โครงการป้องกันโรคขาดมือถือไม่ได้
ชื่อโครงการ | โครงการป้องกันโรคขาดมือถือไม่ได้ |
รหัสโครงการ | 64-L8280-02-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | กลุ่มหรือองค์กรประชาชน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | อาสาสมัครชุมชนบ้านสะบือรัง |
วันที่อนุมัติ | 20 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 29 เมษายน 2564 - 30 เมษายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 15,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางเจ๊ะมีเนาะ สะมะแอ) (นางนูรไอนี มาหะมะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะติดโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต โดนเฉพาะคนเป็นพ่อเป็นแม่ จนบางครั้งละเลยการทำหน้าที่ของตนไป พอมารู้อีกทีลูกก็กลายเป็นเด็กติดจอไปแล้วสาเหตุหนึ่งมาจากการเลี้ยงดูลูกด้วยเครื่องมือไอทีทำให้เด็กๆ หมกมุ่นอยู่กับหน้าจอ ขาดสัมพันธ์กับคนรอบข้างส่งผลให้พัฒนาการด้านอีคิวหรือด้านอารมณ์ลดลงทำให้ผลการเรียนเรียนตกตามด้วยปัญหาสุขภาพเช่น โรคอ้วนสายตาสั้นสมาธิสั้นโรคซึมเศร้าร้ายแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง จำเป็นอย่างยิ่งในการตระหนักถึงภาวะเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวช่วยกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะโรคโมโนโฟเบีย ซึ่งแปลตรงๆ คือ โรคที่ขาดมือถือไม่ได้ จัดอยู่ในกลุ่มโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง อาการที่พบก็อย่างเช่น ถ้าหากอยู่ในที่ปราศจากสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็รู้สึกหงุดหงิดกระวนกระวาย ซึ่งในบางคนที่มีอาการมากๆ อาจถึงขั้นมีอาการเครียดได้เลย และการใช้โซเชียลที่มากเกินไปเข้าข่ายปัญหาพฤติกรรมเสพติดรูปแบบหนึ่งที่อาจส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันซึ่งปัจจุบันในวงการจิตเวชได้บรรจุการติดโซเชียล ถือเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่งในการวินิจฉัยโรคตาม ICD 11คือ Internet Use Disorderเนื่องจากปัญหาติดโซเชียลมีเดียมักเป็นปัญหาพฤติกรรมที่เกิดร่วมกันกับโรคทางจิตเวชอาทิโรคสมาธิสั้นโรควิตกกังวลโรคย้ำคิดย้ำทำและโรคซึมเศร้าเป็นต้น ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านชุมชนสะบือรังได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดทำโครงการป้องกันโรคขาดมือถือไม่ได้ขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวัน และปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ผู้ปกครองด้วยมือถือ โดยการหันมาใส่ใจ ดูแล บุตรหลานในการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้ดี และสร้างศักยภาพของ อสม. ให้สามารถนำความรุ้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้คนในชุมชนต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | ตัวชี้วัดร้อยละ 50 |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 15,000.00 | 3 | 15,000.00 | |
31 มี.ค. 64 - 30 เม.ย. 64 | กิจกรรม รณรงค์การป้องกันโรคขาดมือไม่ได้ ทางเครื่องกระจายเสียง | 0 | 0.00 | ✔ | 0.00 | |
29 เม.ย. 64 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้ เรื่อง มหันต์ภัยมือถือ และผลเสียต่อสุขภาพ เรื่อง ทำอย่างไรไม่ให้ติดโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ จนเสียสุขภาพ เรื่อง การป้องกันโรคขาดมือถือไม่ได้ | 0 | 11,700.00 | ✔ | 11,700.00 | |
30 เม.ย. 64 | กิจกรรม รณรงค์การป้องกันโรคขาดมือไม่ได้ ทางเครื่องกระจายเสียง กิจกรรม เดินรณรงค์มหันต์ภัยมือถือ และผลเสียต่อสุขภาพ ตามชุมชน | 0 | 3,300.00 | ✔ | 3,300.00 |
๑. เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวัน และมีปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ผู้ปกครองด้วยมือถือ โดยการหันมาใส่ใจ ดูแล บุตรหลานในการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ดีขึ้น
๒. ทำให้ป้องกันการเกิดโรคขาดมือถือไม่ได้ ได้มากขึ้น
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 00:00 น.