โครงการเยาวชนร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์ และ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
ชื่อโครงการ | โครงการเยาวชนร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์ และ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ |
รหัสโครงการ | 60-L4147-2-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรม TO BE NUMBER ONE ตำบลบาโงยซิแน |
วันที่อนุมัติ | 12 มิถุนายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤษภาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 120,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอับดุลรอซะยะยา |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.527,101.153place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงมีพระดำริให้มีโครงการTO BE NUMBER ONEในสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงาน องค์กร ชุมชนต่าง ๆ ตามพระปณิธาน "ทุกคนเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" โดยมีการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา และพัฒนา EQ จนเป็นที่สนใจในกลุ่มเยาวชน ทำให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างมาร่วมกิจกรรมอันเปิดโอกาสให้ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ซึ่งทำให้เยาวชนที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ ได้พัฒนาความสามารถในด้านที่ตนถนัดด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางด้านกีฬา ดนตรี และการช่วยเหลือสังคม ประกอบกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ ในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเขตชุมชน รวมทั้งพื้นที่ที่มีสถานบริการ และแหล่งมั่วสุม อบายมุขต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต ร้านเกมส์ เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุ6 - 24 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีลักษณะสำคัญ ๓ ประการ คือ มีพัฒนาการทางร่างกาย ด้านจิตใจและมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือมีสิทธิทางกฎหมายในเรื่องต่างๆวัยรุ่นเป็นวัยอยากรู้ อยากเห็น และอยากทดลอง ต้องการการยอมรับจากเพื่อน จึงเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด การรู้โทษที่ร้ายแรงของสิ่งเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การท้องไม่พร้อม เพื่อจะได้รู้จักการหลีกเลี่ยงจากปัญหาดังกล่าว
จากรายงานสถานการณ์ปัญหายาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติปี พ.ศ. 2559 สำนักงาน ป.ป.ส ได้ประมาณตัวเลขของผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดไว้ที่ 1.2 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรของคนไทยที่มีประมาณ 65 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.93 พูดได้ว่าในจำนวนประชากรทุกๆ 100 คน จะมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 3 คน และ จากข้อมูลการเข้าบำบัดรักษาของประชาชนตำบลบาโงยซิแน พบว่า ปี 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัด 29 ราย ปี 2556มีผู้เข้ารับการบำบัด 30 ราย ปี 2557มีผู้เข้ารับการบำบัด 1 ราย ปี 2558มีผู้เข้ารับการบำบัด 15 ราย และปี 2559มีผู้เข้ารับการบำบัด 2 รายจึงจำเป็นจะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยง ไปมั่วสุมกลับไปมีพฤติกรรมซ้ำสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และจากการทำเวทีประชาคม ประชาชนได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะการป้องกันในกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังของชาติในอนาคต
จากการศึกษาภายใต้การสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เปรียบเทียบข้อมูลปี ๒๕๔๙ กับ ๒๕๕๑ พบสถิติแม่วัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี กลับมีการตั้งท้องสูงถึง ๑๕๐,๐๐๐ คน กลายเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ ๑ ในเอเชีย
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี ๒๕๕๗พบสถิติอัตราการตั้งครรภ์ของแม่วัยรุ่นเทียบกับจำนวนประชากรที่ตั้งครรภ์และคลอดสูงถึง ๗๐ คนต่อประชากร ๑,๐๐๐ คนซึ่งสถิตินี้ถือว่าสูงกว่าที่ทางองค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ ที่จะต้องมีไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของการตั้งครรภ์ของหญิงทั่ว
ศ.ดร.ศิริพร จิรวัฒน์กุล ได้ศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยสำรวจหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปีที่มารับบริการในโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลศูนย์ใน ๗ จังหวัด จำนวน ๓,๑๑๔ พบว่า แม่วัยใสส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ ๑๕ ปีมากที่สุดและตั้งครรภ์ที่อายุน้อยที่สุด คือ ๑๒ ปีแม่วัยใสส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด ๑๒.๕%ซึ่งการตั้งครรภ์ส่งผลให้แม่วัยใสต้องพักการเรียน/ไม่ได้เรียน ๗๐.๓% ส่วนใหญ่ไม่คุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ๓๓.๙% ส่วนวิธีการคุมกำเนิดที่ใช้มากที่สุดคือถุงยางอนามัย ๒๗.๔%โดยภาคใต้ใช้ถุงยางอนามัยน้อยที่สุด รองลงมาคือ ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ๑๘.๕%และพบว่าส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจตั้งครรภ์ถึง ๗๐%
ปัญหาโรคเอดส์ในวัยรุ่นก็เป็นอีกปัญหาที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วง ราว ๖๐,๐๐๐ คนที่กำลังติดเชื้อเอดส์มาจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ โดยขาดการป้องกันและเป็นสาเหตุการตายของวัยรุ่นในลำดับที่ 2 รองจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ก็มีอุบัติการณ์มากในวัยรุ่นเช่นกัน
ดังนั้น ชมรม TO BE NUMBER ONEตำบลบาโงยซิแน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบาโงยซิแน, องค์การบริหารส่วนตำบลบาโงยซิแน แกนนำชุมชน และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลบาโงยซิแน ได้ตระหนักถึงอันตรายของปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 6-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และเป็นกำลังสำคัญของชุมชนในอนาคต จึงได้ดำเนินการควบคุมและป้องกัน ตามนโยบายและแนวทางของจังหวัดยะลา มาโดยตลอด แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีปัญหาอยู่มาก ทั้งด้านความจำกัดในทรัพยากร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ วิธีการจัดการ การรับรู้และมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นผลให้การปัญหาดังกล่าว ไม่ได้ประสิทธิผลเป็นที่น่าพอใจ การแก้ไขต้องกระทำร่วมกัน ในภาพรวมพหุภาคี ทั้งภาครัฐ ประชาชน รวมทั้งภาคเอกชนควบคู่กันไป ที่สำคัญที่สุดให้ประชาชนและเยาวชนในชุมชนมีบทบาทอย่างเต็มที่ ในการป้องกันปัญหาของชุมชนเอง โดยยึดแนวดำเนินการตามโครงการTO BE NUMBER ONE มาเติมเต็มจึงได้จัดทำโครงการเยาวชนร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด โรคเอดส์ และ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ปี 2560 ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เยาวชนมีความรู้ในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เยาวชนมีความรู้ในเรื่องยาเสพติด และการป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในระดับดี ร้อยละ 80 |
||
2 | เพื่อสนับสนุนเยาวชน ให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ต้านภัยยาเสพติดโดยการสนับสนุนของสังคม
|
||
3 | เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาปลอดภัยจากยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ นักเรียนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาปลอดภัยจากยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ร้อยละ 100 |
||
4 | เพื่อสร้างกระแส ค่านิยมและสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจในเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
|
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เยาวชน และสมาชิก TO BE NUMBER ONE ชุมชนบาโงยซิแนเพื่อให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติ และถ่ายทอดให้แก่สมาชิกในโรงเรียน และชุมชน
จัดทำเนื้อหาหลักสูตร เน้น ความรู้เรื่องยาเสพติด โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และบทบาทหน้าที่ของสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE
ประสานวิทยากร และหากลุ่มเป้าหมายในการอบรม จำนวน 300 คน จัดเตรียมวัสดุการอบรม และเตรียมสถานที่ ดำเนินการอบรมตามตารางอบรมจำนวน 2 รุ่นๆละ 2 วัน สรุปผลการอบรม - จัดทำสื่อความรู้ ไวนิล แผ่นพับ โฟมบอร์ด ในเรื่อง การดำเนินกิจกรรมของ ชมรม TO BE NUMBER ONEยาเสพติด. โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
- จัดทำนิทรรศการในศูนย์เพื่อนใจTO BE NUMBER ONE
- การฝึกทักษะและ เล่นกีฬาฟุตบอลในเยาวชน
- สนับสนุนกิจกรรม ชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษาในพื้นที่ และร่วมเป็นเครือข่ายในสถานประกอบการ
- รณรงค์ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เรื่อง การป้องกันยาเสพติด โรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน ให้รู้จักการป้องกันตนเองให้ถูกวิธี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
- ตัวแทนเยาวชน TO BE NUMBER ONEร่วมกิจกรรมประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ในระดับประเทศ ที่ จ.นนทบุรี
- เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ และร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการป้องกันปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยควร และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในโรงเรียน และชุมชน
- ผู้นำชุมชนมีศักยภาพในการเป็นแกนนำต้านภัยยาเสพติดโรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในชุมชนได้
- ชุมชนมีความเข้มแข็งและปลอดจากยาเสพติด โรคเอดส์ และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2560 09:29 น.