โครงการส่งเสริมสุขภาพเครือข่ายบ้านน้ำเค็ม ประจำปี 2564
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมสุขภาพเครือข่ายบ้านน้ำเค็ม ประจำปี 2564 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงเรียนบ้านน้ำเค็ม |
วันที่อนุมัติ | 21 ตุลาคม 2563 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | - |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 95,380.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นายอรุณ ขรีดาโอ๊ะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.901,100.742place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากนักเรียนในโรงเรียนบ้านน้ำเค็ม (ก.ค.-ส.ค.2563) จำนวน 193 คน พบว่า นักเรียนจำนวน 135 คน มีภาวะฟันผุ คิดเป็นร้อยละ 69.95 ซึ่งเป็นอัตราที่สูง ส่งผลทำให้กระทบต่อการเรียน และจากการสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียน พบว่านักเรียนไม่ได้แปรงฟันก่อนนอนจำนวน 74 คน คิดเป็นร้อยละ 38.34 นักเรียนชอบดื่มน้ำหวานเป็นประจำ 89 คน คิดเป็นร้อยละ 46.11 และนักเรียนรับประทานขนมขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ จำนวน 124 คน คิดเป็นร้อยละ 64.25 และนักเรียนขาดทักษะในการแปรงฟันอย่างถูกวิธีจำนวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 44.56 จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและสภาวะฟันผุในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีมีปัญหาสูงมากจนน่าเป็นห่วง การที่นักเรียนมีปัญหาฟันผุ จะทำให้เกิดอาการปวด อันจะส่งผลกระทบต่อภาวะโภชนาการ การพัฒการเรียนรู้ และพัฒนาการด้านบุคลิกภาพในวัยเรียนเป็นอย่างมาก และจากการสำรวจภาวะโภชนาการของนักเรียนโดยครูประจำชั้นพบว่ามีนักเรียนภาวะทุพโภชนาการซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ภาวะเตี้ย 11 คน คิดเป็นร้อยละ 5.70 ภาวะผอม 3 คน คิดเป็นร้อยละ 1.55 ภาวะเริ่มอ้วน 16 คน คิดเป็น 8.29 และภาวะอ้วน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 3.63 ซึ่งจากปัญหาทั้งหมด จำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นอกจากภาวะสุขภาพอนามัยของนักเรียนแล้ว สุขภาพอนามัยของครูและบุคลากรทางการศึกษาาก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลและให้ความสำคัญ เพราะหากครูและบุคลากรทางการศึกษามีปัญหาทางสุขภาพก็ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน ซึ่งจะกระทบต่อการจัดการศึกษาได้ จากข้อมูลพบว่า บุคลากรทั้งสิ้น จำนวน 17 คน ค่า BMI อยู่ในระดับปกติ 6 คน อยู่ระดับอ้วนในระยะแรก 6 คน และอยู่ในระดับอ้วนในระยะที่สอง 5 คน ซึ่งมีปัญหาสุ่มเสี่ยงต่อสุขภาพ
ในการดำเนินการด้านการพัฒนานักเรียน ยังค้นพบว่าปัญหาพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียน พบว่า พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมส่วนใหญ่เกิดจากนักเรียนปฏิบัติตนในขณะอยู่ที่บ้าน ซึ่งเกิดจากผู้ปกครองขาดความรู้กษะและทัศนคติในการดูแลสุขภาพของผู้ปำครองเอง พบว่า ผู้ปกครองร้อยละ 67.78 มีภาวะอ้วน และมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก ร้อยละ 79.45
นอกเหนือจากที่กล่าวมา บทบาทของชุมชนก็มีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายของคนในชุมชน ดังนั้นจำเป็นที่ดี มีความถูกต้อง เหมาะสม และสอดแทรกเรื่องสุขภาพช่องปาก จะเห็นได้ว่าเรื่องโภชนาการและสุขภาพช่องปากเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยงเนื่องกัน และทุกคนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ นอกจากนี้การควบคุมดูแลในการรับประทานอาหารที่มีความหวานที่สูงนั้นย่อมก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆตามมา เช่นโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง รวมทั้งแกนนำในชุมชน ให้เกิดความตระหนัก และให้ความสนใจด้านโภชนาการและการดูแลสุขภาพในช่องปากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามและทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมือจากภาคีเครือข่ายในชุมชนทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนบ้านน้ำเค็ม ผู้ปกครองนักเรียน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทันตบุคลากร อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตลอดถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โรงเรียนบ้านน้ำเค็มจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการสร้างเสริมพฤติกรรมที่ดีด้านสุขภาพของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างยั่งยืนและเผยแพร่สู่ชุมชนต่อ
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้นักเรียนได้รับการตรวจและดูแลสุขภาพช่องปาก รวมทั้งสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสม 1.ร้อยละ80 ของนักเรียนได้รับการตรวจสุขภาพในช่องปากมีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสม |
0.00 | |
2 | 2.เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และแกนนำชุมชนบ้านน้ำเค็ม สามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสม 2.ร้อยละ 80 ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองและแกนนำชุมชนบ้านน้ำเค็ม สามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสม |
0.00 | |
3 | 3.เพื่อให้เกิดเครือข่ายในการร่วมดูแลสุขภาพผ่านสังคมออนไลน์ในกลุ่มของเครือข่ายสุขภาพบ้านน้ำเค็ม 3.ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมโครงการ เป็นเครือข่ายในการร่วมดูแลสุขภาพผ่านสังคมออนไลน์ของเครือข่ายสุขภาพบ้านน้ำเค็ม |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 380 | 95,380.00 | 0 | 0.00 | 95,380.00 | |
2 พ.ย. 63 | 1.อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่องโภชนาการและทันตสุขภาพ | 380 | 54,690.00 | - | - | ||
24 ธ.ค. 63 | 2.อบรมให้ความรู้เรื่องโรงเรียนและชุมชนอ่อนหวาน ลดมัน ลดเค็ม | 0 | 40,690.00 | - | - | ||
24 ธ.ค. 63 | 3.สร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ และจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ | 0 | 0.00 | - | - | ||
รวมทั้งสิ้น | 380 | 95,380.00 | 0 | 0.00 | 95,380.00 |
1.ขั้นการวางแผน
1.1สำรวจข้อมูลนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปาก และ ภาวะทุพโภชนาการ
1.2สำรวจข้อมูลน้ำหนักส่วนสูงครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อวิเคราะห์หาค่า BMI
1.3ประชุมคณะทำงานโรงเรียนบ้านน้ำเค็มและเครือข่ายหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ชี้แจงโครงการและกำหนดบทบาทความรับผิดชอบ
1.4ประสานหน่วยงาน/องค์/วิทยากร เพื่อเป็นวิทยากรและคณะทำงานในการดูแลสุขภาพฃ
2.ขั้นการดำเนินการ
2.1การอบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ เรื่องโภชนาการและทันตสุขภาพ และฝึกทักษะการประเมินสภาวะเสี่ยงต่อโรคและการทำความสะอาดช่องปากแก่นักเรียน จำนวน 193 คน ครูและบุคลากรในโรงเรียน จำนวน 17 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 130 คน และแกนนำชุมชนบ้านน้ำเค็ม จำนวน 40 คน
2.2อบรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการในการเลือกรับประทานอาหารที่ลดปริมาณความหวาน ความเค็ม ความมัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้แก่ จำนวน 193 คน ครูและบุคลากรในโรงเรียน จำนวน 17 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 130 คน และแกนนำชุมชนบ้านน้ำเค็ม จำนวน 40 คน
3.ขั้นติดตามตรวจสอบ ดำเนินการเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม
3.1ประเมินความรู้และทักษะของนักเรียน (โดยครูประจำชั้น)
-ประเมินทักษะการแปรงฟัน เดือนละ 1 ครั้ง (ม.ค,ก.พ,มี.ค,พ.ค,มิ.ย)
-ประเมินความรู้ในเรื่องโภชนาการและทันตสุขภาพ (ก่อนและหลังอบรม)
-ประเมินความรู้ในการเลือกรับประมทานอาหารที่ลดปริมาณความหวาน ความเค็ม ความมัน (ก่อนและหลังอบรม)
3.2ประเมินความรู้ของครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และแกนนำชุมชนบ้านน้เค็ม (โดยคณะทำงาน)
-ประเมินความรู้ในเรื่องโภชนาการและทันตสุขภาพ(ก่อนปละหลังอบรม)
-ประเมินความรู้ในการเลือกรับประทานอาหารที่ลดปริมาณความหวาน ความเค็ม ความมัน (ก่อนและหลังอบรม)
4.ขั้นสรุปและรายงานผลการดำเนินงาน
-ดำเนินการรวบรวมข้อมูล นำมาสรุปและรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการต่อคณะกรรมการกองทุนO
5.สร้างเครือข่ายสังคมออนไลนื
-ผ่านเพจ Facebook,กลุ่ม Line ในการติดตามข้อมูลข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้เรื่องโภชนาการ ทันตสุขภาพ และการดูแลสุขภาพ
1.นักเรียน บุคลากรในโรงเรียน ผู้ปกครอง และคนในชุม มีความรอบรู้และสามารถเลือกรับประทานอาหารที่ลดปริมาณความหวาน ความมัน ความเค็ม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพรวมทั้งสามารถดูแลของตนเองได้อย่างเหมาะสม 2.มีภาคีเครือข่ายมาช่วยในการแก้ไขปัญหาด้านโภชนาการและการดูแลสุขภาพองค์รวมของกลุ่มเป้าหมาย 3.กลุ่มเป้าหมายมีสุขภาพที่ดีขึ้นและเป็นเครือข่ายในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพให้บุคคลหรือกลุ่มอื่นๆต่อไป
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2563 08:15 น.