กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ชื่อโครงการ โครงการ อบรมการป้องกันฟื้นฟูภาวะเสีี่ยงจากการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ปี 60

ที่อยู่ ศูนย์เรียนรู้ผู้สูงอายุตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหง-โกลก จังหวัดนราธิวาส จังหวัด นราธิวาส

รหัสโครงการ 60-L6961-02-16 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2560 ถึง 31 กรกฎาคม 2560

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการ อบรมการป้องกันฟื้นฟูภาวะเสีี่ยงจากการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ปี 60 จังหวัดนราธิวาส" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ศูนย์เรียนรู้ผู้สูงอายุตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหง-โกลก จังหวัดนราธิวาส

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการ อบรมการป้องกันฟื้นฟูภาวะเสีี่ยงจากการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ปี 60

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการ อบรมการป้องกันฟื้นฟูภาวะเสีี่ยงจากการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ปี 60 " ดำเนินการในพื้นที่ ศูนย์เรียนรู้ผู้สูงอายุตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหง-โกลก จังหวัดนราธิวาส รหัสโครงการ 60-L6961-02-16 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 กรกฎาคม 2560 - 31 กรกฎาคม 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 12,400.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ปัจจุบันประชาชนไทยมีอายุยืนขึ้น ผลจากการที่มีอายุมากขึ้นย่อมมีสภาพร่างกายที่เสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ เนื่องจากความชราระบบอวัยวะต่างๆ จะทำงานด้อยประสิทธิภาพลง ทำให้อุบัติการณ์ของโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นด้วย ผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยทางด้านร่างกาย และด้านจิตใจ นำไปสู่ปัญหาทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจของครอบครัว ดังนั้นการตรวจสุขภาพเป็นระยะ รวมทั้งการให้ความรู้ด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้สูงอายุเฝ้าระวังในการดูแลสุขภาพของตนเอง ผู้สูงอายุหลายคน เมื่อไปพบแพทย์ มักจะมีความคาดหวังว่าแพทย์ต้องให้การ รักษา หรือให้ยาที่จะทำให้หายจากโรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันทีทันใด แต่ใน ความเป็นจริงการป้องกันหรือรักษาอาการป่วยต่างๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สิ่งสำคัญคือการดูแลตนเองก่อนที่โรคเหล่านั้นจะพัฒนาไปถึงขั้นที่รักษาไม่หาย หลายโรคในผู้สูงอายุสามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อน เกิดโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคข้อเข่าต่างๆ เป็นต้น

สำหรับการหกล้มในผู้สูงอายุ หากเกิดขึ้นแล้วมีแนวโน้มที่จะพิการ และเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม ไม่ว่า จะเป็นสภาพแวดล้อมภายในบ้าน และสภาพร่างกายของผู้สูงอายุเอง ดังนั้นการให้ข้อมูลความรู้เรื่องการหกล้มในผู้สูงอายุ มีความจำเป็น การประเมินความเสี่ยงการหกล้มด้วยตนเอง หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะมาช่วย ป้องกันการหกล้ม การออกกำลังกายที่เหมาะสมป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ ซึ่งมีวิธีออกกำลังกายง่ายๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน หรือทำเป็นกลุ่ม รวมทั้งหากผู้สูงอายุเกิดหกล้ม จะทำอย่างไรเพื่อช่วยเหลือ ได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด จากการสอบถามสมาชิกชมรมยังขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการป้องกันภาวะพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1. เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุภาพของตนเอง และถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้
2. 2. เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการหกล้ม
3. 3. เพื่อให้ลดอัตราการเกิดภาวะพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุภาพของตนเอง และถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้
2. ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการหกล้ม
3. ลดอัตราการเกิดภาวะพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น