แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ละหาร
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ละหาร
โรงเรียนบ้านปูตะ
โรงเรียนบ้านปูตะ
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/06/2021
กำหนดเสร็จ 31/08/2021
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
1. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (จำนวน 2 มื้อ ๆ ละ 30 บาท จำนวน 42 คน)จำนวน 2,520.-บาท
2. ค่าอาหารกลางวัน (จำนวน 1 มื้อ ๆ ละ 50 บาท จำนวน 42 คน)เป็นเงิน2,100.- บาท
3. ค่าตอบแทนวิทยากร (จำนวน 1 คน ๆ ละ 9 ชั่วโทง ๆ ละ 600 บาท)เป็นเงิน 3,600.-บาท
4. ค่าป้ายโครงการฯ ขนาด 1.2 x2.4 เมตร ในราคาตารางเมตรละ 250 บาทจำนวน 1 ผืนเป็นเงิน 720.-บาท
5. ค่าถ่ายเอกสารประกอบการอบรม (จำนวน 42 เล่ม ๆ ละ 25 บาท) เป็นเงิน 1,050.-บาท
6. ค่าสมุด ปากกา จำนวน 42 ชุด ๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน 1,050.-บาท
7. ค่าใชประกาศเกียรติบัติ จำนวน 42 ใบ ๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน420.-บาท
8. ค่าหมวกกันน๊อค 42 ใบ ๆ ละ 200 บาท เป็นเงิน 8,400.-บาท
9. อื่น ๆ เป็นเงิน140.-บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,000.- บาท
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. นักเรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในการปฏิบัติที่ถูกต้อง
2. นักเรียนมีจิตสำนึกในพฤติกรรมป้องกัน ด้านเอื้อความปลอดภัยบนถนน ด้านการสวมหมวกนิรภัย ด้านการสวมอุปกรณ ์นิรภัยและด้านการวางแผนการเดินทาง
3. นักเรียนสามารถบรูณาการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ตั้งแต่ในระดับโรงเรียนและระดับหมู่บ้าน
4. นักเรียนที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลต่อโรงเรียน และระดับผู้นำหมู่บ้าน เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ