แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลนาทวีนอก
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการสานพลังภาคีร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่เทศบาลตำบลนาทวีนอกชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลนาทวีนอก
เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.)
1. นายอะหมัด หลีขาหรี
2. นายฟาริด เตะมาหมัด
3. นายหสัน คงหัส
4. นายดนรอมาน หลงสลำ
5. นายอาซาน เจ๊ะหมีด
โรงเรียนสมบูรณ์ศาสน์ ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาด้านบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทยในปัจจุบันค่อนข้างน่าเป็นห่วง แม้จะมีกฎหมายระบุชัดเจนถึงการห้ามขาย ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สถานการณ์ปัจจุบันก็ยังพบว่ามีการขายอย่างแพร่หลาย และมีการเข้าถึงสถานศึกษา พบเด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา มีการซื้อขายในโรงเรียน ครูบางคนยังไม่รู้จักและไม่รู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ปกครองบางคนยังเข้าใจผิดคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย จึงไม่ห้ามให้เด็กสูบ อีกทั้งผู้ขายหรือผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า ได้ปรับรูปแบบ ปรับกลิ่นให้เข้ากับเด็ก ๆ และวัยรุ่น ซึ่งมีรูปแบบคล้ายขนม ของเล่น อุปกรณ์การเรียน มีสีสันสดใส แต่แฝงไปด้วยอันตรายร้ายแรง
จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2564 พบว่ามีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า 78,742 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 30.5 เป็นกลุ่มเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี ซึ่งขณะนี้บุหรี่ไฟฟ้าได้ระบาดมากขึ้นในเด็กอายุที่ต่ำลง ตัวเลขนี้ได้รับการยืนยันจาก ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวถึงสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนและคนไทยในปัจจุบัน พบว่าข้อมูลจากผลสำรวจในปี 2564-2565 บุหรี่ไฟฟ้ารุนแรงเพิ่มขึ้นจาก 80,000 คน เพิ่มมา 700,0000-800,000 คน ในกลุ่มอายุ 18-30 ปี
โดยผลการสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทยอายุ 13-15 ปี จำนวน 6,700 คน ในโรงเรียนทั่วประเทศ พบว่าปี 2565 เด็กไทยอายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้า 17.6% เพิ่มขึ้น 5.3 เท่าจากปี 2558 ที่มีเพียง 3.3 % และเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในปี 2566 ที่ผ่านมา อีกทั้งกลยุทธ์ส่งเสริมการขายผ่านสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว ทำให้เด็กและเยาวชนถูกหลอกลวงได้ง่ายขึ้น โดยส่งผลกระทบต่อชีวิตและจิตใจของเด็กและเยาวชนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยงานวิจัยการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ฯ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ จำนวน 6,045 ราย ในปี 2565 พบว่าเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มลองสูบบุหรี่ธรรมดา เพิ่มขึ้น 5 เท่า และมีแนวโน้มที่จะสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า ซึ่งเป็นการย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประตูสู่การสูบบุหรี่ธรรมดาและสารเสพติดชนิดอื่น ๆ
ทั้งนี้ ในแง่ของนโยบายของรัฐบาล คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมติเห็นชอบมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 5 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1.พัฒนาและจัดการองค์ความรู้ 2.สร้างการรับรู้ภยันตรายและการเสพติดของบุหรี่ไฟฟ้าแก่เด็ก เยาวชน และสาธารณชน 3.เฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า 4.พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายเพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกัน ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า 5.ยืนยันนโยบายและมาตรการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้า
สำหรับในเขตสุขภาพที่ 12 ซึ่งประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (จังหวัดตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, และนราธิวาส) มีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนอยู่ที่ร้อยละ 8% ซึ่งน้อยกว่าภาพรวมของประเทศที่อยู่ที่ 9.1% โดยข้อมูลจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา (สคร.12) พบว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในนักเรียนมัธยมและเทียบเท่าในเขตพื้นที่ภาคใต้จำนวน 5,813 คน พบว่าร้อยละ 14.5 ของนักเรียนที่ตอบแบบสอบถาม เคยใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยพบว่านักเรียนชายมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าร้อยละ 19.6 มากกว่านักเรียนหญิงที่ใช้เพียงร้อยละ 11.2 อย่างไรก็ตามสัดส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในนักเรียนเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2 เท่า
ในการนี้ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ในฐานะองค์กรภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงสภาพปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการ “สานพลังภาคีร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่เทศบาลตำบลนาทวีนอก” โดยบูรณาการความร่วมมือและทรัพยากรจากหน่วยงานต่าง ๆ ในเขตสุขภาพที่ 12เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานำไปสู่การปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/02/2025
กำหนดเสร็จ : 31/08/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. เกิดคณะทำงานขับเคลื่อนการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา
2. เกิดชุดข้อมูลสถานการณ์การใช้บุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนในสถานศึกษา
3. นักเรียนระดับประถมศึกษา โรงเรียนสมบูรณ์ศาสน์ มีทักษะการรู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า
4. ครูและผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนสมบูรณ์ศาสน์ มีทักษะการรู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า
5. เกิดมาตรการเชิงนโยบายในสถานศึกษาและชุมชนในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบข้อตกลงร่วมและกฎระเบียบของสถานศึกษา
6. เกิดข้อมูลบทเรียนการทำงานเพื่อนำไปใช้ในการขับเคลื่อนการปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป