โครงการ ชุมชนร่วมใจต้านภัยโควิด -19
ชื่อโครงการ | โครงการ ชุมชนร่วมใจต้านภัยโควิด -19 |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลควนโดน |
วันที่อนุมัติ | 9 กรกฎาคม 2564 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 9 กรกฎาคม 2564 - 30 กันยายน 2564 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 73,800.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 449 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของคนในชุมชนที่มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องโควิด-19 จนสามารถปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโควิด-19 เช่น การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่างทางสังคม กินร้อน ช้อนส่วนตัว ไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน ได้ถูกต้อง | 100.00 | ||
2 | ร้อยละของสถานที่ในชุมชน (ตลาด ศาสนสถาน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน สนามกีฬา และสถานที่ทำงาน) ที่ใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 | 100.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ด้วยสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงเดือนเมษายน จวบจนปัจจุบัน มีอัตราการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและในวงกว้างส่งผลให้ประชาชนติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ ประเทศไทย มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสมจำนวน 240,452 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4146 รุนแรง 1662 คนและเสียชีวิต 1870 คน (ข้อมูล ณวันที่ 26 มิถุนายน 2564)ซึ่งในระดับจังหวัดสตูล รายใหม่ 8 คน สะสม 96 คน รักษา 103 คน และระหว่างการรักษา 77 คน โดยอำเภอควนโดน เกิดการติดเชื้อและการระบาดของไวรัสโควิด-19 จากผู้ที่เดินทางมาจากคลัสเตอร์ที่มีการระบาด จากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นนักเรียนมาจากโรงเรียนตะห์ฟีซุลกุรอานมัรกัสยะลา จำนวน 10 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลถึงพื้นที่ตำบลควนโดน ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเดินทางกลับมา จำนวน 2 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อโควิด-19จำนวน 1 คน และไม่พบเชื้อ 1 คน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 3 คน ซึ่งได้ทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้ง 3 คน ตรวจไม่พบเชื้อ โควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ ที่ผ่านมาของพื้นที่ มีผู้ที่เดินทางผ่านเข้ามาผ่านการส่งระบบรายงาน ของ อสม. จำนวน 449 คน จากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เข้มงวด จำนวน 32 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด 214 คน พื้นที่ควบคุม 202 คนอยู่ในสถานที่รัฐจัดให้( LQ) ที่ไปกักตัว ณ เขตพื้นที่อื่น คงเหลือ ณ ปัจจุบัน 2 คน (อยู่ LQ ราชภัฎละงู และ ศูนย์ฝึกอาชีพ)เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง และยังไม่มีการดำเนินการแบบเต็มรูปแบบของสถานที่กักตัว ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สกัดการระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที ประกอบกับ ณ ปัจจุบันพื้นที่รอบนอก รอยต่อกันระหว่างตำบลเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อกังวลใจของทีมทำงาน หากพื้นที่ยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนในสถานที่กักตัว (LQ) และมาตราการการกักตัวที่รัดกุมในที่พักอาศัย (HQ) ได้มาตราฐาน อาจส่งผลถึงการระบาดของโรคที่ควบคุมได้ยากยิ่งขึ้น จากการวิเคราะห์การทำงานที่ผ่านมา ทีมงาน อสม. ถือเป็นกำลังหลักสำคัญมากในการเฝ้าระวังโรคในชุมชน เป็นด่านหน้าที่ต้องเร็ว ทั้งด้านการสอดส่องคนในพื้นที่การคัดกรอง การส่งข้อมูล การติดตาม การรายงาน การเฝ้าสังเกตอาการ ซึ่งล้วน มีบทบาทสำคัญที่ทุกคนตั้งใจทำ แต่ที่ผ่านมา พบว่า การเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง หรือสัมผัสเสี่ยงสูง ยังกระจัดกระจาย และมีความเสี่ยงในการกักตัวเพื่อการสังเกตอาการ เกิดความเสี่ยงกับคนในครอบครัว และชุมชน ประกอบกับอุปกรณ์การทำงานและการคัดกรองโรคในชุมชนยังมีน้อย ต้องหมุนเวียนกันใช้และที่มีอยู่ที่เคยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เกิดชำรุด และบางเครื่องก็อ่านค่าได้ไม่แน่นอน และมีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน และเพื่อให้พื้นที่ปลอดภัยหรือสามารควบคุมโรคได้หากในอนาคตสถานการณ์ยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้นและให้เป็นไปตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติเดียวกัน จึงลงความเห็น มีมติ ในการจัดหาอุปกรณ์ ที่เพียงพอและมีคุณภาพในการปฏิบัติงาน ขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อม รับสถานการณ์ การระบาดของของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มการระบาด และการวางแนวทางการปฏิบัติการป้องกันโรคในสถานที่สำคัญของชุมชนร่วมด้วย เช่น มัสยิด วัด ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมของชุมชน และเกิดระบบการคัดกรองและเฝ้าระวังโรคได้อยา่งมีประสิทธิภาพเกิดระบบชุมชนห่วงใยกันและกัน ในยามวิกฤติ ที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน นำชุมชนเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ ปลอดภัยจากโควิด-19 ไปด้วยกัน
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อการคัดกรองโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 100 มีอุปกรณ์พร้อมใช้ |
100.00 | 2.00 |
2 | เพื่อให้แกนนำ อสม. มีความรู้และทักษะการควบคุมโรคเพิ่มมากขึ้น มี อสม.แกนนำด้านการควบคุมโรค 16 คน |
100.00 | 16.00 |
3 | เพื่อให้สถานที่ในชุมชนมีการเฝ้าระวังตามาตราการโควิด- 19 1.มีแนวทางการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 2.สถานที่ในชุมชน (มัสยิด)มีการดำเนินการตามาตราการเฝ้าระวังโควิด-19 |
100.00 | 8.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 73,800.00 | 0 | 0.00 | |
14 - 17 ก.ค. 64 | จัดพัฒนาศักยภาพ อสม.แกนนำด้านการควบคุมโรคในชุมชน | 0 | 0.00 | - | ||
16 - 20 ก.ค. 64 | จัดทำแนวทางการคัดกรองและการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 | 0 | 45,800.00 | - | ||
19 ก.ค. 64 | จัดให้สถานที่ในชุมชนมีการเฝ้าระวังตามมาตราการโควิด- 19 | 0 | 28,000.00 | - |
1.เกิดระบบมาตราฐานเป็นรูปแบบที่ชัดเจนในการมีสถานที่กักตัว(LQ)และระบบ HQ ที่มีคุณภาพ
2.ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด 19 ได้รับการกักตัว 100 %
3.ประชาชนมีความรู้ในการดูแลตนเอง สามารถป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ได้
4. สถานที่สำคัญในชุมชนมีมาตราการที่รัดกุม ได้มาตราฐาน ในการคัดกรองโรคโควิด-19
5. เกิดชุมชนห่วงใยและเอื้ออาทรร่วมกัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2564 00:00 น.