โครงการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 2-5 ปี
ชื่อโครงการ | โครงการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 2-5 ปี |
รหัสโครงการ | 64-L3368-3(2) |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสวนโหนด |
วันที่อนุมัติ | 8 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กุมภาพันธ์ 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 20,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านสวนโหนด |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.645,99.878place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 12 มี.ค. 2564 | 20 มี.ค. 2564 | 20,000.00 | |||
รวมงบประมาณ | 20,000.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่มีวัสดุอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)และได้คัดกรองก่อนการเข้า-ออก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีมาตรการดำเนินการในการป้องกันโรค | 100.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
เด็กเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและเป็นอนาคตที่สำคัญของชาติ ในหลายประเทศล้วนมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งจะต้องเริ่มต้นจากเด็ก โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิด – 6ปีซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ และสังคมเด็กในวัยนี้ถ้าจะได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสม และมีการส่งเสริมพัฒนาการที่ดีในแต่ละด้านก็จะทำให้เด็กนั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
ในปัจจุบันมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องถูกฝากเลี้ยงไว้ในศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งเป็นสถานที่มีเด็กอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเด็กเกิดการเจ็บป่วยจะสามารถแพร่เชื้อด้วยการระบาดของโรคไปสู่เด็กคนอื่นๆได้ง่าย ในเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานต่ำจะป่วยบ่อยโรคที่พบบ่อยได้แก่โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและสุขภาพโดยรวมของเด็ก
การระบาดของโรคติดต่อต่างๆอาจจะต้องปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและผู้ปกครองต้องหยุดงานเพื่อดูแลลูกหลานอยู่ที่บ้านทำให้ขาดรายได้จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญถึงการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ในศูนย์เด็กเล็กให้มีประสิทธิภาพ
จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ระลอกใหม่ ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ขณะนี้เริ่มมีการแพร่ระบาดขยายพื้นที่เพิ่มมากขึ้นและยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ทำให้ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตะแพนได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการแพร่เชื่อดังกล่าวจึงได้จัดทำโครงการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 2– 5 ปีขึ้นเพื่อจัดกิจกรรมป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาฝากไว้ให้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดูแลต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อคัดกรองลดการเกิดโรคและการระบาดในเด็ก การเกิดโรคและการระบาดในเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กลดลง |
90.00 | |
2 | เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)ไว้เพื่อคัดกรองการเข้า-ออก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีวัสดุอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)และได้คัดกรองก่อนการเข้า-ออกในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก |
100.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 50 | 20,000.00 | 0 | 0.00 | |
12 - 20 มี.ค. 64 | เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคและเกิดโรคติดต่อ | 50 | 20,000.00 | - |
วิธีดำเนินการ
1.ประชุมชี้แจงนำเสนอโครงการ
2.จัดทำแผนงานโครงการ เพื่อเสนอขอรับงบประมาณสนับสนุน
3.จัดซื้อเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับการดำเนินงานตามโครงการ
ดำเนินการตามมาตรการ ดังต่อไปนี้
1. มีมาตรการการคัดกรองวัดไข้ผู้เรียน ครู และบุคลากรของสถานศึกษา
2. มีมาตรการเข้มงวดให้ผู้เรียนต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานศึกษา
3. มีจุดล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ
4. มีมาตรการเข้มงวดให้ผู้เรียนต้องล้างมือบ่อยๆ
5. มีการจัดเว้นระยะห่างในห้องเรียนตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
6. มีการทำความสะอาดพื้นผิวต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน ทุกห้องเรียน หลังจบการเรียนการสอนหรือทุกสองชั่วโมง
7. มีการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสหรือบริเวณส่วนรวมที่ใช้ร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู
8. มีการเปิดหน้าต่างประตูห้องเรียนเพื่อระบายอากาศตอนพักเที่ยงหรือช่วงไม่มีการเรียนการสอนในห้องนั้น
9. มีมาตรการให้ผู้เรียนลดการจับกลุ่มพูดคุยกันโดยไม่จำเป็น
10. มีมาตรการลดการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก เช่น เข้าค่าย กีฬาสี ฯลฯ
11. มีมาตรการลดความแออัดของผู้เรียนในการใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน เช่น สนามเด็กเล่น โรงอาหาร ห้องสมุด ฯลฯ
12. มีการบริหารจัดการอย่างเข้มงวดสำหรับรถรับ-ส่งนักเรียนให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
1.สามารถลดการเกิดและการระบาดของโรคติดต่อในเด็กเล็ก 2.สามารถป้องกันเฝ้าระวังจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) อย่างถูกต้อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564 13:30 น.