โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคความดันโลหิตสูงเบาหวานและหลอดเลือดสมอง ปี 2560
ชื่อโครงการ | โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรคความดันโลหิตสูงเบาหวานและหลอดเลือดสมอง ปี 2560 |
รหัสโครงการ | 60/L8404/01/07 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | รพ.สต.น้ำน้อย |
วันที่อนุมัติ | 7 เมษายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 50,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางกฤติญาวิชัยดิษฐ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | รพ.สต ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.108,100.53place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 200 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาโรคเรื้อรังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศอันดับต้นๆ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจหลอดเลือด และจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ทำให้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุใน 15 ปีข้างหน้า ประชากรวัยเด็กมีสัดส่วนลดลง ประชากรวัยทำงานมีสัดส่วนสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การเกิดโรคเรื้อรังและโรคที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดการหลั่งไหลของกระแสวัฒนธรรมตะวันตกในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ทำให้คนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งการบริโภคและการใช้ชีวิต ทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้เพิ่มขึ้น ประเทศไทย พบว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึงร้อยละ 73 ของประชากรทั้งหมด โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจ พบว่าอัตราตายเท่ากับ 28.92 ต่อประชากรแสนคน หรือเท่ากับ 18,922 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน ส่วนหลอดเลือดสมองมีอัตราตายสูงสุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปี 57 จำนวนตาย 25,114 คน หรือเฉลี่ยทุกๆ1ชั่วโมง จะมีคนตายด้วยโรคหลอดเลือดประมาณ 3 คน (องค์การอนามัยโลก) จากข้อมูลผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานของประชาชนในตำบลน้ำน้อยปี 2559 พบว่า อัตราป่วยผู้ป่วยความดันโลหิตสูงต่อประชากรอายุ 35ขึ้นไปเท่ากับ 31.89 อัตราป่วยผู้ป่วยเบาหวานต่อประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปเท่ากับ 11.96 และมีผู้ป่วยตายด้วยโรคมะเร็ง เป็นอันดับ 1 ของตำบลน้ำน้อยมา 2 ปีแล้ว เนื่องมาจาก การดำเนินชีวิตประจำวันพฤติกรรมสุขภาพบางอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ที่หันไปนิยมรับประทานอาหารตามสมัยนิยมมากกว่าคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ พฤติกรรมการออกกำลังกายที่ลดน้อยลง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุสำคัญในการบั่นทอนสุขภาพ และเปลีี่ยนแปลงแนวโน้มการเกิดโรคของคนไทย จากโรค ติดต่อในอดีตมาเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สามารถป้องกันได้มากขึ้น โรคที่สำคัญได้แก่โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นในหมู่คนไทยและเป็นสาเหตุนำมาซึ่งโรคร้ายต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นต้นเหตุ ซึ่งภาวะการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่ยังนำมาภาระของผุ้ที่เกี่ยวข้องอีกมากมายรวมทั้งต้องใช้จ่ายในการรักาาที่สูงอีกด้วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้าน 3 อ.2ส.เพื่อลดภาวะเสี่ยงอย่างยั่งยืน 1.ผู้ผ่านการอบรมสามารถลดระดับความดันโลหิตลงถึงระดับปกติร้อยละ 30 2.ผู้ผ่านการอบรมสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงถึงระดับปกติร้อยละ 20 |
||
2 | เพื่อลดอัตราป่วยรายใหม่ด้วยโรคความดันโลหิตสูงเบาหวาน 1.ผู้ผ่านการอบรม ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงได้ไม่เกินร้อยละ 5 2.ผู้ผ่านการอบรมป่วยด้วยเบาหวานได้ไม่เกินร้อยละ 2 |
||
3 | กลุ่มป่วยไม่มีดรคแทรกซ้อนด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ผ่านการอบรมไม่ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง |
1.แต่งตั้งคณะทำงาน 2.ประชุมคณะทำงานเพื่อทำความเข้าใจและมอบหมายภารกิจ 3.ดำเนินการคัดกรองประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงและคัดเลือกกลุ่มเสี่ยง จำนวน 200 คน 4.จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในกลุ่มเสี่ยงจำนวน 200 คน 5.ติดตามกลุ่มเสี่ยงวัดระดับความดันโลหิตและเบาหวานซ้ำในกลุ่มเป้าหมายหลังการอบรม ทุก1 เดือนรวม 6 ครั้ง 6.จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในกลุ่มป่วยจำนวน 80 คน 7.ติดตามกลุ่มป่วยทุก 2 สัปดาห์จำนวน 6 เดือน 8.จัดอบรมเชิงจัดประชุมสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และมอบรางวัลแก่ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 1 ครั้ง 9.สร้างมาตรการทางสังคม 10.ประเมินและสรุปผลโครงการ
1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีความตระหนักถึงอันตรายของดรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน 2.ประชาชนมีสุขภาพดีไม่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง 3.ผู้ที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานแล้วสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่เกิดโรคแทรกซ้อน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2560 14:45 น.