กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น

กปท.7

แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

กองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครยะลา รหัส กปท. L7452

อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา

ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 16 (2) “ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10”

อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1.
ชื่อ
check_box_outline_blank
แผนงาน
check_box
โครงการ
check_box_outline_blank
กิจกรรม
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการนวดคอ บ่า ไหล่ เพื่อสุขภาพ (ประเภทที่ 1)
2.
ชื่อ
check_box_outline_blank
หน่วยงาน
check_box_outline_blank
องค์กร
check_box_outline_blank
กลุ่มประชาชน
งานแพทย์แผนไทย กลุ่มงานบริการการแพทย์และสาธารณสุข สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
3.
หลักการและเหตุผล

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยในวัยทำงานและวัยรุ่นยุคใหม่ ปัจจุบันอาการเจ็บป่วยจากการทำงานถือเป็นเรื่องใกล้ตัวและมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าร้อยละ 60 ของคนวัยทำงานมีภาวะปวดคอ บ่า ไหล่ โดยอาการที่พบอันดับหนึ่งคืออาการปวดหลัง บ่า รองลงมาคืออาการปวดคอ/ไหล่ และปวดศีรษะตามลำดับ และนอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มคนอายุระหว่าง 16 – 24 ปี มีความเสี่ยงของภาวะดังกล่าวสูงถึงร้อยละ 55 ซึ่งสาเหตุหลัก คือ การไม่เปลี่ยนอิริยาบถระหว่างการทำงาน หรือการอยู่ในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม การนั่งหลังค่อม ท่าก้มหรือเงยคอมากเกินไป รวมถึงความเครียด ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนล้า อ่อนเพลีย หากมีอาการเรื้อรังอาจนำไปสู่ กล้ามเนื้ออักเสบ พังผืดสะสมบริเวณกล้ามเนื้อ รวมไปถึงอาการปวดกล้ามเนื้อต้นคอ ร้าวขึ้นไปบริเวณขมับและกระบอกตาได้ สำหรับแนวทางในการรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่จากการทำงานมีหลากหลายวิธี เช่น การรักษาด้วยยา การรักษาด้วยวิธีเวชศาสตร์ฟื้นฟู การปรับอิริยาบถให้ถูกต้อง การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย รวมถึงการรักษาด้วยศาสตร์ทางเลือกอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย เป็นต้น
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ทางการแพทย์แผนไทยจัดเป็นโรคลมชนิดหนึ่ง สามารถเทียบได้กับกลุ่มโรคลมปลายปัตคาด ซึ่งเกิดจากการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากความเครียด การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ ท่าทาง อิริยาบถต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้อง เมื่อโรคนี้เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อหลัง คอ บ่า และไหล่ จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณดังกล่าว ปัจจุบันทางการแพทย์แผนไทยจึงได้มีการนำหัตถการ การนวดไทยมาใช้ในบำบัดรักษาโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งการนวดจะส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือด ระบบประสาท ลดความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและคลายเครียด
จากการสำรวจประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา โดยการตอบแบบสอบถามออนไลน์ ณ เดือน พฤศจิกายน 2563 โดยงานแพทย์แผนไทย สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครยะลา เรื่องการศึกษาพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ทั้งหมด 140 ราย ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มอายุที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่มากที่สุด คือ41 – 50 ปี รองลงมา 26 – 40 ปีอายุ 51 ปีขึ้นไป และอายุ 15 – 25 ปี คิดเป็นร้อยละ 42.4, 33.1, 16.5 และ 7.9 ตามลำดับ โดยกลุ่มคนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 95.7 ต้องใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนในการทำงานหรือใช้ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้งานมากกว่าครั้งละ 1 ชั่วโมง และพบกลุ่มคนที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ขณะทำงานหรืออยู่กับที่เป็นเวลานานถึงร้อยละ 92.1 ซึ่งสาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ คือ การไม่เปลี่ยนอิริยาบถระหว่างการทำงาน คิดเป็นร้อยละ 58.2 รองลงมาคือ การนั่งหลังงอ หลังค่อม คิดเป็นร้อยละ17.2 และจากความเครียด คิดเป็นร้อยละ13.1 ตามลำดับ ซึ่งระดับความปวด ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปวดเล็กน้อย สามารถทนได้ทั้งวัน คิดเป็นร้อยละ 51.8 ปวดระดับปานกลาง สามารถทนทำงานต่อได้มากกว่า 30 นาที คิดเป็นร้อยละ 33.1 โดยระดับความรบกวนการทำงานและชีวิตประจำวันจากอาการปวดเหล่านี้ พบว่า รบกวนเล็กน้อย สามารถทนได้ทั้งวัน คิดเป็นร้อยละ 46 รองลงมาคือ รบกวน แต่ยังสามารถทนทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ คิดเป็นร้อยละ 41.4 โดยกลุ่มคนที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ที่เคยได้รับการดูแลรักษามีเพียงร้อยละ 38.4 และอีกร้อยละ 61.6 ยังไม่เคยได้รับการดูแลรักษาอาการปวดเหล่านี้ ดังนั้นงานแพทย์แผนไทยกลุ่มงานบริการการแพทย์และสาธารณสุข สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของอาการดังกล่าวจึงได้จัดทำ “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการนวดคอ บ่า ไหล่ เพื่อสุขภาพ ” ขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของตนเอง รู้เท่าทัน สามารถป้องกันตนเองจากอาการปวดคอ บ่า ไหล่ได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้องเหมาะสม มีความรู้และทักษะการนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้

4.
วัตถุประสงค์(เพื่อการจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ และรักษาพยาบาลระดับปฐมภูมิเชิงรุก รวมถึงการจัดกระบวนการหรือกิจกรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรค)
  • 1. 1. เพื่อส่งเสริมความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อป้องกันอาการปวดคอ บ่า ไหล่
    ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพของตนเองกับอาการปวดคอ บ่า ไหล่ 2. ร้อยละ 80 ของผู้เข้าร่วมอบรมมีความพึงพอใจในการจัดอบรม
    ขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
  • 2. ข้อที่ 2. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการนวดคอ บ่า ไหล่เบื้องต้นเพื่อใช้ในการดูแลและป้องกันอาการปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง
    ตัวชี้วัด : 3. ร้อยละ 60 ของผู้เข้าร่วมผ่านการประเมินทักษะการนวดคอ บ่า ไหล่เบื้องต้นเพื่อดูแลสุขภาพตนเองได้ 4. ร้อยละ 40 ของผู้เข้าร่วมอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
    ขนาดปัญหา เป้าหมาย 0.00
5.
วิธีดำเนินการ(ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตามข้อ 4)
  • 1. อบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้และฝึกการนวดคอ บ่า ไหล่ เบื้องต้น
    รายละเอียด

     

    งบประมาณ 34,253.00 บาท
  • 2. การติดตามและประเมินผล
    รายละเอียด

     

    งบประมาณ 200.00 บาท
6.
กลุ่มเป้าหมาย และกิจกรรม(เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ)
6.1. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด จำนวน คน

6.2. กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน จำนวน คน

6.3. กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน จำนวน คน

6.4. กลุ่มวัยทำงาน จำนวน คน

6.5. กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน คน

6.6. กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จำนวน คน

6.7. กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ จำนวน คน

6.8. กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง จำนวน คน

6.9. สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] จำนวน คน

7.
ระยะเวลาดำเนินการ(ควรระบุตามการดำเนินงานจริง)

ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2564

8.
สถานที่ดำเนินการ

ชุมชนเขตเทศบาลนครยะลา

9.
งบประมาณ(ให้สอดคล้องกับวิธีดำเนินการ ที่ตั้งไว้ตามข้อ 5)

รวมงบประมาณโครงการ 34,453.00 บาท

10.
ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตามข้อ 4)
  1. ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของตนเองและป้องกันอาการปวดคอ บ่า ไหล่
  2. ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ในศาสตร์การแพทย์แผนไทยไปประยุกต์ใช้ในการดูแล ป้องกันสุขภาพตนเองจากอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้ถูกต้องและปลอดภัย
11.
คำรับรองความซ้ำซ้อนของงบประมาณ

ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้

  • check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
  • check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
  • check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว


ลงชื่อ............................................................ผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

      (............................................................)

ตำแหน่ง ............................................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- เห็นชอบ/อนุมัติ
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ


ลงชื่อ............................................................หัวหน้าหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน

      (............................................................)

ตำแหน่ง ............................................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................

กปท.8

แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

กองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครยะลา รหัส กปท. L7452

อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา

วัน...........เดือน............................................ พ.ศ. ............
เรื่อง ขอเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2564
เรียน ประธานกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครยะลา
เอกสารแนบ แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม (แบบ กปท.7) จำนวน 1 ชุด

ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น

หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ

ลงชื่อ .................................................. หัวหน้าหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน

(...........................................................)

ตำแหน่ง ...............................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................

กปท.9

แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

กองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครยะลา รหัส กปท. L7452

อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา

วัน...........เดือน............................................ พ.ศ. ............
ผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม

ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้

1. ความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน
check_box_outline_blank
สอดคล้อง
check_box_outline_blank
ไม่สอดคล้อง
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
2. ความซ้ำซ้อนของงบประมาณกองทุน ฯ กับงบประมาณจากแหล่งอื่น
check_box_outline_blank
ซ้ำซ้อน
check_box_outline_blank
ไม่ซ้ำซ้อน
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
3. ความเสี่ยงจากผลประโยชน์ทับซ้อน
check_box_outline_blank
เสี่ยง
check_box_outline_blank
ไม่เสี่ยง
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
4. เป็นหน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ที่มีสิทธิขอรับงบประมาณ (ตามประกาศ ฯ พ.ศ. 2561 ข้อ 10) (เลือกเพียง 1 ข้อ)
5. ประเภทการสนับสนุน (ตามประกาศ ฯ พ.ศ. 2561 ข้อ 10) (เลือกเพียง 1 ข้อ)
6.งบประมาณที่เสนอ จำนวน 34,453.00 บาท
check_box_outline_blank
อนุมัติงบประมาณ เนื่องจากแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
check_box_outline_blank
ประชาชนได้รับผลประโยชน์
check_box_outline_blank
ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ
check_box_outline_blank
ผู้รับผิดชอบงานมีศักยภาพ
check_box_outline_blank
ค่าใช้จ่ายมีความคุ้มค่า
จึงเห็นควรสนับสนุน เป็นเงิน จำนวน ........................................ บาท
ความเห็นเพิ่มเติม..................................................................................................................................
check_box_outline_blank
ไม่อนุมัติงบประมาณ
เพราะ...................................................................................................................................................
check_box_outline_blank
ให้รายงานผลการดำเนินงานแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ภายในวันที่................................................(ตามแบบฟอร์ม ฯ กปท.10)
check_box_outline_blank
ให้ อปท. แจ้งผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ทราบผล เพื่อดำเนินการ ต่อไป
ลงชื่อ ....................................................................

(....................................................................)

ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม

วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................

ลงชื่อ ....................................................................

ตำแหน่ง ....................................................................

วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................