โครงการดูแลผู้ป่วยเข่าเสื่อม ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
ชื่อโครงการ | โครงการดูแลผู้ป่วยเข่าเสื่อม ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย |
รหัสโครงการ | 63-L3329-2-39 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อาสาสมัครสาธารณสุขสาขาแพทย์แผนไทย |
วันที่อนุมัติ | 2 กันยายน 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 30 กันยายน 2563 - 30 กันยายน 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 13,526.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางศรีคนึง ศรีเจ้า |
พี่เลี้ยงโครงการ | นางวาลัยพร ด้วงคง |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลแม่ขรี อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 30 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้สูงอายุ : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาสุขภาพที่สำคัญของผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่มักเกี่ยวกับโรคกระดูกและข้อเนื่องจากอุบัติการณ์ของโรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และข้อที่เสื่อมมากที่สุดคือข้อเข่า เนื่องจากข้อเข่าเป็นข้อที่ต้องรองรับน้ำหนักของร่างกายโดยตรง ทั้งยังทำหน้าที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้ข้อเสื่อมได้ง่าย โรคข้อเข่าเสื่อม หมายถึง การที่กระดูกอ่อนของข้อมีการเสื่อมสภาพ ทำให้กระดูกอ่อนไม่สามารถเป็นเบาะรองรับน้ำหนักและมีการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำหล่อเลี้ยงเข่าทำให้มีอาการปวด บวม แดงร้อนที่เข่า ซึ่งเป็นโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงการเสื่อมในกลุ่มอายุที่มีอายุ ๕๐ ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ตำแหน่งของข้อที่มีการเสื่อม ได้แก่ ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อมือ กระดูกสันหลัง และข้อเท้า แต่ข้อที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการเจ็บป่วย และต้องเข้ารับบริการมากที่สุด คือ ข้อเข่า ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว โดยทั่วไปจะรับการรักษาด้วยยา เช่น ยาแก้ปวดลดการอักสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งยาดังกล่าวหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น แผลในกระเพาะอาหาร ไตวาย และความดันโลหิตสูง คลินิกแพทย์แผนไทยชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านด่านโลด ได้ตระหนักถึงการลดการใช้ยาแผนปัจจุบัน ที่เป็นสาเหตุผลข้างเคียงของยาดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้มีความรู้ในการดูแลสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต จึงนำศาสตร์การแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม โดยจัดเป็นโปรแกรมบรรเทาอาการปวดเข่า ซึ่งมีกิจกรรม คือการนวดกดจุดสัญญาณ, การใช้สมุนไพรพอกเข่า ท่าบริหารกล้ามเนื้อด้วยท่าฤาษีดัดตน และการให้คำแนะนำ เพื่อลดอาการปวดเข่า อีกทั้งช่วยลดปัญหาผลข้างเคียงจากการใช้ยาแผนปัจจุบัน ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านด่านโลด จึงได้จัดทำโครงการดูแลผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย เพื่อบำบัดผู้ป่วยโรคเข่าเสื่อมให้มีอาการปวดลดลง ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคข้อเข่าเสื่อมและสามารถใช้สมุนไพรในท้องถิ่นนำมาทำยาพอกเข่าตลอดจนเป็นการอนุรักษ์และตระหนักถึงคุณค่าในภูมิปัญญาไทยอีกด้วย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ๑. เพื่อบำบัดผู้ป่วยโรคเข่าเสื่อมให้มีอาการปวดลดลง ๒. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องโรคข้อเข่าเสื่อมและสามารถใช้สมุนไพรใน ท้องถิ่นนำมาทำยาพอกเข่าใช้ที่บ้านเองได้ ๓. เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นและการดูแลสุขภาพแบบแพทย์แผนไทย
|
0.00 |
ขั้นเตรียมการ
๑. จัดทำโครงการ/เสนอขออนุมัติโครงการ
๒. จัดประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
๓. จัดทำตามแผนรายละเอียดโครงการ
๓.๑ จัดทำแบบประเมินการตรวจคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อมในประชนชนอายุ ๕๐ ปีขึ้นไปในเขตรพ.สต บ้านด่านโลด
๓.๒ จัดทำทะเบียนรายชื่อกลุ่มผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมและผู้ป่วยกลุ่มอาการปวดเข่าในเขตรพ.สต บ้านด่านโลดมาเข้าร่วมโครงการ
๓.๓ จัดกลุ่มให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเองในการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อลดอาการปวดเข่า สาธิตการทำยาพอกเข่าสมุนไพร สอนการนวดด้วยตนเอง สาธิตการบริหารด้วยท่าฤาษีดัดตน และการให้คำแนะนำ
๓.๔ แจกแผ่นพับความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม
๓.๕ ประเมินผลจากการทำแบบสอบถามก่อนเข้าการอบรม หลังการอบรม ประเมินจาก Pain score ก่อน หลัง และประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ
๔. สรุปผลและรายงานผลการดำเนินงาน
๑. ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมีอาการปวดเข่าลดลงจากเดิมและไม่เป็นอุปสรรคในการทำกิจวัตรประจำวัน ๒. ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องโรคข้อเข่าเสื่อมและสามารถบรรเทาอาการปวดเข่า ด้วยตนเองได้ ทำให้ประชาชนเข้าถึงงานบริการด้านการแพทย์แผนไทยในหน่วยบริการสาธารณสุขมากขึ้น ๓. มีการนำสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2563 10:58 น.