กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"หนูน้อยฟันดีเริ่มที่ซี่่แรก จังหวัดนราธิวาส" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลสามัคคี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.สามัคคี ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
หนูน้อยฟันดีเริ่มที่ซี่่แรก

บทคัดย่อ

โครงการ " หนูน้อยฟันดีเริ่มที่ซี่่แรก " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลสามัคคี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส รหัสโครงการ 005 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 สิงหาคม 2560 - 31 ธันวาคม 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 15,000.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.สามัคคี เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ฟันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ช่วยให้เด็กมีรอยยิ้มและรู้สึกเชื่อมั่นในตนเองสามารถบดเคี้ยวอาหารและออกเสียงได้ดีช่องปากถือว่าเป็นประตูของสุขภาพ เป็นด่านแรกของระบบย่อยอาหารในการบดเคี้ยวและกลืนอาหารเป็นหน้าที่สำคัยของอวัยวะส่วนนี้ ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์และสร้างสุขภาพดี โรคฟันผุในเด็กปฐมวัยเป็นปัญหาสำคัญในระดับประเทศในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา อัตราความชุกของโรคฟันผุของเด็กในประเทศอุตสาหรรมลดลงอย่างมากจากการใช้ฟลูออไรด์และการแปลงฟันสมำ่เสมอ แต่สำหรับประเทศไทยอัตราความชุกของโรคฟันผุในเด็กปฐมวัยมีแนวโน้สูงขึ้นเรื่ิิอยๆโดยเฉพาะในเขตชนบทจากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 7 โดยกองทันตสาธารณสุข พ.ศ 2555พบว่า เด็กไทยอายุ 3 ปี มีความชุกในการเกิดโรคฟันผุ ร้อยละ 51.8 มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด (dmft) 2.7 ซี่/คน แม้จะเพิ่งมีฟันน้ำนมขึ้นครบ แต่ร้อยละ 3.2 ของเด็กเริ่มมีประสบการณ์สูญเสียในช่องปากแล้วทั้งที่ฟันน้ำนมควรหลุดตามปกติในช่วงอายุ 6-13 ปี ส่วนภาคที่มีอัตราตวามชุกของโรคฟันผุในวัยนี้สูงสุด คือ ภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่างพบว่าเด็กอายุ 3 ปี มีอัตราความชุกของโรคฟันผุร้อยละ 61.0 ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด (dmft) 3.1 ซี่/คน รวมถึงจังหวัดนราธิวาสมีซึ่งของโรคฟันผุในปี 2559 ร้อยละ 57.46 (ฝ่ายทันตสาธารณสุขสำนักงานจังหวัดนราธิวาส) และจากผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของอำเภอรือเสาะในปี 2559 พบว่าเด็กอายุ 3 ปี มีอัตราความชุกของโรคฟันผุร้อยละ 59.93 ส่วนในเขตของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบาโงกือเตะ มีอัตราความชุกของโรคฟันผุถึงร้อยละ 83.33 ซึ่งสูงกว่าในระดับประเทศมากจึงเป็นปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสนใจและควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบาโงกือเตะ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปากในเด็กกลุ่มนี้ จึงได้จัดทำโครงการหนูน้อยฟันดี เริ่มที่ซี่แรก เพื่อเสริมสร้างให้ผู้ปกครองมีพฤติกรรมที่ดีในการดูแลสุขภาพช่องปากของลูกน้อยตั้งแต่หลังคลอดจนถึงก่อนเข้าโรงเรียน โดยเน้นในเรื่องการให้ความรู้และฝึกทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กเล็กแก่ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กร่วมกับการใช้ฟลูออไรด์เฉพาะที่ในการป้องกันฟันผุ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองตั้งแต่เล็กที่สำคัญช่วยให้เด็กไม่ต้องสูญเสียฟันก่อนกำหนด มีฟันน้ำนมที่สวย สะอาดต่อเนื่องไปถึงฟันแท้ในอนาคต

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1.เพื่อให้เด็กอายุ 0-2 ปี ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากและเคลือบฟลูออไรด์วานิช 2.เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับโรคในช่องปาก การป้องกัน การรักษาและการบริโภคอาหารทีเหมาะสม 3.เพื่อลดอัตราการเกิดโรคในช่องปากและฟันของเด็กปฐมวัย

กิจกรรม/การดำเนินงาน

1. จัดซื้อวัสดุประกอบโครงการ"หนูน้อยฟันดี เริ่มที่ซี่แรก"

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. ผู้ปกครองเด็กอายุ 0-2 ปี มีความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากและสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม นำสู่การการลดภาวะการเกิดโรคในช่องปากของเด็ก

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น