แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลบ้านนา
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลบ้านนา
โรงพยาบาลศรีนครินทร์(ปัญญานันทภิกขุ)
นางอรวรรณ์ ทวีโชติ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
หมู่ที่ 1, 3, 5, 6, 8, 9, 11 ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ขนาดและแนวโน้มประชากรผู้สูงอายุไทยอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ จากการคาดการณ์ในปี พ.ศ. 2568 หรืออีก 1 ปี ข้างหน้า จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 14.9 ล้านคน และในปี พ.ศ. 2573 จะเพิ่มขึ้นเป็น 17.8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 ของประชากรทั้งประเทศ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรผู้สูงอายุ ชี้ให้เห็นความสำคัญและการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตของสังคมไทย ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบระดับสูงต่อสถานะทางเศรษฐกิจ สังคม และระบบบริการ โดยการนําไปสู่ความต้องการการดูแลด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาด้านสุขภาพผู้สูงอายุ ที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง ควบคู่ไปกับการเสื่อมโทรมทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพต้องพึ่งพาผู้อื่น และต้องการความช่วยเหลือจากบริการด้านสุขภาพและสังคมเพิ่มมากขึ้น ทำให้สูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพส่งผลกระทบต่อฐานะความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ครอบครัว ชุมชน และภาพรวมทั้งประเทศ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม ต้องมีระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ สามารถตอบสนองความต้องการด้านบริการพื้นฐานของผู้สูงอายุได้ ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาและการฟื้นฟูสภาพ ในขณะที่ผู้สูงอายุซึ่งเจ็บป่วยเรื้อรังต้องการการดูแลต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันระบบบริหารโรงพยาบาลยังไม่สามารถตอบสนองได้เพียงพอ ระบบบริการสาธารณสุขเดิมมีลักษณะออกแบบเพื่อดูแลภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน จำนวนเตียงในโรงพยาบาลมีจำนวนจํากัด และมีความพยายามในการลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยการจําหน่ายผู้ป่วยเร็วขึ้น การดูแลผู้สูงอายุต่อเนื่องจากโรงพยาบาลไปสู่บ้าน และการดูแลที่บ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังซึ่งการเชื่อมต่อช่องทางการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลกับบ้าน หรือระบบสุขภาพในชุมชนนั้น ควรมีการวางแผนตั้งแต่แรกรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาลและการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน การดูแลต่อเนื่องสำหรับผู้อายุในชุมชน จะต้องมีรูปแบบการดูแลที่ต่อเนื่อง จากสถานบริการเชื่อมโยงถึงชุมชน โดยอาศัยกลยุทธ์การมีส่วนร่วมจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เนื่องจากการมีส่วนร่วมเป็นกระบวนการหล่อหลอมให้เกิดการเพิ่มศักยภาพของผู้ให้บริการและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้มีขีดความสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้ในการพัฒนาอย่างแท้จริง ซึ่งกระบวนการมีส่วนร่วมช่วยพัฒนาคนให้รู้จักใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อย่างมีวิจารณญาณในการวางแผน และตัดสินใจดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเขาเองอย่างอิสระเป็นประชาธิปไตยและสอดคล้องกับความต้องการปัญหาสุขภาพท้องถิ่นชุมชนนั้น ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ (ปัญญานันทภิกขุ) มีกลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมรับผิดชอบ ๗ หมู่บ้าน ประชากรทั้งหมด 5,523 คน มีผู้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป 991 คน คิดเป็นร้อยละ 17.94 ของประชากรทั้งหมด พบว่าปัญหาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุเข้ารักษาที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นปัญหาการเจ็บป่วยเรื้อรัง มีผู้สูงอายุที่เป็นโรคเรื้อรังถึงร้อยละ 50.24
ปัญหาที่พบบ่อย คือ ผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพต้องรับยาต่อเนื่องแต่ไม่มารับยาต่อเนื่อง มักจะให้ญาติมารับแทนเนื่องจากผู้สูงอายุมีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว หรือผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียง มีภาวะ แก่หง่อมมากต้องพึ่งพาญาติในการทำกิจวัตรประจำวัน และจากการที่เจ้าหน้าที่ออกไปเยี่ยมบ้านในชุมชน จะ พบปัญหาการกินยาไม่ถูกขนาด ไม่ถูกเวลาหรือมีการใช้ยาหลายชนิดเกินความจำเป็น บางครัวเรือนผู้สูงอายุ อยู่บ้านตามลำพัง เนื่องจากญาติต้องไปทำงานนอกบ้าน ด้านการดูแลต่อเนื่องพบว่าการให้บริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุส่วนมาก จะเป็นการบริการที่ศูนย์สุขภาพชุมชนมากกว่าการให้บริการที่บ้าน การติดตามเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุยังทำได้ไม่ครอบคลุม ขาดความต่อเนื่อง ให้บริการสุขภาพเชิงรับมากกวาเชิงรุก เน้นเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่กลับออกจากโรงพยาบาล การเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุยังคงยึดหลักการเยี่ยมบ้านตามโรค หรือการเจ็บป่วยมากกว่าการคำนึงถึงความสูงอายุหรือความไวต่อปัญหาผู้สูงอายุ ยังไม่มีการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีการดำเนินกิจกรรมไม่ต่อเนื่อง ทำให้ผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียง มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะแทรกซ้อนและภาวะทุพพลภาพ ผู้สูงอายุขาดคุณภาพชีวิต จากประเด็นดังกล่าวกลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม จึงพัฒนาการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มที่ติดบ้านติดเตียง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้พิการในชุมชนเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลศรีนครินทร์(ปัญญานันทภิกขุ) โดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมคิด ร่วมพัฒนาให้ตรงกับปัญหาความต้องการและวิถีชีวิตของคนในชุมชนนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ให้การสนับสนุน และส่งเสริมพลังอำนาจให้กับผู้สูงอายุ ครอบครัว และชุมชนในการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียงเพื่อดำรงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและป้องกันการเกิดภาวะทุพพลภาพ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวและชุมชนได้ตามอัตภาพ โดยได้รับความ ช่วยเหลือดูแลหรือมีผู้ดูแลช่วยเหลือจากครอบครัว ชุมชน สังคม ตามความต้องการ และไม่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/01/2024
กำหนดเสร็จ 30/09/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
รวมเป็นเงินทั้งหมด 28,050 บาท (สองหมื่นแปดพันสิบห้าบาทถ้วน)
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?ผู้สูงอายุกลุ่มที่ติดบ้านติดเตียง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้พิการ ได้รับการประเมินภาวะสุขภาพครอบคลุมแบบองค์รวม ได้รับการเยี่ยมบ้านและได้รับการช่วยเหลือตามแผนการดูแล มีสุขภาพดี ดูแลตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น