โครงการแกนนำ อสม. ส่งต่อความรู้เสริมสร้างฟันดีสู่แม่และเด็ก 0 - 3 ปี
ชื่อโครงการ | โครงการแกนนำ อสม. ส่งต่อความรู้เสริมสร้างฟันดีสู่แม่และเด็ก 0 - 3 ปี |
รหัสโครงการ | 64-L3368-1(12) |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวนโหนด |
วันที่อนุมัติ | 8 มีนาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 12,465.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวนโหนด |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.645,99.878place |
งวด | วันที่งวดโครงการ | วันที่งวดรายงาน | งบประมาณ (บาท) | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จากวันที่ | ถึงวันที่ | จากวันที่ | ถึงวันที่ | |||
1 | 1 ต.ค. 2563 | 31 ธ.ค. 2564 | 12,465.00 | |||
รวมงบประมาณ | 12,465.00 |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 41 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความรู้เพิ่มขึ้นในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กอายุ 0 - 3 ปี | 80.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคฟันผุเป็นโรคที่พบมากในกลุ่มเด็กปฐมวัย ปัจจุบันฟันผุในเด็กเริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือน และพบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 1 – 3 ปี ฟันผุทำให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง เช่น เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ นอนไม่หลับ และสูญเสียพลังงานเพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อในช่องปาก ส่งผลให้ร่างกายของเด็กเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เกิดภาวะเตี้ย แคระแกร็น และมีเส้นรอบวงสมองเล็กกว่าเด็กปกติได้ (สำนักทันตสาธารณสุขกรมอนามัย, 2556) จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 8 พ.ศ.2560 พบว่าร้อยละ 52.90 ของเด็กไทยอายุ 3 ปีมีฟันผุอย่างน้อยหนึ่งซี่ มีค่าเฉลี่ยฟัน อุด ถอน (dmft) 2.8 ซี่/คน และเมื่อแบ่งลำดับตามภูมิภาคพบว่า ภาคใต้มีฟันผุมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80.2 มีค่า dmft เท่ากับ 5.1 ซี่/คน (สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, 2561)
จากการสำรวจสภาวะช่องปากเด็กปฐมวัย อำเภอศรีบรรพต ปี 2558, 2559,2560 และ2561 พบว่า เด็กอายุ 3 ขวบ มีฟันผุ ร้อยละ 54.9, 58.6, 67.5, และ 59.1ตามลำดับ โดยโรคฟันผุในเด็กเล็กจะลุกลามได้รวดเร็วมากทำให้เด็กจำนวนหนึ่งมีฟันผุเกือบทั้งปาก ปัญหาฟันผุส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของเด็กเล็ก การป้องกันฟันผุที่ได้ผลดียิ่งคือการแปรงฟันให้ถูกวิธี ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และลดการบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อฟันผุ ร่วมกับการส่งเสริมทันตสุขภาพ และต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ดูแลเด็กในการดูแลทันตสุขภาพร่วมด้วย จากการบูรณาการคลินิกหมอครอบครัว และเสริมสร้างภาคีเครือข่าย ทำให้ในหลาย ๆ พื้นที่ จัดตั้งทีมหมอครอบครัวเพื่อลงเยี่ยมบ้านคนในชุมชน พร้อมจัดอบรมด้านทันตสุขภาพแก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อให้มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลทันตสุขภาพเด็กเล็กและคนในชุมชน แต่จากการลงพื้นที่เพื่อสำรวจชุมชนในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวนโหนด ยังไม่เคยมีการจัดทำโครงการทันตสุขภาพในชุมชนมาก่อน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้รับการอบรมเรื่องทันตสุขภาพ ทำให้ไม่มีความรู้เพียงพอในการแนะนำปัญหาด้านทันตสุขภาพแก่คนในชุมชน และจากการลงสำรวจปัญหาทันตสุขภาพในชุมชนโดยการทำประชาคมหมู่บ้าน พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่คือ ผู้ปกครองไม่มีความรู้ในเรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหรือทำความสะอาดช่องปากได้อย่างถูกต้อง ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าลูกฟันยังไม่ขึ้นจึงไม่ต้องทำความสะอาด เมื่อฟันซี่แรกขึ้นก็ใช้แปรงสีฟันอย่างเดียวโดยไม่ใช้ยาสีฟัน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นผลทำให้เด็กเกิดฟันผุ และผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องดูแลลูก จึงไม่สะดวกที่จะเดินทางไปพบทันตบุคลากรเพื่อรับคำแนะนำ ด้วยเหตุนี้ งานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวนโหนด จึงมีความสนใจที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องความรู้ของผู้ปกครองต่อการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก โดยการบูรณาการแผนงานของกระทรวงสาธารณสุขในการส่งเสริมป้องกันโรคในช่องปากของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี โดยการให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กแก่ผู้ปกครอง และเสริมสร้างภาคีเครือข่าย เพื่อให้มีบทบาทหน้าที่ในการเป็นนักจัดการทันตสุขภาพเด็กเล็กในชุมชน งานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวนโหนด จึงจัดทำโครงการส่งเสริมป้องกันทันตสุขภาพในกลุ่มเป้าหมายหลัก เพื่อออกให้บริการทันตกรรมป้องกัน เน้นการส่งเสริม เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความรู้เพิ่มขึ้นในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กอายุ 0 - 3 ปี ร้อยละ 80 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีความรู้หลังจากได้รับการอบรมมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80 ของคะแนนทั้งหมด |
80.00 | |
2 | เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านสามารถปฏิบัติวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กอายุ 0 - 3 ปีได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80 ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านสามารถปฏิบัติวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กอายุ 0 - 3 ปีได้อย่างถูกต้อง โดยประเมินจากการปฏิบัติในหุ่นจำลอง |
80.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 41 | 12,465.00 | 0 | 0.00 | |
1 ต.ค. 63 - 31 ธ.ค. 64 | 1.จัดโครงการอบรมแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน2.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านลงเยี่ยมบ้านผู้ปกครองของเด็กอายุ 0 - 3 ปี | 41 | 12,465.00 | - |
1.สำรวจเป้าหมายในกลุ่ม 0 - 3 ปี ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสวนโหนด 2.เขียนโครงการและขออนุมัติโครงการ 3.กำหนดกลุ่มเป้าหมายตัวแทน อสม. หมู่ละ 5 คน ทั้ง 4 หมู่ รวมตัวแทน อสม. ทั้งหมด 20 คน 4.จัดอบรม อสม. แกนนำในด้านทันตสาธารณสุขในเด็ก 0 - 3 ปี 5.อสม. แกนนำทันตสาธารณสุขออกเยี่ยมบ้านพร้อมทั้งให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็ก 0 - 3 ปี จำนวน 41 คน 6.อสม. แกนนำทันตสาธารณสุขติดตามผลการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็ก 0 – 3 ปี จำนวน 41 คน 7.ประเมินผลโครงการ
1.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านทุกคนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังการอบรมและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นได้ 2.ผู้ปกครองเด็ก 0-3 ปี ในชุมชนได้รับความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธีจากการถ่ายทอดของอาสาสมัค
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 10:40 น.