2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ผู้สูงอายุเป็นวัยที่สามารถเกิดความวิตกกังวลและความเครียดได้ง่าย เพราะมีการ เปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายที่มีการเสื่อมสภาพ และมี สุขภาพไม่แข็งแรง ซึ่งส่งผลทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ และสังคม ที่มีสาเหตุมาจากการสูญเสียคนรัก สูญเสียการสมาคม ทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง สูญเสียสภาวะทางเศรษฐกิจและ มีการเปลี่ยนแปลงบทบาทสถานภาพทางสังคม เป็นต้น และการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุนี้มีผลทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับ ภาวะความรู้สึกต่าง ๆ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจของผู้สูงอายุ 5 ประการ คือ รู้สึกโดดเดี่ยว, ขาดความมั่นใจ, กลัวตาย, หมดหวัง, เศร้าและหดหู่ ส่งผลให้เกิด ความเครียดได้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับรุนแรง และหากผู้สูงอายุมีอายุมากขึ้นก็อาจจะมีแนวโน้มในการเกิดความเครียดที่เพิ่มขึ้นด้วย ถือว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด ปัญหาทางสุขภาพจิต เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล และซึมเศร้า เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่สามารถ เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้อย่างเหมาะสม จึงส่งผล กระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุในสังคม
ปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อที่จะหาแนวทางช่วยส่งเสริม ให้ผู้สูงมีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขในการใช้ชีวิต เห็นคุณค่าในตัวเอง และมีความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่ง ต่าง ๆ เป็นต้น การจัดกิจกรรมบำบัดความเครียดในผู้สูงอายุเพื่อให้ผู้สูงอายุเกิดความสุขสงบและ ผ่อนคลาย จะเน้น การส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุแบบบูรณาการ ด้วยการเล่นโยคะ ที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดความเครียด และบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ ซึ่งเมื่อได้ทำการฝึกเป็นประจำจะช่วยทำให้เกิดสมาธิและปัญญา ซึ่งจะส่งผลให้การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ และควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ส่วนสมาธิบำบัด SKT เป็นการฝึกการควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก สิ้น สัมผัส และการเคลื่อนไหว เป็นการนำหลักประสาทวิทยาศาสตร์มาผสมผสานกับการปฏิบัติสมาธิ จะทำให้ร่างกายได้รับสาร เมลาโทนิน (Melatonin) สารโดปามีน (dopamine) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน รักษาความสมดุลให้กับร่างกาย ช่วยในการกำจัดของเสียภายในร่างกายและยับยั้งเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีประสิทธิภาพในการเยียวยารักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มภูมิต้านทานโรคเรื้อรัง ลดอาการท้องผูก แก้ปัญหาไหลเวียนโลหิต ภูมิแพ้ ช่วยให้นอนหลับดี หลับลึก รักษาอาการนอนไม่หลับได้ และยังช่วยในการรักษาโรคพาร์กินสัน ด้วยการทำสมาธิบำบัด SKT มีวิธีการทำที่ง่าย และให้ผลดีในหลายด้าน SKT คือตัวย่อที่มาจากชื่อของ รศ.ดร. สมพร กันทรดุษฎีเตรียมชัยศรี อาจารย์ประจำภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคนิคนี้ขึ้นมา
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1 เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจและทักษะการรออกกำลังกายด้วยโยคะที่ถูกต้อง
2 เพื่อเสริมสร้างสุขภาพกาย สุขภาพจิต ของผู้สูงอายุให้ดีขึ้นเหมาะสมตามวัย
3 เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ผ่อนคลายอารมณ์ เข้าร่วมสังคมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
4 เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้จักการทำสมาธิบำบัด SKT และสามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/08/2024
กำหนดเสร็จ 31/10/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1 ผู้สูงอายุสามารถออกกำลังด้วยโยคะได้ถูกต้อง
2 ผู้สูงอายุมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี
3 ผู้สูงอายุสามารถผ่อนคลายด้วยการมาพบปะเพื่อนๆ
4 ผู้สูงอายุสามารถทำสมาธิบำบัด SKT ได้ถูกต้อง