กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิตและสุขภาพ จังหวัดตรัง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิตและสุขภาพ

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการว่ายน้ำเพื่อชีวิตและสุขภาพ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง รหัสโครงการ 2563-L1490-2-4 ระยะเวลาการดำเนินงาน 29 มกราคม 2563 - 30 กันยายน 2563 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 71,450.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

จากรายงานการจมน้ำระดับโลก (Global Report on Drowing) ขององค์กรอนามัยโลก พบว่า ทุกๆปีมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำ 140,219 คน โดยเสียชีวิตเป็นอันดับ 3 รองจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบและเอดส์ สำหรับสถานการณ์ของประเทศไทย พบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี  ซึ่งในทุกๆ วัน จะมีเด็ก (ต่ำกว่า 15 ปี) จมน้ำเสียชีวิต 2 คน จากข้อมูลสถานการณ์การจมน้ำของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ปี พ.ศ. 2561 (ทั้งปี) พบว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 681 คน ลดลงจากปี พ.ศ. 2560 จำนวน 36 คน          (ปี พ.ศ. 2560  = 717 คน) นอกจากนี้ สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากจมน้ำ พบว่า ปี พ.ศ. 2561 กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 0 - 2 ปี จมน้ำเสียชีวิตถึงปีละ 152 คน    คิดเป็นร้อยละ 22.3 ของกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทั้งหมด และอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำ ตกน้ำของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยร้อยละ 26.7 ของกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบกับการเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ พบว่าในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน (มีนาคม -พฤษภาคม) เป็นช่วงที่มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูงสุด ซึ่งในปี พ.ศ.2561 พบเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิต 231 คน คิดเป็นร้อยละ 33.9 ของเด็กที่จมน้ำเสียชีวิตตลอดทั้งปี โดยเป็นเด็กอายุ 5 –9 ปี มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 37.2 รองลงมาเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี  คิดเป็นร้อยละ 35.1 และสืบเนื่องจากการเข้าร่วมโครงการหนูน้อยกู้ภัยของกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม  เทศบาลตำบลโคกหล่อ ได้มีการสำรวจนักเรียนระดับชั้น ป.4 – 6 พบว่ามีนักเรียนร้อยละ 80 ของนักเรียนไม่มีทักษะในการว่ายน้ำและว่ายน้ำไม่เป็น จากมูลเหตุดังกล่าว โรงเรียนมิตรภาพที่ 31 “วัดทุ่งหวัง” ได้เห็นความสำคัญของปัญหาการจมน้ำและ    การช่วยเหลือชีวิตจากการจมน้ำทั้งในเด็กและประชาชนทั่วไปแล้วว่า หากจะป้องกันการเสียชีวิตหรือลดอัตราการตายจากการจมน้ำของเด็ก เพื่อเป็นการป้องกันและการเฝ้าระวังปัญหาเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ จึงต้องให้นักเรียนมีทักษะการว่ายน้ำ สามารถช่วยเหลือตนเองให้ว่ายน้ำและรอดชีวิตจากการจมน้ำได้ ดังนั้นโรงเรียนมิตรภาพที่ 31 “วัดทุ่งหวัง” จึงจำเป็นจะต้องฝึกหัดให้นักเรียนได้ฝึกหัดว่ายน้ำ หรือว่ายน้ำเป็น    และเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีช่วยชีวิตคนจากการจมน้ำแบบวิธีช่วยเหลือมาตรฐานสากล โดยใช้อุปกรณ์ใกล้มือ

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1. เพื่อให้นักเรียนชั้น ป.4 – ป.6 โรงเรียนมิตรภาพที่ 31 “วัดทุ่งหวัง” จำนวน 53 คน เข้าร่วมฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ
2. 2. เพื่อให้นักเรียนชั้น ป.4 – ป.6 โรงเรียนมิตรภาพที่ 31 “วัดทุ่งหวัง” จำนวน 53 คน มีความรู้และทักษะเบื้องต้นในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ
3. 3. เพื่อให้นักเรียนชั้น ป.4 – ป.6 โรงเรียนมิตรภาพที่ 31 “วัดทุ่งหวัง” จำนวน 53 คน เกิดทักษะในการออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ และว่ายน้ำเป็นเมื่อจบกิจกรรม

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

นักเรียนชั้น ป.4 – ป.6 โรงเรียนมิตรภาพที่ 31 “วัดทุ่งหวัง” มีความรู้และทักษะเบื้องต้น ในการว่ายน้ำ และมีความรู้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น