แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลทุ่งหว้า
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลทุ่งหว้า
กลุ่มงานทัตกรรม โรงพยาบาลทุ่งหว้า
หน่วยงานบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
โรคฟันผุเป็นโรคในช่องปากที่แพร่หลายโรคหนึ่งของประชากรทั่วโลก โรคนี้จะเกิดขึ้นได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชายทุกสถานภาพทางเศรษฐกิจและทุกอายุ แต่ในวัยเด็กจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าในวัยผู้ใหญ่ โรคฟันผุเป็นโรคที่มีการดำเนินโรคไปอย่างช้าๆ และต่อเนื่องถ้าไม่ได้รับการตรวจและรักษาในระยะแรกๆ แล้วโรคก็จะลุกลามต่อไปจนกระทั่งถึงจุดที่เกิดพยาธิสภาพขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อปลายรากฟันและรอบรากฟัน ซึ่งทำให้มีความยุ่งยากในการรักษาเพื่อจะอนุรักษ์ฟันนันไว้ และมักจะต้องได้รับการรักษาด้วยการถอนออกในที่สุด เด็กก่อนวัยเรียนเป็นวัยที่ฟันน้ำนมขึ้นมาครบทุกซี่ในช่องปากปัญหาที่พบของเด็กวัยนี้คือโรคฟันผุทำให้มีการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด มีผลต่อการบดเคี้ยวอาหารการพัฒนาของขากรรไกรตลอดจนการเรียงตัวของฟันถาวรที่ึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนม ดังนั้นการดูแลทันตสุขภาพของเด็กก่อนวัยเรียนเป็นสิ่งสำคัญควรเร่ิมต้นตั้งแต่เด็กเพื่อเติบโตเปนผู้ใหญ่ที่มีทันตสุขภาพที่ดีต่อไป (กองทันตกรรมกระทรวงสาธารณสุข,2551)
จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 7 พ.ศ.2555 ของสำนักงานทันตสาธารสุขกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (2555) พบว่าเด็กก่อนวัยเรียนอายุ 3 ปี และ 5 ปี มีแนวโน้มการปราศจากโรคฟันผุเพ่ิมขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการสำรวจในครั้งที่ผ่านมา (ครั้งที่ 6 พ.ศ.2550) โดยพบว่าจากเดิมในปี พ.ศ.2550 เด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 38.6 และเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 19.36 ปราศจากฟันผุในฟันน้ำนม โดยในปี พ.ศ.2555 เด็กปราศจากโรคฟันผุเพ่ิมขึ้น โดยพบว่าเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 48.3 และเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 21.5 ปราศจากฟันผุในฟันน้ำนม ซึ่งจากการศึกษาของชุติมา ไตรรัตน์วรกุล (2554) พบว่า เด็กที่มีฟันน้ำนมผุจะมีโอกาสการเกิดฟันผุในฟันแท้เพิ่มขึ้นด้วย โดยปัญหาสำคัญที่ยังต้องการการดูแลเพิ่มเติม คือ เรื่องการแปรงฟัน เพราะผู้ปกครองของเด็ก 3 ปี ถึงร้อยละ 55.8 ยังปล่อยให้เด็กแปรงฟันด้วยตนเอง นอกจากนี้การดื่มนมเป็นปัจจัยสำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่มีผลต่อการเกิดโรคฟันผุในเด็กกลุ่มนี้แม้ว่าโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะจัดนมจืดให้แก่เด็กแล้วก็ตาม แต่ก็พบว่าเด็กเล็กอายุ 3 ปีและ 5 ปียังดื่มนมหวานและนมเปรี้ยวเมื่ออยู่ที่บ้าน สูงถึงร้อยละ 48.9 และ ร้อยละ 49.9 ตามลำดับ รวมทั้งยังมีการใช้ขวดนมอยู่ถึงร้อยละ 39.4 ในเด็ก 3 ปี ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุแล้ว ยังมีโอกาสเกิดความผิดปกติของการสบฟันในอนาคต (สำนักงานทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, 2555)
จากการศึกษาสาเหตุของการเกิดโรคฟันผุในเด็กอายุ 3 – 5 ปี พบว่าสาเหตุของปัญหาสุขภาพช่องปากที่เกิดขึ้นในเด็กกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของผู้ปกครอง เช่น การให้เด็กหลับคาขวดนม การให้เด็กอมลูกอมเป็นประจำและผู้ปกครองขาดความเอาใจใส่ดูแลทันตสุขภาพ อีกทั้งความเชื่อ และทัศนคติของผู้ปกครองก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อปัญหาสุขภาพช่องปากของเด็กกลุ่มนี้ เช่น ผู้ปกครองบางคนมีความเชื่อว่าฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญ เมื่อฟันผุควรถอนทิ้งไม่ต้องรักษา ซึ่งแท้จริงแล้วฟันน้ำนมมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าช่วยให้ฟันแท้เจริญเติบโตได้ตามปกติและขึ้นในตำแหน่งที่ถูกต้อง หากเด็กสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดจะทำให้มีปัญหากับการเคี้ยวอาหาร ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะโภชนาการและการเจริญเติบโตของเด็กตามมาตามจำนวนฟันผุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งพบว่าเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการมีฟันผุมากกว่าเด็กโภชนาการปกติ นอกจากนี้โรคฟันผุยังนำไปสู่ปัญหาการติดเชื้อในช่องปาก เด็กที่มีฟันน้ำนมผุอย่างรุนแรงและไม่ได้รับการรักษาจนเหลือแต่รากฟันติดแน่นอยู่ในช่องปากจะเป็นที่สะสมเชื้อโรคที่สามารถนำไปสู่โรคที่มีความรุนแรงที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การอักเสบของลิ้นหัวใจ (ปริญญา จิตอร่าม และกุลนาถ มากบุญ, 2557) จะเห็นได้ว่าปัญหาของฟันน้ำนมผุในเด็กมีความเกี่ยวข้องต่อการเจริญเติบโตของเด็กด้านร่างกาย โดยปัญหาดังกล่าวมีผลมาจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูของ
ผู้ปกครองโดยตรง ดังนั้นผู้ปกครองจึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคฟันผุในเด็กก่อนวัยเรียน คือ การส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีพฤติกรรมที่ถูกต้องในการดูแลทันตสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียน เพื่อลดโอกาสการเกิดฟันผุในฟันแท้
ด้วยเหตุนี้กลุ่มงานทันตกรรมโรงพยาบาลทุ่งหว้า จึงจัดทำโครงการทุ่งหว้าวัยใส ห่างไกลฟันผุ ในรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมให้ครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ปกครองสามารถดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กก่อนวัยเรียนได้ด้วยตนเอง
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 02/03/2018
กำหนดเสร็จ 09/03/2018
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.เด็กก่อนวัยเรียน ครู้ผู้ดูแลเด็ก และผู้ปกครองของเด็กก่อนวัยเรียน ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพช่องปากและการบริโภคอาหารที่มีผลต่อสุขภาพช่องปาก
2.ผู้ปกครองสามารถดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กก่อนวัยเรียนได้ด้วยตนเอง
3.เด็กก่อนวัยเรียนมีพฤติกรรมการแปรงฟันเป็นประจำทุกวัน ทั้งที่ศูนย์พัฒนาเด็เล็กและที่บ้าน