ส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในเด็กประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 รพ.เขาชัยสน
ชื่อโครงการ | ส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในเด็กประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 รพ.เขาชัยสน |
รหัสโครงการ | 2564-L3310-1-10 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลเขาชัยสน |
วันที่อนุมัติ | 26 มกราคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2564 |
งบประมาณ | 10,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวอภิญญา เพ็ชรศรี |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 70 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมส่งผลกระทบต่อแบบแผนการดำเนินชีวิต และภาวการณ์ดำรงชีพของประชาชน พ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องมีภาระหน้าที่ในการหารายได้มากขึ้น โดยพบว่า ส่วนใหญ่ทำงานนอกบ้าน จึงไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้เองหรือมีเวลาในการเลี้ยงดูน้อยลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อคุณภาพการเลี้ยงดูเด็ก โดยเฉพาะในส่วนของการรับประทานอาหารและการดูแลในเรื่องของทันตสุขภาพประกอบกับการเข้ามาของแบบแผนวิถีชีวิตวัฒนธรรมตะวันตก ความเจริญและวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี รวมทั้งความเจริญทางการสื่อสาร สิ่งต่างๆเหล่านี้ ส่งผลทางอ้อมให้เกิดค่านิยมการบริโภคอาหารที่อยู่ในกลุ่มแป้งและน้ำตาลสูงขึ้น ขณะเดียวกันพัฒนาการของรูปแบบขนมหวานต่างๆ เช่น ของว่าง ของขบเคี้ยวต่างๆ ในกลุ่มแป้งและน้ำตาล และเครื่องดื่มจำพวกน้ำหวาน น้ำอัดลมฯลฯ ที่ได้เพิ่มจำนวนชนิดมากขึ้นด้วยรูปแบบที่หลากหลายกระตุ้นให้เด็กบริโภคมากขึ้น และส่งผลต่อภาวะทันตสุขภาพในที่สุด
จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 8 ในประเทศไทย พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กกลุ่มวัยเรียน(อายุ 12 ปี) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานในกลุ่มเด็กประถมศึกษา มีความชุกของโรคฟันผุ ร้อยละ 52.0และมีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุเฉลี่ย 1.4 ซี่/คน และจากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดพัทลุง พ.ศ. 2562 พบว่า เด็กอายุ 12 ปี ในจังหวัดพัทลุงมีความชุกของโรคฟันผุ ร้อยละ 45.85 และมีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุเฉลี่ย 1.47 ซี่/คนเมื่อเจาะลึกลงมาในอำเภอเขาชัยสน พบว่า เด็กอายุ 12 ปี ในอำเภอเขาชัยสนมีความชุกของโรคฟันผุ ร้อยละ 63.01 และมีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุเฉลี่ย 1.99 ซี่/คนจะเห็นได้ว่าในปี 2562 เด็กอายุ 12 ปี ที่อาศัยอยู่ในอำเภอเขาชัยสนมีความชุกของโรคฟันผุและมีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุที่มากกว่าในระดับประเทศในปี 2562 (สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดพัทลุง, 2562) แสดงว่ายังมีประเด็นปัญหาสำคัญที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการป้องกันและควบคุมโรคฟันผุในกลุ่มนี้ เช่น พฤติกรรมการบริโภคขนมกรุบกรอบและการดื่มน้ำอัดลม ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามกระแสนิยม จึงจำเป็นที่จะต้องให้เด็กเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลภาวะทันตสุขภาพของตนเองมากขึ้น โดยเด็กจะต้องเกิดความเชื่อทางสุขภาพและมีการรับรู้ความสามารถของตนเองว่ามีความสามารถในการดูแลทันตสุขภาพของตนเองได้ โดยทฤษฎีทางสุขศึกษาที่มีความเหมาะสมในการที่จะนำมาใช้เพื่อให้กระบวนการแก้ปัญหาทันตสุขภาพของเด็กกลุ่มนี้ คือ ทฤษฎีแบบแผนความเชื่อทางสุขภาพ (health belief model) โดยการรับรู้ว่าตนเองอาจเกิดอันตรายจากโรค จึงปรับพฤติกรรมการรับรู้ผลเสียหรืออันตรายของโรคนั้นๆ การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำพฤติกรรมในการป้องกันหรือควบคุมโรค ก็จะกระทำพฤติกรรมเหล่านั้น เพื่อลดความรุนแรงหรือควบคุมอาการของโรค และทฤษฎีความสามารถตนเอง (Self-efficacy theory) โดยการรับรู้ความสามารถของตนเอง เป็นหนึ่งในแนวคิด 3 ประการของทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมปัญญาของแบนดูรา ซึ่งแบนดูราเห็นว่า ความสามารถของคนเรานั้นไม่ตายตัว หากแต่ยืดหยุ่นตามสภาพการณ์ ดังนั้นประสิทธิภาพของการแสดงออก จึงขึ้นอยู่กับการรับรู้ความสามารถของตนเองในสภาวการณ์นั้นๆ ถ้าเรามีการรับรู้ว่าเรามีความสามารถเราก็จะแสดงออกถึงความสามารถนั้นได้ และมีความอดทน อุตสาหะ ไม่ท้อถอย และจะประสบความสำเร็จในที่สุด
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาทันตสุขภาพของนักเรียนที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง พบว่า เด็กอายุ 12 ปี มีความชุกของโรคฟันผุ ร้อยละ 38.63 และมีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุเฉลี่ย 1.10ซี่/คน (สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดพัทลุง, 2563) ซึ่งพบว่านักเรียนที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลเขาชัยสน ยังมีปัญหาในเรื่องของทันตสุขภาพ ผู้จัดทำโครงการจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพฟันและป้องกันโรคในช่องปากแก่เด็กนักเรียน เนื่องจากช่วงอายุนี้จะมีฟันถาวรขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนม ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลต่อการเกิดปัญหาทันตสุขภาพที่มีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต จากสภาพปัญหาทันตสุขภาพของนักเรียนที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลเขาชัยสนและทฤษฎีดังกล่าว ผู้จัดทำโครงการจึงสนใจที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในเด็กประถมศึกษาชั้นปีที่4-6โดยเน้นการเรียนรู้แบบมีสวนร่วมเข้ามาใช้ในโครงการโดยให้นักเรียนได้สัมผัสและมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน อันจะนำไปสู่การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องด้านทันตสุขภาพ ทำให้ลดภาวะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย ลดการสูญเสียเวลาเรียน ซึ่งจะมีผลก่อให้เกิดการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สมาชิกในครอบครัวและสังคมอีกทั้งยังนำผลของโครงการนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการให้ทันตสุขศึกษาในโครงการส่งเสริมทันตสุขภาพในโรงเรียนอื่นต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6ได้มีกิจกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ร้อยละ ๘๐ ของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6ได้เข้าร่วมกิจกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก |
0.00 | |
2 | เพื่อกระตุ้นเพื่อให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6รักการดูแลสุขภาพช่องปาก ร้อยละ ๘๐ ของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6ได้มีกิจกรรมการแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน |
0.00 | |
3 | เพื่อให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6ได้รับการตรวจประเมินสุขภาพช่องปาก ร้อยละ ๘๐ ของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6ได้ได้รับการตรวจประเมินสุขภาพช่องปาก |
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 10,000.00 | 0 | 0.00 | |
??/??/???? | กิจกรรมจัดกิจกรรมให้ความรู้ และฝึกปฏิบัติ แก่นักเรียนโดยใช้กิจกรรม Health Walk rally จำนวน 3 ฐาน | 0 | 10,000.00 | - |
- เด็กประถมศึกษาชั้นปีที่4-6 มีสภาวะช่องปากที่ดี สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างถูกต้อง
- เด็กนักเรียนรู้จักการแปรงฟันที่ถูกวิธีและตระหนักถึงความสำคัญของการแปรงฟันและรักษาสุขภาพช่องปาก
- เด็กนักเรียนได้รับความรู้การดูแลช่องปาก ส่งผลให้มีฟันที่สะอาดปราศจากคราบจุลินทรีย์
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2564 14:38 น.