปฐมวัยจึงมีความสำคัญ และลดโอกาสเกิดฟันถาวรผุได้ โดยสิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำเพิ่มเติมคือ พฤติกรรม ทันตสุขภาพที่พึงประสงค์ได้แก่ การแปรงฟันอย่างมีคุณภาพ และพฤติกรรมการบริโภคนม แม้ว่า เด็กส่วนใหญ่จะแปรงฟันตอนเช้าก่อนมาโรงเรียน แต่พบว่าผู้ปกครองของเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 44.1 ปล่อยให้เด็กแปรงฟันด้วยตนเอง และเมื่อเด็กโตขึ้นพบว่าในกลุ่มอายุ 5 ปี เด็กถูกปล่อยให้แปรงฟันเอง ถึงร้อยละ 80.4 มีเพียงร้อยละ 14.4 ที่ผู้ปกครองยังคงแปรงให้ พฤติกรรมการดื่มนมเด็กอายุ 3 ปี และ 5 ปี ดื่มนมหวานและนมเปรี้ยวเมื่ออยู่ที่บ้านถึงร้อยละ 44.5 และ 47.6 ตามลำดับ เด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 39.5 ใช้ขวดนมเมื่ออยู่ที่บ้าน และยังมีเด็กอายุ 5 ปี อีกร้อยละ 11.9 ที่ยังคงดูดนมจากขวด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ
จากการบริการทันตกรรมกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน ปี 2561 พบว่า เด็กอายุ 0-2 ปี จำนวน 462 คน ได้รับบริการทางทันตกรรม 340 คน คิดเป็นร้อยละ 73.59 มีฟันผุ 117 คน คิดเป็นร้อยละ 34.41 และเด็กอายุ 3-5 ปี จำนวน 470 คน ได้รับบริการทางทันตกรรม 276 คน คิดเป็นร้อยละ 58.72 มีฟันผุ 126 คน คิดเป็นร้อยละ 45.65 ซึ่งเด็กก่อนวัยเรียนยังมีพฤติกรรมที่ยังดูดขวดนม และกินอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ
ด้วยเหตุนี้ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวทำได้โดยการใช้รูปแบบการให้บริการทันตกรรมครบวงจร การตรวจสุขภาพช่องปาก การให้สุขศึกษา บริการทันตกรรม การแปรงฟันที่ถูกวิธี การบำบัดรักษา และการติดตามประเมินผล ทางฝ่ายทันตสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปริก ได้ให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังทันตสุขภาพและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการฝ้าระวังและส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กก่อนวัยเรียนขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 2.1 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคฟันผุในเด็กก่อนวัยเรียนมากขึ้น 2.2 เพื่อสร้างเสริมสุขภาพอนามัยช่องปากและบริการป้องกันโรคฟันผุให้เด็กก่อนวัยเรียน 2.3 เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และชุมชนในการส่งเสริมทันต 3.1 เด็กก่อนวัยเรียน ในเขตเทศบาลตำบลปริก มีฟันผุไม่เกินร้อยละ 20 ของผู้เข้าร่วมโครงการ 3.2 เด็กก่อนวัยเรียน ได้รับการเคลือบฟลูออไรด์ ร้อยละ 60 ของผู้เข้าร่วมโครงการ 3.3 ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็กมีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กก่อนวัยเรียน ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมโครงการ |
0.00 |
5.1 ระยะเตรียมการ
5.1.1 จัดทำโครงการ
5.1.2 ประชุมวางแผนในการดำเนินงาน
5.1.3 กำหนดกิจกรรม กลวิธีดำเนินงาน และการสำรวจกลุ่มเป้าหมายในชุมชน
5.1.4 เตรียมสิ่งสนับสนุนการดำเนินงาน
5.1.4.1 วัสดุอุปกรณ์ เอกสารการอบรม และงบประมาณ
5.1.4.2 อาหารและเครื่องดื่มสำหรับการอบรม
- วิธีการดำเนินงาน (ต่อ)
5.2 ระยะดำเนินการ
5.2.1. อบรมผู้ปกครองเด็กโดยทันตบุคลากร
5.2.2.1 ให้ความรู้เรื่อง ความสำคัญของการมีสุขภาพช่องปากที่ดี พัฒนาการการขึ้นของ ฟัน สาเหตุที่ทำให้ฟันผุในเด็ก ลักษณะฟันปกติ ฟันเริ่มผุ ฟันผุ การดูแลช่องปากเด็ก
5.2.2.2 ให้ความรู้ในการตรวจ การทำความสะอาดช่องปาก การให้คำแนะนำ 5.3 นัดเด็กมาทาฟลูออไรด์วาร์นิชโดยทันตาภิบาล ที่ รพ.สต.หรือจุดรวมของหมู่บ้าน ทุก 3 - 6 เดือน 5.3.1 ตรวจฟัน ให้คำแนะนำ 5.3.2 ทาฟลูออไรด์วาร์นิช ให้คำแนะนำหลังทำพร้อมบันทึกการได้รับฟลูออไรด์ในสมุดบันทึก ประจำตัว 5.3.3 นัดหมายครั้งต่อไปในสมุดบันทึกประจำตัว 5.4 สรุปผลการดำเนินโครงการ
10.1 เด็กก่อนวัยเรียน ได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี 10.2 ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน 10.3 ผู้ปกครองมีส่วนร่วมและส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2563 13:57 น.