แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เปาะเส้ง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.เปาะเส้ง
ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลเปาะเส้ง
ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
กระทรงสาธารณสุข มีความตั้งใจและความพยายามในการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาและ สร้างการมีส่วนร่วมของคน ในครอบครัวทั้งลูกหลาน ญาติ ทุกเพศทุกวัย ให้สามารถดูแลสุขภาพ คนในครอบครัวได้ด้วยตนเองและมุ่งเน้นให้ทุกครอบครัวมีอย่างน้อย ๑ คน เป็น อสค. ในการช่วยเหลือ คนในครอบครัวและผู้อื่นด้วยจิตเมตตา มีคุณธรรม จริยธรรม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ใด ๆ ไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทนใดนอกเหนือจากทำเพื่อให้เพื่อนมนุษย์ ได้มีความสุข และ อสค. ไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงได้ร่วมกันในการพัฒนาหลักสูตรอาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.)
กระทรงสาธารณสุข มีนโยบายเน้นการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคมากขึ้น จากเดิมที่กระทรงสาธารณสุขอาจจะเน้น ในเชิงรักษาอย่างเดียว โดยการสร้างความรู้ด้านสุขภาพให้คนไทยได้เรียนรู้ที่จะป้องกันดูแลตนเองในเบื้องต้น และส่งต่อไปยังชุมชนรอบข้างด้วยการมีอาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.) เพื่อเพิ่มการรู้เท่าทันในด้านสุขภาพมากขึ้น ทั้งทางป้องกันโรคใน ๕ กลุ่มวัย โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่ผู้สูงอายุ บ้านที่มีคนป่วยไตวายเรื้อรัง บ้านที่มีผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และผู้ด้อยโอกาส ให้นำบุตรหลาน ญาติ สมาชิกในครอบครัวหรือผู้ดูแลมาเข้ารับการอบรมว่าควรจะดูแลอย่างไร จะล้างไตทางช่องท้องอย่างไร คนวัยทำงานทำอย่างไรจะป้องกันโรคติดต่อเรื้อรังได้หรือผู้สูงอายุจะทำอย่างไรให้มีสุขภาพแข็งแรง ดูแลตนเองได้โดยมีชุมชน เป็นตัวสนับสนุน เป็นการ ต่อยอดการดูแลสุขภาพจาก อสม. เข้าไปในครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และสามารถดูแลตัวเองได้ พร้องทั้งมีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาของชุมชน โดยกำหนดเป้าหมายว่า ครอบครัวหนึ่งจำเป็นต้องมีอาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.) อย่างน้อย ๑ คน ที่สามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ ซึ่งจะทำให้ครอบครัวได้รับการถ่ายทอดความรู้สม่ำเสมอ ทำให้เกิดทักษะ ทั้งในระดับบุคคลและครอบครัว ในการวิเคราะห์ สามารถจัดการความเสี่ยงภัยสุขภาพ และดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และผู้ด้อยโอกาส และ ๕ กลุ่มวัย ตามแต่สมาชิกที่มีในครอบครัวตนเองเป็นรูปแบบหนึ่ง ของการมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับครอบครัว ที่จะเชื่อมต่อและช่วยเสริมการดำเนินงานของ อสม. ได้อย่างยิ่ง
จากข้อมูลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ ๑ – ๔ ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พบว่า มีประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จริง ๒,๙๑๕ คน ในจำนวนนี้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง จำนวน ๒๘๕ คน ในจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อรังหลายรายรับประทานยา ไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากรู้สึกเบื่อที่ต้องกินยา หรือบางรายไม่มีคนนำส่งรับยา เป็นต้น อีกทั้งยังบริโภคอาหารไม่ถูกต้อง จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตหรือระดับน้ำตาลในเลือด ได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ได้ เช่น หลอดเลือดสมองไตวาย ถูกตัดอวัยวะ ชมรมอาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.) ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งของการเสริมสร้างศักยภาพในการดูแลสุขภาพด้วยตนเองระดับครอบครัว ด้วยการพัฒนา อาสาสมัครประจำครอบครัว ให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถดูแลบุคคล ในครอบครัวได้ เป็นการส่งเสริมการพึ่งตนเองต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้และสามารถดูแลตนเองและบุคคลในครอบครัวได้
2.เพื่อความเข้มแข็งของกำลังคนด้านสุขภาพเครือข่ายภาคประชาชน
3.ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่และลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/03/2022
กำหนดเสร็จ 30/09/2022
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้และสามารถดูแลบุคคลในครอบครัวด้านสุขภาพได้
2.ประชาชนมีส่วนร่วมในการดุแลสุขภาพของคนในชุมชนและวางแผนแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของคนในชุมชน
3.ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่และลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ