2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
การจัดการศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นมากในการพัฒนาประเทศเพราะการให้การศึกษาเป็นการพัฒนาคนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญให้มีคุณภาพ จุดมุ่งหมายและหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 6 ระบุว่าการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขโดยเฉพาะการเริ่มพัฒนาไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กปฐมวัย ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 2 ปีจนถึง 6 ปี ถือว่าเป็นการวางรากฐานที่ดีให้ตั้งแต่เล็กๆ จำเป็นต้องมีการพัฒนาส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการเหมาะสมครบทั้ง 4 ด้าน
แต่ในปัจจุบันพัฒนาการของเด็กปฐมวัยเป็นที่น่าวิตกมากเมื่อพบว่าโดยภาพรวมแล้วเด็กปฐมวัยมีแนวโน้มพัฒนาการล่าช้าในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เนื่องจากสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยที่พ่อแม่ ผู้ปกครองขาดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ดังนั้นจึงหาของเล่นสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด โดยไม่คำนึงว่าของเล่นนั้นๆ สามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยหรือไม่ สำหรับเด็กปฐมวัย การเล่นมีความสำคัญต่อการพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยเป็นอย่างมาก เพราะการเล่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการเรียนรู้ของเด็กในอนาคต ดังนั้น พ่อ แม่ และผู้เลี้ยงดู ต้องเข้าใจและสามารถนำของเล่น หรือกิจกรรมการเล่นไปใช้กับเด็กได้อย่างเหมาะสมกับวัย
ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำพดได้เล็งเห็นความสำคัญด้านพัฒนาการของเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการที่สำคัญอันดับแรกคือ พัฒนาการทางด้านร่างกาย จำเป็นจะต้องมีสื่อต่างๆ เช่น เครื่องเล่นสนาม สื่อการการเรียนรู้ในห้องเรียน นอกห้องเรียน เป็นต้น ในปีการศึกษาที่ผ่านมาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลำพดมีนักเรียนทั้งหมด 40 คน มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 82.5 และมีเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.5 ซึ่งมีแนวโน้มที่เด็กมีพัฒนาการล่าช้าและพัฒนาการไม่สมตามวัยในอัตราที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี และรวมถึงทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีสื่อและเครื่องเล่นต่างๆไม่เพียงพอ และไม่หลากหลายต่อการใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้แก่เด็กๆอีกด้วย ดังนั้นจึงจัดโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เด็กไทยสุขภาพดี รพ.สต.บ้านลำพด ปี 2568 โดยผ่านการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนโดยใช้สื่อและเครื่องเล่นที่หลากหลาย ได้มีเครื่องเล่นเพื่อใช้ในการเล่นออกกำลังกายฝึกการเคลื่อนไหว พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กคือการพัฒนากล้ามเนื้อมือและตาให้ทำงานประสานสัมพันธ์กัน พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่แขน ขาให้แข็งแรงฝึกการทรงตัว ฝึกความกล้าหาญ และการตัดสินใจฝึกทักษะการทำงานของร่างกาย และฝึกพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคมและสติปัญญา การรับรู้ความคิดฝัน และเลียนแบบจากของจริง ทำให้เด็กรู้จักปรับสิ่งใหม่ให้เข้ากับสิ่งที่คุ้นเคยหรือ รู้จักแล้วคิดและเข้าใจธรรมชาติตามที่เป็นจริง ช่วยฝึกการรู้จักอยู่ร่วมกับเพื่อนๆในสังคมได้อย่างถูกต้องและมีความสุข และให้ผู้ปกครองได้รับความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการให้แก่เด็กอย่างถูกวิธี
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
3. เพื่อให้ผู้ดูแลเด็กปฐมวัย มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก/โภชนาการตามวัย
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 20/06/2025
กำหนดเสร็จ 30/09/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
ทุกรายการสามารถถัวเฉลี่ยได้
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50
2. เด็ก 0-5 ปีมีพัฒนาการสมวัย≥ร้อยละ 85
3. เด็กที่สงสัยพัฒนาการล่าช้าได้รับการติดตามและกระตุ้นพัฒนาการ≥ร้อยละ 90
4. เด็กที่พัฒนาการล่าช้าได้รับการกระตุ้นพัฒนาการ/ส่งต่อร้อยละ 100
5. เด็ก0-5ปีมีรูปร่างดีสมส่วน≥ร้อยละ60
6. แม่และเด็กได้รับการดูแลแบบองค์รวม
7. ผู้ดูแลเด็กมีความตระหนักและเข้าใจในการดูแลเด็กตามวัยมากขึ้น